xs
xsm
sm
md
lg

โอละพ่อ!สาวทายาทร้อยล้าน‘ปทุมวาสนา’สารภาพจัดฉากถูกอุ้ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

จากกรณี น.ส.ชนิตา กินนิส อายุ 38 ปี อ้างตัวเป็นทายาทมรดกหลายร้อยล้านของตระกูลปทุมวาสนา ที่ถูกฆ่ายกครัว 5 ศพ ที่บ้านย่านลาดพร้าว เมื่อปี 52 และเป็นพยานในคดีพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถูกคนร้ายจี้ตัวจากห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านรามอินทรา ก่อนบังคับนำตัวขึ้นรถแท็กซี่ ถูกมัดมือ รัดคอ และถูกตีด้วยของแข็ง นำมาทิ้งไว้ที่สนามกอล์ฟสุภาพฤกษ์ ใกล้กับ ม.เอแบค อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการนั้น

ล่าสุดรายงานข่าวแจ้งว่าน.ส.ชนิตา ได้รับสารภาพว่าจ้างคนเพื่อจัดฉากมาอุ้มตัวเอง ซึ่งทำไปเพื่อประชดแฟนหนุ่ม โดยเจ้าหน้าที่เตรียมแถลงข่าวในช่วงเช้าวันนี้ (9 มี.ค.) พร้อมแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จกับ น.ส.ชนิตา

โดยก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาราชการแทนผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีดังกล่าวว่า จากคำให้การของผู้เสียหาย และจากพยานทั้งคนขับรถแท็กซี่ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามกอล์ฟ พบว่ามีหลายจุดที่คำให้การยังขัดแย้งกัน

จากการสอบสวนทั้ง น.ส.ชนิตา ผู้เสียหาย และนายประชา ผ่องใส คนขับรถแท็กซี่ ซึ่งได้จอดรับผู้เสียหายและคนร้าย เพื่อนำไปส่งที่สนามกอล์ฟจุดเกิดเหตุ พบว่าทั้งสองให้การขัดกัน

โดยจากการสอบสวน น.ส.ชนิตา ได้ให้การว่า ขณะจะเข้าไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม หน้าห้างสรรพสินค้าย่านรามอินทรา ก็มีคนร้ายสวมแว่นตาสีดำ ใส่หมวกแก๊ป และเสื้อแจ็คเก็ต ใช้มีดจี้บังคับไปขึ้นรถเก๋งสีดำแต่จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ ที่มีคนร้ายอีกคนขับมาจอดรอที่หน้าห้างฯ

หลังจากที่ขึ้นไปบนรถแล้ว คนร้ายได้โทรรายงานไปยังหัวหน้าทีมว่าได้นำตัวผู้เสียหายมาแล้ว ก็มีเสียงตอบรับพร้อมกับคำสั่งกลับมาว่า ให้จัดการได้เลย ระหว่างทางก็เลยถูกคนร้ายใช้ของแข็งไม่ทราบชนิดทุบเข้าที่ศีรษะ แต่ น.ส.ชนิตา เอามือป้องไว้ได้ทัน เลยทำให้บาดเจ็บไม่มากและก็ยังมีสติ

หลังจากถูกทำร้ายแล้ว คนร้ายก็สับเปลี่ยนรถ พาไปขึ้นรถแท็กซี่ ที่จอดอยู่ภายในซอยมัยลาภ หลังจากนั้นคนขับ ได้ขับรถพาบุคคลทั้ง 2 โดยพาขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี ก่อนวิ่งลงมาจากทางด่วน และพาเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ ระหว่างทางผู้เสียหายถูกคนร้ายนั่งประกบมาตลอด ก่อนพาเข้าไปจอดตรงจุดเกิดเหตุ ที่มีคนร้ายอีกคนที่มายืนรออยู่แล้ว หลังจากนั้น น.ส.ชนิตา ก็ถูกทำร้ายจนสลบไป ก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือ

ด้านนายประชา คนขับแท็กซี่ ให้การว่า รับ น.ส.ชนิตา และผู้ชายอีกคนหนึ่งจากซอยมัยลาภ โดยฝ่ายชายนั่งเบาะหน้าคู่กับตน ขณะฝ่ายหญิงนั่งอยู่เบาะหลัง ระหว่างนั้นทั้งคู่ไม่มีท่าทีพิรุธอะไร ที่จะเป็นการบ่งชี้ว่าฝ่ายหญิงถูกบังคับมา โดยให้ไปส่งในจุดที่เกิดเหตุ และฝ่ายหญิงยังเป็นคนจ่ายค่าโดยสารอีกด้วย

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่หน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านรามอินทรา ทางเจ้าหน้าที่ตำรววจ ยังพบด้วยว่า น.ส.ชนิตา ได้เดินไปขึ้นรถเก๋งสีดำไปเอง ลักษณะไม่เหมือนกับการถูกบังคับแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น