xs
xsm
sm
md
lg

คำต่อคำ : คืนความสุขให้คนในชาติ 6 มีนาคม 2558

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สวัสดีครับ พี่น้องประชาชนที่รักทุกท่าน ในวันที่ 8 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันสตรีสากล คนไทยนั้น ไม่ว่าจะเชื้อชาติ ศาสนา หรืออาชีพใด ก็คงจะต้องร่วมเฉลิมฉลองความเสมอภาค และแสดงให้เห็นถึงความเท่าเทียมกันในสังคม ในปีนี้จะตรงกับวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ที่ผ่านมาประเทศไทยได้แสดงเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นให้เห็นความสำคัญของสุภาพสตรีมาโดยตลอด รวมถึงได้มีการก่อตั้งคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานสตรีแห่งชาติ ที่เรียกว่า กสส. ขึ้นเป็นทางการ เพื่อจะส่งเสริม สนับสนุนบทบาทของผู้หญิงในสังคม ให้รำลึกถึงความเป็นมาแห่งการต่อสู้เพื่อให้ได้ซึ่งความเสมอภาค ยุติธรรม สันติภาพ และการพัฒนา

ในโลกยุคใหม่นั้น ให้ความสำคัญและยอมรับผู้หญิงมากขึ้น ทำให้ผู้หญิงในปัจจุบันมีบทบาทอย่างแพร่หลายต่อการขับเคลื่อนของสังคม ผมขอให้พี่น้องชาวไทยทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพ บทบาทของสตรีในสังคมไทยให้มากขึ้น หลายท่านจะเห็นได้ว่ามีศักยภาพจนเป็นที่ประจักษ์ และเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม ของประเทศ ในปีนี้นั้นครบรอบ 20 ปี ของการรับรองปฏิญญา และแผนปฏิบัติการเพื่อความก้าวหน้าของสตรี ที่จะมุ่งเน้นในเรื่องของการให้เลือกปฏิบัติต่อสตรี การขจัดสิ่งกีดกั้น การสร้างความเสมอภาคระหว่างหญิงชาย ที่สตรีในประเทศต่างๆ เกือบทั่วโลกเผชิญอยู่ อาทิ การใช้ความรุนแรง การเข้าถึงการบริการด้านการศึกษา และด้านสุขภาพ

นอกจากนั้นแล้ว รัฐบาลเรายังให้ความสำคัญกับการดูแลผู้หญิงที่ถูกหลอกลวง การค้ามนุษย์ และโสเภณีต่างๆ ด้วย ในเรื่องของการรณรงค์ลด ละ เลิกการสูบบุหรี่รวมอยู่ด้วย ว่าจะต้องไม่รบกวนผู้อื่นทั้งผู้หญิงและเด็ก และการเปิดกว้างด้านความเสมอภาคระหว่างหญิง ชาย เพื่อการพัฒนาประเทศชาติ ร่วมมือกันต่อไปนะครับ

ห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีข่าวดีๆ ในเรื่องของความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย ในมุมมองของสื่อต่างประเทศชั้นนำ อย่างบลูมเบิร์กที่จัดอันดับเปรียบเทียบประเทศที่มีความทุกข์เชิงเศรษฐกิจจากการทำ มิสเซอรี อินเด็กซ์ ปี 2015 ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความทุกข์น้อยที่สุดในโลก ก็น่ายินดีนะครับ

จากการวิเคราะห์ตัวเลขเชิงเศรษฐกิจ เนื่องจากประเทศไทยมีอัตราการว่างงานที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ โดยสิ้นปี 2557 นั้น อัตราว่างงานอยู่ที่ 0.56 เปอร์เซ็นต์ ลดมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2545 มีอัตราการว่างงานอยู่ที่ 5.73 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อของไทยยังอยู่ในระดับต่ำ โดยปัจจัย 2 ด้านนี้ ทางบลูมเบิร์กมองว่าเป็นปัจจัยหลักในการวัดระดับความทุกข์ของประชาชน เราก็เป็นอย่างนี้ทั้งโลกนะครับ เราเป็นอันดับ 1 เลยนะครับ อันนี้ต้องขอขอบคุณสื่อไทยบางสื่อด้วย ที่มีการหยิบยกเรื่องดีๆ มานำเสนอให้รับรู้ อย่างเรื่องการวิเคราะห์ปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นกลาง ไม่ใช่นำเสนอแต่ด้านลบเพียงอย่างเดียว หรืออะไรที่มันน้อยลง ลดลง ทำนองนี้ มันเป็นด้วยกันทั้งหมดครับในอาเซียน ทั้งในประชาคมโลกอื่นๆ ด้วย แต่ส่วนที่เรายังดีอยู่มีเยอะแยะไปนะครับ หากว่าเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้าน รอบๆ บ้านเรา มาเทียบเคียงกับของประเทศไทยด้วย จริงๆ แล้วเราจะรู้ว่าประเทศไทยนั้นยังมีการเจริญเติบโต และมีความสามารถในการแข่งขันที่ดีกว่าประเทศอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลก็รับทราบปัญหาในห้วงที่ผ่านมา ว่ามันส่งผลกระทบมาถึงปัจจุบัน เพราะฉะนั้นเราก็คงต้องให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ เป็นโอกาสแรกเลย เพราะถือเป็นความเดือดร้อนของประชาชน ก็ต้องดูหลายๆ มิติด้วย

ในสัปดาห์นี้ก็มีเรื่องเรียนให้พี่น้องประชาชนทราบถึงการขับเคลื่อนงานสำคัญของรัฐบาล ดังนี้

เรื่องการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ เราได้วางแผนงบประมาณใหม่ ได้มีการกำหนดมาตรการการเบิกจ่ายเพิ่มเติมในรัฐบาลนี้ แตกต่างกับรัฐบาลที่ผ่านมาทั้งหมด เพื่อเน้นในเรื่องความทั่วถึง เท่าเทียม โปร่งใส มีประสิทธิภาพ เราได้เริ่มมา 4 ด้านด้วยกัน ในการจัดทำงบประมาณปี 58 ก็คือ 1. มีการระบุโครงการที่ชัดเจน ตั้งแต่ในขั้นตอนกระบวนการเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 รวมถึงการระบุโครงการในส่วนของท้องถิ่น ซึ่งในอดีตไม่เคยมีการทำมาก่อน ทั้งนี้ เพื่อให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ให้ทำเม็ดเงินเข้าสู่ท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. คือการตั้งเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณที่สูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าหมายการเบิกจ่ายทั้งปีสูงขึ้นถึง 92 เปอร์เซ็นต์ เพื่อจะเป็นการกระตุ้นทุกภาคส่วนให้เร่งเบิกจ่าย ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 เป็นต้นไป มีการเบิกจ่ายงบประมาณไปแล้ว 42.55% และคาดว่าสามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายของไตรมาส 2 ที่ 55%

3.มีการจัดตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เพื่อให้มีการตั้งงบประมาณในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว มีการตรวจสอบและรับผิดชอบการเบิกจ่ายโครงการต่างๆ

4.มีมาตรการดูแลการจ้างงานและช่วยเหลือคนในท้องถิ่น รวมถึงเกษตรกรเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนกระตุ้นให้งบประมาณลงสู่ประชาชนในภูมิภาคได้โดยตรง

สำหรับปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้านั้น ผมได้สั่งการและกับชับให้กระทรวงมหาดไทย กรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้หาทางลดระยะเวลาในการเบิกจ่ายงบประมาณ แต่ต้องโปร่งใสนะครับ และอนุมัติโครงการโดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการด้านการติดตาม กำกับดูแล ซึ่งทุกฝ่ายกำลังเร่งดำเนินการอยู่นะครับ

ในเรื่องของการส่งเสริมเอสเอ็มอี โอท็อป ใน กทม. ต่างจังหวัด และท้องถิ่นทั้งหมด ผมได้สั่งการในที่ประชุม ครม.ในห้วงวันอังคารที่ผ่านมา ให้มีการส่งเสริมให้เกิดเถ้าแก่น้อยรายใหม่ๆ เพื่อจะเป็นการส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอีให้มีศักยภาพมากขึ้นในประเทศ เพื่อจะเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ส่งเสริมการผลิตสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ ให้ สสว. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง จัดทำเป้าหมายกิจการที่ควรสนับสนุนร่วมกัน จังหวัดละ 4-5 อย่าง เราจะมาจัดระเบียบ และมาหาเงินสนับสนุนให้ ก็ขอความร่วมมือด้วยให้ขึ้นทะเบียนให้กิจกรรมที่ท่านต้องการ กิจกรรม หรือกิจการใดๆ ก็ตามที่ท่านต้องการให้เราส่งเสริมมันจะได้เร็วขึ้น ถ้ามัวแต่เสนอผ่านตามขั้นตอนมันเสียเวลามันช้า เราต้องเร่งรัดให้ได้โดยเร็วภายใน 6 เดือนนี้ กิจการเอสเอ็มอี โอท็อปในแต่จังหวัดที่คิดว่ามีตลาดจริงๆ และมีผลผลิตที่ออกมาสามารถทำได้ ถ้าเขาสั่งมาเป็นจำนวนมากเหล่านี้ พร้อมที่จะช่วยเหลือได้ตรงตามเป้าหมาย และรวดเร็วด้วย

ในเรื่องของการส่งเสริมเงินลงทุนภาครัฐ มีหลายอย่างด้วยกัน ทั้งของส่วน สสว. ส่วนของกระทรวง ทบวง กรม และเราให้มีการทำในเรื่องของการลงทุนสาธารณะเพิ่มขึ้น Crowd Funding เพื่อจะเชื่อมโยงความร่วมมือด้านตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารรัฐ โดยให้กระทรวงการคลังดำเนินนโยบาย เพื่อให้เกิดกองทุน Venture Capital เพื่อส่งเสริมการลงทุนต่างๆ โดยเฉพาะการช่วยเหลือเอสเอ็มอี กองทุนร่วมลงทุนในเอสเอ็มอี ที่เราเรียกว่า SMEs Private Equity Trust Fund จะเร่งดำเนินการให้เกิดผลโดยเร็ว เพื่อจะได้ช่วยเหลือเข้าร่วมลงทุนในกิจการ โดยเฉพาะสินค้านวัตกรรมต่างๆ สร้างให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ ในประเทศ อันนี้ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาดูร่วมด้วย

เรื่องการโซนนิ่งพื้นที่เกษตรกรรม พูดกันมาเยอะหลายรัฐบาลแล้ว ยังไม่เคยทำได้ วันนี้เราต้องริเริ่มให้ได้ และดำเนินการให้ได้จริงอย่างเป็นรูปธรรมบางส่วนในพื้นที่ด้านการเกษตรแต่ละจังหวัดนั้น ต้องมีการเกื้อกูลระหว่างกัน เพราะว่าตรงไหนมีน้ำจะปลูกข้าวได้ ปลูกพืชใช้น้ำมากได้หลายครั้ง ตรงไหนไม่มีน้ำ เราอาจจะส่งเสริมเป็นแหล่งผลิตพืชที่ใช้น้ำน้อย หรือทำปุ๋ยอินทรีย์ ก็ต้องส่งเสริมไป และไปชี้แจงทำความเข้าใจกับเขา และทำให้ชัดเจนขึ้นว่า ทำต่อไปก็เสียหาย ทำต่อไปก็ไม่ได้กำไร ขาดทุนตลอด ถ้ามันเกื้อกูลกันได้ ตรงนี้น้ำมาก ตรงนี้น้ำน้อยก็ทำปุ๋ย สนับสนุนน้ำมากให้ทำไป เราก็ได้ราคาค่าปุ๋ยมา ดีกว่าไปทำข้าวแล้วตาย ขาดทุน หรือปลูกพืชที่มันขาดทุนนะครับ ให้กระทวงเกษตรมาช่วยไปดูแลให้ชัดเจนขึ้น ผ่านสหกรณ์ กองทุนต่างๆ กลุ่มเกษตรกรทุกคนต้องช่วยกันทำความเข้าใจ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทัศนคติใหม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน เราก็ไม่อยากบังคับท่าน แต่ขอให้ทำตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เกษตร ชลประทาน มหาดไทย

สิ่งที่ผมอยากให้มีข้อมูลเพิ่มขึ้นคือ ข้อมูลให้ประชาชนทราบ วันนี้ ราชการทราบอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ประชาชนต้องทราบด้วยว่า บ้านที่เราอยู่มีน้ำเพียงพอไหม ชลประทานมีโอกาสมาถึงหรือเปล่า ไฟฟ้าจะมาได้ยังไง เรื่องของน้ำใต้ดินมีหรือเปล่า สภาพดินเป็นยังไง ปลูกพืชอะไร ต้องฟังนะครับ อันนี้ผมให้ทำเป็นแอปเข้าไปในโทรศัพท์ด้วยว่า สิ่งเหล่านี้เป็นประโยชน์ ทุกกระทรวงจะใส่เข้าไปด้วยทั้งหมด เป็นความรู้เพื่อประชาชน อันนี้สั่งการไปแล้ว ขอให้ติดตามเรื่องนี้ด้วย และขอให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม เร่งขับเคลื่อนสิ่งที่เป็นประโยชน์ประชาชน ไม่ใช่การประชาสัมพันธ์อย่างเดียว ผมอยากให้เป็นการให้ความรู้ประชาชน เพื่อประกอบอาชีพได้ถูกต้อง ทำยังไง ควรเป็นอย่างไรมันจะได้อธิบายกัน ไม่ต้องซ้ำๆ แบบที่ผมต้องพูดทุกอาทิตย์

เรื่องการสัญจรทางน้ำ วันนี้เรามีแม่น้ำลำคลองมากมาย รัฐบาลก็จะส่งเสริมการสัญจรทางน้ำให้มากขึ้น ถนนบางครั้งเราก็สร้างไม่ไหว 1. ทุนแพงขึ้น 2. มันไปขวางเส้นทางน้ำ และต้องทำ EIA อะไรต่างๆ อีก มันก็ไม่ผ่านอีก ประชาชนก็ไม่เห็นชอบ เหล่านี้ก็น่าที่จะต้องไปพัฒนาการสัญจรทางน้ำให้มากขึ้น โดยเฉพาะคลอง แม่น้ำ ที่มันผ่านเมืองสำคัญๆ นั้น ก็น่าจะพัฒนาให้มีทางสัญจรเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการช่วยลดปัญหาการจราจร การลงทุนในเรื่องของถนน สะพานต่างๆ เช่น ถ้าในเมืองก็เป็นเรือพาย เรือจ้าง ไม่มีเครื่องยนต์ สำหรับรับ-ส่งคน และส่งเสริมท่องเที่ยวด้วย อาจจะเป็นที่ผมเคยเรียกว่ากอนโดราเมืองไทย ก็เอาเรือจ้างมาทำสวยๆ ในพื้นที่ตอนใน เสียงไม่หนวกหู ไม่สร้างมลพิษ แต่รอบนอกก็อาจจะใช้เครื่องได้

อยากให้เพิ่มในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยทางน้ำ อุปกรณ์ช่วยชีวิต ชูชีพ อะไรต่างๆ ท่าน้ำต่างๆ ต้องปลอดภัย เรือด่วน เรือเมล์อะไรต่างๆ ในส่วนของคูคลองต่างๆ ที่มันสามารถทำได้ ก็เปิดเป็นตลาดน้ำเพิ่มเติม มีการค้าขาย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ให้ได้อย่างที่รัฐบาลพยายามทำให้เป็นตัวอย่างอยู่ อยากให้ทำให้สำเร็จภายใน 6 เดือน ทั้ง กทม.และต่างจังหวัด นับตั้งแต่เดือนมีนาคม เป็นต้นไป ก็ขอให้รายงานให้ทราบถึงผลการปฏิบัติของท่านด้วย ว่าทำได้หรือไม่ ในจังหวัดใดที่มีคูคลอง มีแม่น้ำ มันก็น่าจะเปิดเส้นทางสัญจรทางน้ำได้มากขึ้น นอกจากการท่องเที่ยวอย่างเดียว มีเรือเร็ว เรือด่วน ให้ปลอดภัย มีภาคเอกชนไหนที่สนใจก็สามารถติดต่อเข้ามาที่กระทรวงคมนาคม กรมเจ้าท่า หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทันที ขอให้เร็วด้วย เหมือนที่มีในแม่น้ำเจ้าพระยา ไปทำที่อื่นด้วยก็ดี น่าจะดีนะ มันจะได้ลดเรื่องการเดินทางด้วยรถยนต์ลงไปบ้าง

เรื่องการสร้างตลาดชุมชน ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยได้จัดทำโครงการตลาดนัดชุมชน ไทยช่วยไทย คนไทยยิ้มได้ เพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายแก่เกษตรกรโดยตรง และส่งเสริมให้เกษตรกรมีความรู้เรื่องราคา เรื่องระบบการตลาด ลดทอนอำนาจพ่อค้าคนกลาง และให้พี่น้องในชุมชนได้มีโอกาสเลือกซื้อสินค้าคุณภาพดี บางคนไม่ทราบว่าบ้านเรามีอะไรปลูกอยู่แล้ว หรือขายอะไรที่มันดีๆ ส่วนใหญ่ไปขายข้างนอกหมด ฉะนั้นถ้าพื้นที่เดียวกันได้รับประทาน ได้ใช้อุปโภคบริโภค ก็แลกเปลี่ยนแนวทางพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ก็คือว่า ลดค่าใช้จ่าย ปลูกไว้ทานเอง ถ้าเหลือก็แลกเปลี่ยนกัน เหลือมากกว่านั้นก็ขาย ถ้าขายแล้วเหลืออีกก็ลงทุนสร้างโรงงาน สร้างการผลิตต่างๆให้เกิดขึ้น เป็นแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ อยู่แล้ว

วันนี้ที่รัฐบาลนี้ส่งเสริมไปก็มีตลาดชุมชนเกิดขึ้นแล้ว 2,063 แห่ง ทั่วประเทศ ก็คงต้องมีอีก ที่ผ่านมานั้นได้รับการรายงานว่า มีผู้จำหน่ายถึงเกือบ 90,000 ราย แล้วมียอดจำหน่ายทั่วประเทศในปัจจุบันที่ตั้งมาไม่กี่เดือนกว่า 820 ล้านบาท วันนี้รัฐบาลได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยได้เร่งยกระดับมาตรฐานของตลาดนัดชุมชนให้เป็นที่น่าเชื่อถือ คัดสรรสินค้าที่ดีมีคุณภาพตรงกับความต้องการของท้องตลาด และในพื้นที่ด้วย ในราคายุติธรรมกับชุมชน จากเกษตรกรมาจำหน่าย และส่งเสริมการจัดกิจกรรมต่างๆ ประกอบไปด้วยพเอเรียกร้องความสนใจ เช่น การแสดงดนตรี ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน กิจกรรมสาธิต นิทรรศการ สวนสนุก แล้วให้ความรู้เรื่องสุขลักษณะของตลาดนัดแก่ผู้จำหน่ายด้วย

ในเรื่องของการส่งเสริมการใช้วัตถุดิบในประเทศ ในด้านการผลิตอุตสาหกรรม ทุกคนต้องช่วยกันนะครับ ภาครัฐ ภาคเอกชน ต้องช่วยกัน หาทางช่วยรัฐด้วย ถ้ารอรัฐช่วยอย่างเดียวก็เพียงแต่ว่ารัฐต้องไปทำให้ราคามันสูงขึ้นในทางที่มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นเราจะทำอย่างไรให้วัตถุดิบที่มันมีอยู่มากมายเหลือเฟือ ไม่ว่าจะเป็นไม้ยาง หรือยาง ข้าว มันทำให้ผลิตสินค้าต่างๆให้เป็นนวัตกรรมสินค้าใหม่ๆ หรือใช้ในประเทศได้ โดยอาจจะเป็นบริษัทห้างร้านที่สนใจก็มาขอขึ้นบัญชี จะได้สนับสนุนในเรื่องของวัตถุดิบ ให้ท่านในราคาที่เหมาะสม เกษตรกรก็ได้ราคาที่เหมาะสม แต่กำไร ท่านอาจจะต้องไปลดลง เราก็จะไปดูแลเรื่องภาษี มันจะได้ชดเชย ไม่อย่างนั้นเราก็ใช้ของประเทศไมได้สักที วันนี้ก็ต้องจำเป็น ถ้าเราไปสนับสนุนเป็นภาคๆ กลุ่มๆ มันก็เหมือนเดิม ไปไม่ได้อีก

เรื่องต้นไม้ ต้นยาง วันนี้เราก็นำมาทำเฟอร์นิเจอร์มากมาย ไม้หลักๆ ไม้ยืนต้น มีอายุเป็น 50 ปีร้อยปี คงหายากขึ้นในอนาคตด้วย ฉะนั้นไม้ยางมีประโยชน์ ใครที่มีประสงค์จะขายยาง ผมให้แนวทางกระทรวงทรัพยากร ไปดูแล้วนะว่ารับซื้ออย่างไร ไปแปรรูปอย่างไร อันนี้ก็ฝากไปถึงที่จะเปลี่ยนแปลงการปลูกพืชด้วย

อันที่ 2 ก็คือพวกที่บุกรุกป่า อันนั้นต้องหาวิธีการแก้ไข รีบคุยกันก่อนไม่เช่นนั้นปริมาณก็จะมาก และไม่ถูกกฎหมายด้วย ช่วยกันนะครับ ภาครัฐจะช่วยส่งเสริมให้เฉพาะเรื่องการทำสัญญา วันนี้ ผมคิดว่า ถ้าเราระมัดระวังป้องกันเรื่องนายทุน หรือพ่อค้าคนกลาง เพื่อจะถ่วงดุลพวกนี้ให้ได้ ผมเชื่อมันต้องทำสัญญาความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชน บริษัท ห้างร้านแต่ละกลุ่ม ที่ใช้วัสดุในประเทศ ถ้าขึ้นบัญชีกับเรา เราจะหาทาง ช่องทางให้เจอกันให้ได้ ถ้าพูดไปมันก็ไม่เกิด หรือไม่ทำ ข้าราชการลงไปทำข้างล่างมันก็ไม่เกิดอีก เพราะมันไม่มีศูนย์รวมไง ไม่มีบูรณาการโดยตรง ผมบอกเลยนะครับว่า ถ้าใครสนใจอะไร

วันนี้ ผมเล่นเรื่องเอสเอ็มอี เพราะฉะนั้น ผมให้ คสช.รับเรื่องด้วย ไปทุกจังหวัด ให้กระทรวงเกษตร กระทรวงมหาดไทยไปดูซิว่า ในแต่ละจังหวัดมีการผลิตอะไรบ้าง และเป็นเอสเอ็มอี เป็นธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลางที่เราจะส่งเสริม และดูว่าจะใช้อะไรได้บ้าง ใช้ยางยังไง ใช้ข้าวยังไง ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ยังไง และขึ้นบัญชีมา จังหวัดละ 5-6 แห่ง เราจะได้นำร่องหาเงินให้ใส่เข้าไป ปรับปรุงวิธีการผลิต หรือส่งเสริมให้มีตลาดต่างๆ เหล่านี้ ไม่งั้นมัวแต่รอ สสว.เสนอมา กว่าจะขออนุมัติกันไปมา ไม่จบ เดี๋ยวก็ทุกรัฐบาลก็ทำมา ไม่สำเร็จซะที ต้องภายใน 6 เดือนนะ เรื่องเอสเอ็มอี มันต้องตอบคำถามให้ได้ว่ามีกี่แห่ง เพราะฉะนั้นไปขึ้นบัญชีให้ดี ทุกคนต้องช่วยกันนะ ภาครัฐ ภาคเอกชนนะครับ

สำหรับเรื่องของการสร้างการรับรู้ ความเข้าใจกับประชาชน ที่ผ่านมา เราทำงานไปหลายเรื่อง วันนี้ ผมยังได้รับคำถามอยู่เลย ผลงานรัฐบาลมีอะไรบ้าง บางครั้งผมก็ชี้แจง ก็เหนื่อย ผมก็บอกไปแล้ว ท่านไม่เคยจำได้เลยเหรอพูดอะไรไปแล้วบ้าง หลายอย่างก็เสร็จไปแล้ว หลายอย่างก็กำลังทำอยู่ หลายอย่างเป็นเรื่องอนาคต เรื่องปฏิรูป แต่ท่านไม่เคยฟังเลย ท่านก็ถามผมทุกครั้งว่าเป็นยังไง ทำอะไรไปบ้าง สำเร็จแล้ว ยังมองไม่เห็นเลย แล้วไหนว่าจะมาแก้ปัญหาให้ประชาชน แล้วทำไมไม่สำเร็จ ไม่มีอะไรดีขึ้น แถมเศรษฐกิจก็แย่ลง คือไม่ฟังน่ะ ต้องฟังบ้างสิ วันนี้ผมก็ให้ปรับวิธีการสื่อสารใหม่ สร้างความรู้ในเรื่องต่างๆ ทุกเรื่อง ท่านก็พยายามฟังหน่อย ทีวี โทรทัศน์ วิทยุ อย่าไปฟังแต่เพลงอย่างเดียว ดูหนังละครอย่างเดียว ก็ดูที่มันเป็นสาระสิ ตัวเองก็ต้องเกี่ยวข้องด้วย จะไปหาเขาที่ไหน จะไปฟังเจ้าหน้าที่ยังไง เจ้าหน้าที่เขาพูดอย่างนี้ เข้าใจมั้ย แต่นี่ไม่ฟังอะไรเลย แล้วก็บอกว่าไม่เห็นทำอะไรให้เลย ไม่ได้ วันนี้ต้องสร้างการรับรู้ในทุกระดับ เจ้าหน้าที่รัฐทุกคนก็ต้องรู้นโยบายของรัฐบาล แล้วสามารถสร้างการรับรู้ให้ได้ ตอบคำถามประชาชนให้ได้ สื่อสารให้ถึงเขาว่า เหตุผลมันเป็นยังไงในทุกมิติ แล้วก็ต้องแยกให้ชัดเจน เขาจะได้ไม่ว่าอีกว่าเราทำอะไร หรือเราไม่ทำ หรือเกียร์ว่าง เหล่านี้ผมว่ามันเสียชื่อนะ เพราะฉะนั้นวันนี้ต้องสร้างความเข้าใจให้มากขึ้น

อันที่ 1 ก็คือเรื่องงานประจำ function หรืองานรูทีน งานที่เป็นระเบียบปฏิบัติประจำ การปฏิบัติการปกติ ก็ว่าไป สร้างการรับรู้ให้ชาวบ้านได้ แต่เรื่องอะไรก็ตามที่เป็นงานนโยบายเร่งด่วน และเรื่องที่เป็นนโยบายแต่ยังไม่เร่งด่วน ทั้งสองเรื่องนี้ก็ทำไปแล้วเหมือนกัน การช่วยเหลือประชาชน ลดความเดือดร้อน การสร้างความมั่นคงยั่งยืนในอนาคต ต้องอธิบายให้เข้าถึงว่า ที่เราทำแบบนี้เพราะอะไร ปัญหามันคืออะไร ถ้าไม่บอกว่าจะทำนี่ ทำโน่น บางทีเขาไม่เห็นด้วยตลอด เขาไม่รู้ไง ไม่รู้ว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน เราเข้ามาเป็นรัฐบาลเราถึงรู้ เพราะฉะนั้นข้าราชการก็ต้องรู้ มีหลายส่วนด้วยกัน ทั้งรัฐ ทั้งการบริหาร ทั้งข้าราชการ ทั้งประชาชน วันนี้มันต้องอุดรอยรั่ว เชื่อมรอยต่อเหล่านี้ให้ได้ จะต้องอธิบายปัญหาให้เขาทราบว่าที่ผ่านมามันเป็นยังไง แล้ววันนี้เราแก้ยังไงอยู่ ไม่อย่างนั้นก็ไปไม่ได้ ก็ประท้วง ขัดแย้งกันอยู่แบบนี้ วันหน้าก็เกิดอีกเร่งทำตอนนี้ผมจะดูด้วย ก่อนเมษาฯ ครั้งหนึ่ง ภายในเมษาฯ จะดูข้าราชการทำไปอย่างไร เคลื่อนไหวแค่ไหนอย่างไรภาคเอกชน ภาครัฐ รัฐบาล ต้องทำให้ได้ และสื่อสารสร้างการรับรู้ทั้งทางสื่อโทรทัศน์ และวิทยุ เป็นเอกสารในเรื่องของเว็บไซต์ แอปโหลดต่างๆ ลงไปในโทรศัพท์ โซเชียลมีเดียเหล่านี้มันต้องชี้แจงด้วยทั้งหมดร่วมกัน เอกชนหาเองได้ โฆษกรัฐบาล ทีมโฆษก ทีมทั้งของรัฐบาล ทั้งของ คสช. กระทรวง ทบวง กรม ชี้แจงสิครับ ชี้แจงไป หนังสือพิมพ์ก็ช่วยเอาไปลงหน่อย หลายกระทรวงเขาบอกส่งไปแล้วท่านก็ไม่ลง ท่านจะมาเอาแต่ผมลงนี่แหละ มันก็มีแต่ความขัดแย้งกันอยู่เรื่อยๆ ผมต้องตัดสินใจ ต้องวางแผนงาน ต้องริเริ่มหลายๆ เรื่อง

เพราะฉะนั้นไปรับฟังผู้ปฏิบัติเขาบ้าง ไม่ฟังท่านก็ไม่รู้เขาทำอะไร ท่านก็มาบอกให้ผมพูดอย่างเดียว พูดต่อไปเดี๋ยวหาผมบ่นอีกแล้ว ก็เป็นอย่างนี้ วันนี้ผมก็ได้มีคำถามๆ อยู่แล้วว่า วันนี้รัฐบาลมีผลงานอะไรบ้างครับ ผมก็ถามเขากลับไป แล้วไม่รู้เลยหรอ เขาก็หัวเราะแฮะๆ ไป ยิ่งเขารู้ แต่เขาก็เขียนแบบนี้ เขียนแบบนี้ประชาชนก็ตื่นตระหนกไปหมด และมาเล่นงาน คสช.อีก ผมเข้ามาแก้ไขให้ท่าน ท่านยังมาทำแบบนี้อีก เพราะฉะนั้นก็ขอให้ทุกอย่างให้แพร่หลายไปยังต่างประเทศด้วย ทั้งทูตไทย สถานทูต พาณิชย์ การค้าต่างๆ ทั้งหมด ต้องมีข้อมูลเหล่านี้ว่า รัฐบาลทำอะไรกันอยู่ ปัญหามันคืออะไร แก้ไขอะไร ท่านรักประเทศไทยไหม ถ้าท่านรักประเทศไทย ท่านจะปฏิรูป ท่านจะทำให้อยู่ดีกินดีเพื่อแผ่นดินเกิดของท่าน ท่านทำไหมล่ะครับ ถ้าท่านตั้งใจทำมันทำได้หมด อย่างที่ผมพูด

เพราะฉะนั้นเรื่องใดก็ตามที่รัฐบาลทำไปแล้ว ก็แจ้งให้เขาทราบว่า เราทำไปแล้ว เราไม่ได้ไปละเมิดสิทธิมนุษยชน ได้จับกุมคุมขังคนมา 3-4 วัน ท่านจะมีข่าวอยู่แบบนี้ แสดงว่ามีคนไปปล่อยข่าวอยู่ในสื่อ ในโซเชียลมีเดีย ในต่างประเทศเยอะแยะไป ก็คนเหล่านี้ท่านก็ทราบดีอยู่แล้ว เขาไม่อยากให้เราเดินหน้าประเทศ เขาอยากให้เราเป็นเครื่องไม้เครื่องมือต่อไป เห็นประชาชนเป็นอย่างนั้นหรือ ไม่ได้ วันนี้ ผมทำให้ประชาชน อยากให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น มีความรู้มากขึ้น ฉลาดมากขึ้น จะได้ไม่ถูกเขาชักจูงในทางที่ผิดอีก และท้ายสุดเดือดร้อนก็คือเรา ประชาชน เราแก้ไขทุกเรื่องนะ แรงงานประมง การค้ามนุษย์ เอาทุกมิติมาดู เอาปัญหามาดูที่เขาแจ้งเตือนมาเท่าไหร่ เกือบ 10 ปี มาแล้ว ไม่ได้แก้เขาเลย แล้วมันใครทำ วันนี้ ผมก็มาแก้ทั้งหมด เอาแนวทางตัวอย่างต่างประเทศมา ว่า ประเทศนี้ ประเทศนู้นทำยังไง ผมถือว่าเราเริ่มต้นก่อนในอาเซียนเลยนะ เรื่องเหล่านี้ ค้ามนุษย์ ปัญหาประมงต่างๆ เหล่านี้ ตอนนี้มีหลายประเทศร่วมมือกับเรา บางประเทศมีปัญหาอยู่ ก็ต้องทำความเข้าใจกับเขา ปัญหาคือเราต้องทำให้ถูกกฎหมายด้วย และรายงานขึ้นไปถึงคณะกรรมการ ทั้งกรรมการสิทธิ กรรมการค้ามนุษย์ การประมงต่างๆ มันต้องก้าวหน้าหมด ผมต้องกราบเรียนว่า วันนี้ มันไม่เสร็จทั้งหมดหรอก เพราะมันไม่ได้ทำมาเป็น 10 ปี ถ้าทำวันนี้ ไม่กี่เดือน กฎหมายกำลังเสนอเข้าไป จดทะเบียน เรือก็ยังไม่ครบ ติดอุปกรณ์การจับปลาให้ครบก็ยังไม่ครบ มันจะครบได้ยังไง ต้องให้เวลาเรา ไม่ใช่กดดันเราตลอดเวลา ไม่ได้หรอกครับ ถ้าไม่ใช่เรามันก็ยังไม่มีใครทำเหมือนเดิม เข้าใจตรงนี้กันซะบ้าง ต้องให้พี่น้องประชาชนทราบทุกเรื่องต่อไปนี้ ปัญหาใครทำ ใครไม่สนใจที่ผ่านมา ต้องบอกกัน เพราะฉะนั้น อย่ามาโกรธกัน ท่านไม่ทำ ท่านมาเถียงผมไม่ได้

นอกจากนั้น ต้องขอความร่วมมือภาคเอกชนต่างๆ สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรมหอการค้าจังหวัดเหล่านี้ ไปกระจายประชาสัมพันธ์ให้ทราบด้วยว่า ท่านมาประชุมกับผมมีมาตรการอะไรไปบ้าง อย่ามาพูดอย่างเดียวว่ารัฐบาลช้า อะไรก็ออกไม่ได้ นี่ก็ช้า การลงทุนก็น้อย พูดอย่างนี้มันขัดแย้งกับผม ไม่ได้ เพราะผมพูดกับท่านไปแล้ว ว่าปัญหามันอยู่ที่ไหน เพราะฉะนั้นวันนี้ปัญหาเยอะแยะไปหมด ระเบียบข้อบังคับ ระยะเวลา ไม่เคยปรับแก้กันมาเลย วันนี้พอจะให้ ทำไม่ได้อีก เพราะที่เคยทำมาไม่ได้ทำแบบนี้ ทั้งๆ ที่น่าจะทำแบบนี้มาตั้งนานแล้ว หลายรัฐบาลแล้ว ก็ไม่ทำ มันเพราะอะไร ไปหามา โทษผมไม่ได้ วันนี้ก็เร่งแก้ให้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก็ต้องเพิ่มเติม สภาหอการค้าฯ สภาอุตสาหกรรมฯ และหอการค้าต่างๆ ในแต่ละจังหวัด เพิ่มเติม ทุกนโยบาย ให้เขารู้ ให้ทุกผู้ประกอบการรู้ ไม่ใช่รู้แต่เพียงบางพวกบางกลุ่ม ไม่ได้

วันนี้ผมฟังหลายคนบ่นว่าไม่เห็นรู้เรื่องเลยรัฐบาลทำอะไร อ้าว ผมบอกไปทางสภาอุตสาหกรรมฯ สภาหอการค้าฯ ไปแล้วนี่นา ทำไมท่านไม่บอกกันหรือไง ท่านแบ่งแยกกันอยู่หรือเปล่า ผมไม่รู้ ที่ผมต้องพูดอย่างนี้เพราะว่ามันกลับมาที่ผมไง กลายเป็นว่ารัฐบาลไม่ทำอะไร หอการค้า อุตสาหกรรมฯ ก็บอกว่ารัฐบาลช้า แล้วมันยังไง มันมีคณะกรรมการร่วมเยอะแยะ อันนี้ผมบอกแล้วว่า ปัญหาในเชิงโครงสร้างมันก็มี ปัญหาระเบียบกฎหมายมันก็มี ปัญหาเรื่องการทำงานของข้าราชการที่ผ่านมามันก็มี วันนี้ผมก็ลงไปลึกทุกอัน ก็ต้องไปจี้ จนเหลืออีกอย่างคือลงไปทำเองแล้ว ข้างล่างนะ ทั้งท้องถิ่น ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคอะไรก็แล้วแต่ ปัญหามันสะสมมายาวนานนะ วันนี้ต้องเล่าให้ประชาชนฟังว่า ถ้าทำอย่างนี้ มันจะเกิดอย่างนี้ ถ้าทำอีกแบบหนึ่ง แบบที่เรากำลังทำ มันจะดีอย่างนี้ แต่ไม่ใช่วันนี้ ไม่เหมือนครั้งที่แล้ว เพราะครั้งที่แล้วได้มาเร็ว ใช้หมดเร็ว แต่วันหน้ามันจะใช้แบบไม่หมด คือใช้แบบยั่งยืน มันจะต่อเนื่อง เขาเรียกว่าความยั่งยืน เพราะฉะนั้นต้องใช้เวลาในการปรับแก้วิธีการ อันไหนที่รวมไปได้ ผมก็ทำนะ ข้อกฎหมาย บางอย่าง บางครั้งผมก็ต้องรับผิดชอบสั่งลงไป กระบวนการซ้ำซ้อน ความไม่โปร่งใส แต่ทั้งนี้ต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบ ให้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ถ่วงดุลกันให้ได้แล้วกัน บางครั้งมันต้องกำหนดไทม์ไลน์ให้ชัดเจนในการแก้ไขปัญหา บอกประชาชนว่า เรื่องน้ำต้องแก้อย่างนี้นะ หนึ่งเป็นอย่างนี้ สอง ... พอพูดเยอะๆ ไปประชาชนฟังไม่เข้าใจ ก็มองว่าเมื่อไรมันจะเกิด แสดงว่ามันจะต้องเกิด มันเกิดได้ยังไงล่ะ ปีเดียว มันต้องทำโครงการตั้งหลายปี 5-6 ปี เป็นสิบปีมั้ง ถ้าทำทั้งหมดล่ะก็ แล้วเอาเงินที่ไหน วันนี้เราจะให้หนึ่ง จะเกิด บอกให้เขารู้ซะ แล้วเขาจะได้เตรียมตัวเองว่าปีนี้เขาจะทำอะไร อะไรทำนองนี้ ไม่งั้นประชาชนไม่รู้เรื่องอะไรเลย ถูกชักจูงไปหมด

เรื่องการประมูลจัดซื้อจัดจ้างก็เหมือนกัน บางคนก็บอกว่าวันนี้มันดีขึ้นกว่าเดิม ผมก็ดีใจนะ นึกว่ามันคงสบายใจกันได้แล้ว เปล่าหรอก เขาบอกว่าลดจาก 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นเหลือ 30 เปอร์เซ็นต์ ผมว่าจะเหลือกี่เปอร์เซ็นต์ไม่รู้ เปอร์เซ็นต์เดียวก็ไม่ได้ เป็นสิ่งที่ผิดนะ เป็นเรื่องของการค้า การแข่งขันเสรี เพราะฉะนั้นก็ไปปลูกฝังจิตสำนึกของคนไทยทุกคนด้วย ไม่ให้เกิดเรื่องเหล่านี้นะ ข้าราชการ ประชาชน ช่วยกันตรวจสอบ ข้าราชการชั้นผู้น้อย ช่วยตรวจสอบหน่อย ถ้าผู้ใหญ่ไม่ทำตามที่ผมพูด ก็ผู้น้อยนั่นล่ะรายงานขึ้นมา ผมไม่ต้องการให้เกิดความแตกแยก แต่มันจำเป็นก็ต้องทำ รายงานขึ้นมา ไม่งั้นวันหน้าท่านก็ถูกพัวพันคดีไปด้วย เหมือนกับที่ผ่านมา มันกำลังจะมีการพัวพันเจ้าหน้าที่ระดับล่างด้วยนะ เรื่องข้าว เรื่องอะไรต่างๆ เหล่านี้ เตือนไว้ซะก่อน เพราะฉะนั้นอย่าให้เกิดขึ้นอีก ท่านเดือดร้อนแน่นอน ก็ขอให้ส่งมาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ ให้ คสช.ก็ได้ ให้รัฐบาลก็ได้ ตำรวจก็ได้ ใครก็ได้ ผมคิดว่าคนดีๆ มีอยู่เยอะนะ อย่าส่งเสริมในทางที่ผิดกันต่อไปเลย เป็นปัญหาภายหน้าด้วย

เรื่องการส่งออก พอพูดมาหลายครั้งว่าได้รับผลเรื่องการชะลอตัว เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลัก อะไรต่างๆ เหล่านี้ ไม่ฟัง ไม่เข้าใจ คู่ค้าหลักคือประเทศที่เขาค้าขายมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว วันนี้มันอิ่มตัวแล้ว พอเศรษฐกิจมันตกลงมาปั๊บ แต่ละประเทศ การสั่งซื้อจากพ่อค้าเหล่านี้มันก็ไปไม่ได้ เงินก็น้อย เศรษฐกิจ ความต้องการก็ลดลง แล้วเราจะไปขายต่อเท่าเดิม ให้ราคาเท่าเดิม มันก็ไม่ได้ ราคามันก็ดัมพ์ ต่ำลง ทำยังไง วันนี้ รัฐบาลนี้ล่ะ รัฐบาลที่ผ่านมาไม่รู้ วันนี้เราทำ ไปหาคู่ค้าใหม่ๆ ตลาดอินโดจีน แอฟริกา ตะวันออกกลาง ผมติดต่อทุกคน ผู้นำแต่ละประเทศมาผมก็คุยกับทุกประเทศ เขาก็ดีใจ รับนโยบายที่รัฐบาลนี้ทำ ทุกคนอยากจะมาฟังนโยบายรัฐบาลนี้หมด ทำไง เอาไง ผมก็บอก เขาจะได้ไปสานต่อได้ เขาจะกลับไปพูดกับรัฐบาลเขา ตัดสินใจว่าจะลงทุนทำอย่างไร อะไรที่จะมาลงทุนประเภทไหนที่เขาต้องการ มันไม่เคยพูดกับเขาเลย วันนี้ผมพูดทุกอัน แต่มันจะเกิดได้ไหม เพิ่งพูดกันไม่กี่เดือน

เราต้องช่วยกันเร่งนโยบาย คนขับเคลื่อนกระทรวง ทบวง กรม ก็ไปเร่ง กัน การส่งเสริมการส่งออกสำคัญนะ สินค้าที่เราส่งออกไปมันมีการพัฒนาตัวเองบ้างหรือยัง มีการปรับสินค้าประเภทใหม่ๆไหม ถ้าทำแบบเดิมก็ต้องใหม่ๆ น่าใช้ น่ากิน แข่งขันเขาได้ ถ้ามันยังขายแบบเดิมนะ ทำแบบเดิม ขายสู้เขาไม่ได้หรอก วันนี้ต้องปรับในเรื่องของคุณภาพการผลิต ผลิตแบบใหม่ๆเรียกนวัตกรรม จะเปลี่ยนไปเลยก็ได้ วัดกันไปเลยว่าแบบนี้ไม่ทำแล้ว ไปทำอีกแบบเลย

ปัญหาสำคัญของเราก็คือการบริหารแบบเดิมๆ ที่ผ่านมาหลายปีในเชิงรับบ้าง รุกบ้างเล็กน้อย ไม่ส่งเสริมกันจริงจังพเออนาคต มันทำให้เกิดปัญหามาถึงวันนี้ เรื่องเทคโนโลยี งานวิจัย การสนับสนุนต่างๆของรัฐมันไม่ทั่วถึง ฉะนั้นวันนี้ถ้ายังคงผลิตเดิมๆอยู่นะ เราจะไม่ส่งเสริมนะ ต้องปรับปรุงให้มีการพัฒนา ปรับรูปแบบ ปรับเครื่องจักร เครื่องไม้เครื่องมือให้ทันสมัยขึ้น

ที่ผ่านมานั้นแรงงานก็ขาดอีก วันนี้เราต้องมาแก้ตั้งแต่จดทะเบียนเลย พอจดทะเบียนถึงรู้ว่ามันขาดอีกเท่าไหร่ แล้วจะเอามาอย่างไรก็ยังอยู่ในขั้นตอนว่า ต้องไปเอามาจากประเทศนอกบ้าน ส่วนหนึ่งอาจจะต้องรับสมัครมาจากชาวไทยภูเขาบ้าง มาเป็นแรงงาน เราขาดเป็นแสนนะ ปีนี้ 50,000-60,000 แล้ว โรงงานหลายโรงงานปิดไปแล้ว เมื่อก่อนโรงงานรองเท้าปิดไป เพราะไม่มีคนงานใหม่ นี่ไงมันเป็นใครทำไว้ ฉะนั้นวันนี้รัฐบาลจะแก้ปัญหาเหล่านี้ ก็ต้องช่วยกัน เข้าใจช่องทาง เข้าใจวิธีการแก้ปัญหาของเรา เราจะต้องเตรียมแรงงานทั้งมีคุณภาพ มีการเพิ่มในเรื่องของขีดความสามารถในการทำงานให้มากขึ้น มีทักษะ เพิ่มทักษะให้มากขึ้น มีการเรียนรู้ในการพัฒนาตัวเอง เพื่อจะได้สอดคล้องกับค่าแรงที่มีอยู่ วันนี้ต้นทุนแรงงานของเราวันละ 300 ใช่ไหม สูงกว่าประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็นคู่แข่งของเรา เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ด้วย และเป็นคู่แข่งไปด้วย รอบบ้านติดเรากับประเทศอีกกลุ่มหนึ่งก็คือ อินโดนีเซียกับฟิลิปปินส์ไกลเราไปหน่อย เราค่าแรงแพงกว่าเขา 30-50 เปอร์เซ็นต์เลย เฉพาะค่าแรง เช่น ของเรา 300 ของเขา 150 อย่างนี้ อันนี้มันทำอย่างไร เราต้องไปแก้ไขเรื่องสินค้าให้มันดี จะลดต้นทุนสินค้าให้มันถูกลง แต่ให้คุณภาพมันดียาก เพราะมันบวกค่าแรงไป ทำให้เราดัมป์ราคาลงสู้เขาไม่ได้ นี่แหละปัญหาท่านทราบไหมล่ะ ท่านไม่ฟังเลยมันไม่ได้ จะแก้อย่างไร เรื่องเงินหมุนเวียนวันนี้ในตลาดในเศรษฐกิจเขาบอกว่า เงินมันน้อยลง ผมว่ามันอาจจะน้อยลงจริงบางส่วน อาจจะเป็นพวกธุรกิจสีเทาบ้าง ธุรกิจผิดกฎหมาย ขายของผิดที่ ขายของที่ไม่ได้รับใบอนุญาต หรือเช่นง่ายๆ รถตู้ รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่มันไม่ถูกต้อง มันทำให้เกิดธุรกิจเงินนอกระบบมากไง ที่ผ่านมา วันนี้ผมจัดระเบียบหมด เงินเหล่านี้มันก็หายไปส่วนหนึ่ง เสร็จแล้วประชาชนส่วนหนึ่งที่เดือดร้อน เพราะว่าเคยได้เงินพวกนี้มาประกอบการร่วมกันอยู่ไง ช่วยกันนะครับ ขอเวลาให้เรา ท่านต้องกลับเข้ามาหารัฐ เราจะให้ความเป็นธรรม

ทั้งนี้ถ้าเราปล่อยอย่างนั้นมา วันหน้าความเหลื่อมล้ำที่เรากำลังจะแก้ มันก็แก้ไม่ได้ ผู้ที่เขาประกอบการที่ถูกกฎหมายเขาทำอย่างไร เรียกร้องที่โน้นที่นี่จะขายของต่ออะไรอีก และผมถามว่า คนที่เขาขายต่อก็ท่านทำทั้งหมดมันไม่ถูกมาตลอด อนุโลมมาตลอด มันแก้วันนี้วันหน้ามันก็มากขึ้นๆ และวันหน้าก็ไม่ต้องมีคนอยู่ในเมืองใหญ่ๆ ไม่ต้องอยู่ มีแต่คนขายของ และใครจะมาเที่ยวบ้านเรา รกสกปรกรุงรัง เดี๋ยวไปหาทางกันว่า จะไปทำกันตรงไหน ก็ต้องพูดจากันอย่ามาประท้วงอย่ามาปะทะอะไรกันให้ผมเห็นแล้วกัน เดี๋ยวกำลังให้ไปดูอยู่ ในเรื่องของการขับเคลื่อนของ คสช. ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ อธิบดี และในส่วนของท้องถิ่น อบต. อบจ. กำนันผู้ใหญ่ก็แล้วแต่ช่วยกันขับเคลื่อนของรัฐบาล วันนี้รัฐบาลตั้งมาถึง 5 คณะแล้ว เป็นคณะขับเคลื่อนทั้งรัฐทั้งของเอกชน คสช. ทั้งข้าราชการในแต่ละกระทรวง และเริ่มตรวจสอบทุจริตมีหมด จนจำไม่ได้แล้วว่า ใครบ้าง ผมสั่งหมด และเขากำลังไปเดินอยู่ เพราะฉะนั้้นเขาจะไปดูว่า มันจริงไม่จริง ทำได้ไม่ได้

เพราะฉะนั้นอย่ามาโกหกหลอกลวงไม่ได้ต่อไป ระมัดระวังด้วย จะไปติดตามความคืบหน้าประสานงาน ดูว่าท่านมีปัญหาอย่างไร และจะหาทางแก้ปัญหาให้รัฐบาล แล้วให้กระทรวงได้แก้ไขโดยเร็ว ในส่วนของจังหวัดนั้น ผมให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวเรือใหญ่ทำใจนะครับ ว่าคำว่าหัวเรือใหญ่เป็นอะไร เป็นพ่อเมืองนะ ดูแลทุกข์สุขประชาชนทั้งจังหวัด ท่านรับผิดชอบ ท่านเป็นผู้ว่าฯ แล้ว ท่านต้องรับผิดชอบ และขับเคลื่อนข้าราชการในจังหวัดทุกคน และทุกกระทรวงที่อยู่ตรงนั้น ผมให้บูรณาการให้ได้ ขับเคลื่อนทั้งหมด ทั้งพื้นที่ส่วนกลางด้วยไรด้วยนะครับ ความต้องการของประชาชนว่าไง เราก็มาเสนอซิว่า ท่านปรับได้นี่ครับ แผน และโครงการอะไรที่ทำไปแล้ว ทำได้ ทำไม่ได้ อะไรทำได้มารวมกันได้ไหม หาผู้รับจ้างรับเหมามาประมูลให้มันได้ได้ไหม ผมว่ามันทำได้ ถ้าท่านคิดจะทำ ทำแบบบูรณาการ ทำเชิงรุก อย่าทำแบบเดิม อย่ากลัวทุจริต ถ้าเราตั้งใจทำให้ดี ดูกติกา ดูกฎหมายข้อบังคับ มีปัญหาเสนอขึ้นมา ผ่านกระทรวง ผมแก้ได้ผมจะแก้ให้ กลัวอะไร แต่ปัญหาคือทำไม่ได้ นั่นแหละน่ากลัวยิ่งกว่า ผมจะให้ดูด้วย ผลงานการปฏิบัติของท่าน สั่งการไปแล้วนะ ให้ดูงบประมาณ ถ้าส่วนใดก็ตาม ท่านบอกว่า ทำไม่ได้ ไม่มีคนทำแผนงาน ไม่มีคนทำงบประมาณ ไม่เคยทำ ทำไม่เป็น ไม่เคยทำ แล้วที่่ผ่านมา มันไปไหน คนทำเหล่านี้ไปไหน จ้างมาหรือเปล่า มีคนทำเป็นหรือเปล่ากำลังไล่ทั้งหมด พอให้ทำ ทำไม่ได้ ไม่เคยทำ บอกว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ ผมก็ให้จังหวัด ให้อำเภอลงไปช่วย อปท. ท่านต้องยอมรับสภาพบ้างว่า เราบกพร่องอะไร ผมไม่ได้เครมอะไรท่านเลย มันเป็นความผิดของรัฐบาลที่ไม่ได้กวดขัน ไม่เอาใจใส่ เพราะฉะนั้น วันนี้ ไปหาซิว่า เงินมันมี บรรจุใครไม่ได้ ก็บรรจุลูกหลานที่มันเป็น ที่เขาเรียนด้านนี้มา หรือคนว่างงาน ที่ทำบัญชีได้ ทำแผนงานโครงการได้ เอามาทำซะ ช่วงนี้นั่นแหละ อาจปีเดียว ไปเป็นลูกจ้าง เป็นพนักงานปีหนึ่ง สร้างความเข้มแข็ง เร็วๆ นะครับ ช่วยเหลือเด็กๆ ให้มีเงินเบี้ยเลี้ยง มีเงินเดือนใช้ จ้างคนที่ไม่มีประโยชน์เข้ามา ไม่มีประโยชน์นะ ทำอะไรไม่ได้ เหมือนเดิม และมาบอกว่าเงินรัฐบาลไม่ขับเคลื่อน ก็ท่านเอาเงินออกไปไม่ได้ เอาไปแล้วใช้ไม่เป็น ให้ผมทำไง

เรื่องพลังงานวันนี้ก็เบาลงไปนิดนึง แต่ยังมีอยู่นะครับความขัดแย้ง เพราะฉะนั้น ต้องช่วยกันรับฟังเหตุผล สร้างการรับรู้ ให้ข้อมูลที่อยากจะรู้ข้อเท็จจริง ทางนี้ก็ฟัง ทางนี้ก็ให้ ให้มันชัดเจนขึ้นแล้วกัน เรื่องความเพียงพอพลังงานเป็นยังไง มันจะขาดได้ยังไง ข้อมูลที่ผ่านมาเป็นยังไง ข้อดี-ข้อเสียเป็นยังไง ระบบสัมปทานใหม่-เก่า มันก็เรื่องเดิมๆ ทั้งนั้น เพียงแต่พูดกันไม่เข้าใจ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน พูดให้เข้าใจกันเสียที สร้างการรับรู้ให้ตรงกันนะ เพราะว่าทั้งหมดมันเป็นผลประโยชน์รัฐ ประชาชน และผมเป็นรัฐบาลในปัจจุบัน ผมไม่หวังประโยชน์ตัวผมเอง หลายคนก็บอกว่าไว้ใจผม แต่ไม่ไว้ใจกระทรวง แล้วมันจะยังไง ก็ต้องไปดูว่า เขาชี้แจงว่ายังไง ก็ฟังดู ถ้ามันทำได้ก็ทำ กำลังแก้กฎหมายอยู่ ไม่รู้จะทันหรือเปล่า ก็ต้องทำให้ได้ ถ้าไม่ได้แล้วจะทำยังไง วันนี้เราพร้อมหรือยัง รัฐเราจะต้องลงทุนเท่าไร ใช้เงินอีกเท่าไรในการลงทุน วันนี้ยังลงทุนเองไม่ได้ในการสำรวจ เพราะเราไม่ได้มีบริษัทของเรา ของราชการ ของคนไทยแท้ๆ ก็ไม่มี มันก็มีต่างชาติมาร่วมทั้งนั้นล่ะ ความพร้อมผู้ประกอบการ บริษัทสำรวจ ระบบราชการไทย การสัมปทานต่างๆ มันจะหมดอายุไปเรื่อยๆ วันนี้เราเปิดครั้งที่ 21 ยี่สิบครั้งมันก็ทยอยหมดไปเรื่อยๆ ที่มันปิด ตรงนี้มันหมด ก็ต้องหาทดแทนตรงนี้ เดี๋ยววันหน้าตรงต้นๆ มันหมด อย่างน้อยมันก็มี 21 แห่ง สมมุตินะ มี 21 แห่ง มันอยู่ตลอด อย่างน้อยมันก็ใช้ไปได้เรื่อยๆ ใช่มั้ยล่ะ ถ้าเราไม่ทำวันนี้ มันล่าช้าไป 21 หมด เดี๋ยววันหน้า ไปดูซิ 20 หมดเมื่อไหร่ 19 หมดเมื่อไหร่ 18 หมดเมื่อไหร่ แล้วมันจะทำทันมั้ย ถ้าไม่ทำ แหล่งพลังงานมันก็ลดลงไป แล้วในประเทศมันก็ขุดเจาะไม่ได้ ราคาก็ต้องไปซื้อข้างนอกมา บางคนบอกว่าซื้อข้างนอกมาดีกว่า มีตังค์ก็ซื้อเข้ามา ผมถามว่ามีตังค์มั้ยล่ะ ในประเทศก็ ราคาก็ขอให้ลดลงให้มากที่สุด อะไรก็ไม่รู้ บางทีก็ต้องฟังกันทั้งหมดนะ ผมไม่ได้เข้าข้างใคร ผมจำเป็นต้องขับเคลื่อน ไปพูดคุยกัน ฟังข้อคิดเห็นร่วมกัน อย่าไปพูดอะไรในเชิงที่ปลุกระดม แล้วไม่ใช่เรื่องจริง ผมดูแล้วบางเรื่องมันไม่ใช่ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ ถ้ามันจะขุดน้ำมัน หรือขุดแก๊สขึ้นมา แต่เรื่องโกง ไม่ต้องกลัวหรอก มี เก่งกันทุกคน แต่วันนี้ต้องไม่ให้โกง ทำยังไงไม่ให้โกง ชี้แจงมา ให้เชื่อมั่นกันบ้างสิครับ นะ เพราะฉะนั้นเรื่องไหนที่จะต้องไปสู่การปฏิรูป ก็ไปว่าปฏิรูป วันนี้เราต้องทำวันนี้ ให้ทันโรดแมปช่วงที่ 2 ของผม 1 ปี ถ้าผมไม่ทำวันนี้ แล้วจะทำเมื่อไหร่ ท่านก็รอไปโน่น ไปรอรัฐบาลใหม่ แล้วมันจะได้ทำมั้ย ที่ผ่านมามันก็ไม่ได้ทำ เหมือนเดิม ไม่รู้ แล้วแต่ท่าน ก็พยายามทำให้ดีที่สุดแล้วกัน จะหารือต่อไป ตามโรดแมป

ต่อไปในเรื่องของการลดค่าใช้จ่ายของข้าราชการ ก็ขอร้องไปแล้ว ขอบคุณนะครับ หลายๆ กระทรวง ทุกกระทรวงนะ ก็ให้ความร่วมมือ ค่าเครื่องบิน การไปดูงาน ก็เท่าที่จำเป็น ค่าเครื่องบินก็ใช้ชั้นธุรกิจบ้าง บิสซิเนสบ้าง ใช้โลว์คอสต์บ้าง โอเค ขอบคุณ ขอบคุณมากๆ ผมถือว่าเป็นตัวอย่างนะ เราก็ต้องจัดระเบียบนะ เป็นผู้น้อยก็ต้องเริ่มอย่างนี้ก่อน ผมก็ลำบากมาก่อนเหมือนกัน ก็เป็นชั้นผู้น้อยมาก่อน มันก็ต้อง ... มันเท่ากันไม่ได้หรอก เพราะมันมีระเบียบราชการ การใช้จ่ายงบประมาณต่างกัน ก็ขอให้ดูแลให้ดี เรื่องการไปดูงาน ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ขอมาเข้า ครม.มาส่วนนึง บางส่วนก็อยู่ในอำนาจของรัฐมนตรี แต่ขอให้กลั่นกรองนะ ไม่ให้ไปดูเลยคงไม่ได้ วันนั้นผมก็พูดเร็วไปนิด เพราะดูแล้วมันมีหลายหลักสูตร เป็นหลักสูตรการศึกษาบ้าง อะไรบ้าง วันนี้เราก็ต้องสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน แต่ใช้ให้เป็นประโยชน์ ถ้าไปแล้วไปเที่ยวอย่างเดียว ไม่ให้ไป มีรายละเอียดมาชี้แจงด้วย

ในเรื่องของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ หินลิกไนต์ มันเป็นเรื่องคดีเก่าที่ฟ้องกันมาตั้งนานแล้ว แล้วมีเสียค่าชดเชย มันไม่ใช่วันนี้ แต่มันฟ้องกันมานาน แต่วันนี้ หลังจากที่มันเกิดเหตุแล้ว เขาได้มีการปรับปรุงทั้งเครื่องจักร เครื่องไม้เครื่องมือ กลไกกำจัดมลพิษต่างๆ เยอะแยะไปหมด วันนี้ที่แม่เมาะก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ก็ไปดูแล้วกัน ผมก็ให้กระทรวงทรัพย์ฯ หรือว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ไปชี้แจง ว่าวันนี้มันเป็นอย่างนี้ แล้วต่างประเทศเขาทำกันยังไง ไม่อย่างนั้นต่างประเทศก็ทำไม่ได้สิครับ เรื่องของการลงทุนถ่านหินลิกไนต์ เขาใช้กันทั้งโลก แต่จะทำยังไงจะควบคุมมลพิษให้ได้ ทำยังไงจะไม่สร้างผลกระทบสิ่งแวดล้อม มันต้องทำได้ แต่ทำยังไงเท่านั้นเอง มันก็ต้องทำได้ เงินงบประมาณเต็มที่ มันก็ได้เครื่องจักรเรื่องอะไรต่างๆ ที่มันสมบูรณ์ ก็จะได้ใช้พลังงานที่สะอาด จะได้ไม่ต้องมาทดแทนในเรื่องของการซื้อแก๊ส ซื้อน้ำมันมากขึ้นไปเรื่อย ต้องปรับให้ได้นะสัดส่วนพลังงานวันนี้ ต้องใช้ให้ลดลง แก๊สกับน้ำมันให้ลดลง วันนี้ทุกอย่างใช้แก๊สกับน้ำมันหมดเลย เกินเท่าไร 70 จากสัดส่วนพลังงาน 70 เปอร์เซ็นต์ แก๊สน้ำมันต้องลดลง อย่างน้อยก็ลงมา 50 ก่อน มันก็ต้องใช้จากขยะบ้าง จากพลังงานทดแทนบ้าง พลังงานลม พลังงานแสงแดดไรเหล่านี้ ต้องปรับทุกวัน มันไม่ได้เริ่มแบบนี้ มันทำได้เลยนี่น่า ผมเข้ามา ต้องมารื้อทั้งหมดเลย มันเป็นยังไง ทำยังไง ไอ้นี่เกินไป ไอ้นี่น้อยเกินไป ไอ้นี่ไม่จริง นี่มีผลประโยชน์ ผมรื้อเรื่องพวกนี้ วันนี้เพิ่งสั่งไป ทำไม่ได้อีก เพราะประชาชนไม่เข้าใจก็ขัดแย้งอยู่อย่างนี้ สร้างโรงขยะก็สร้างไม่ได้ และจะเอาขยะไปทิ้งไหน แทนที่เราจะเอาขยะมาเป็นสิ่งมีค่า มีหลายจังหวัดสะสมอยู่เป็นแสนๆ ล้านๆ ตัน ถ้าไม่ได้ก็ไม่รู้จะทำยังไง วันหน้าท่านก็มันสุมมากๆ ก็ติดเป็นเชื้อโรค เป็นโรคระบาด ไม่ระวังกันก็ ให้ไปดูซิ หน่วยงานรับผิดชอบไปดูซิว่า สิงคโปร์ มาเลย์ พม่า ลาว เวียดนาม ทำยังไง ทางยุโรป ทางตะวันตกเขาทำยังไง ผมเห็นในฝรั่งเศสนะที่เอามาให้ดูในโทรทัศน์ ในปารีสขยะเต็มเมืองเลย ล้นขึ้นตึก และวันนี้เขาเคลียร์ไปด้วยวิธีการโน้น เนี้ยะ อย่างนี้ไม่ดูเขาบ้างเลย เขาจัดตั้งคนมาตั้งแต่เก็บขยะ บ้านเราก็เก็บขยะตั้งแต่นานมาแล้ว วันนี้เขาจัดเก็บขยะเหมือนเรา แต่เขาไปโน้นแล้ว เอามาพัฒนามารีไซเคิล เราเพิ่งเริ่มเอง ทำไมละครับ ทุกอย่างประเทศไทยเริ่มมาพร้อมเขา แล้วมันเป็นเพราะอะไรมาหาคำตอบให้ผมซิ ผมไม่ได้ว่าอะไรเรื่องประชาธิปไตยอยู่แล้ว ประชาธิปไตยไทยทำไมมันเกิดเรื่องพวกนี้ได้

เรื่องการปฏิรูปการศึกษาเหมือนกัน สำคัญเร่งด่วนนะครับ ผมเรียนแล้วว่า ใน ครม.ว่า ผมจะพยายามเป็นซุปเปอร์บอร์ดการศึกษาให้ ผมก็ไม่ใช่คณะการศึกษานะ แต่ผมเอาปัญหามาดู ก็จัดตั้งของรัฐบาลมา เอาบุคคลภายนอกให้ที่จะมาให้ความรู้ ให้ข้อมูล และผมจะสั่งลงไป ร่วมกับบอร์ดของการศึกษาวันนี้เขาตั้งอยู่แล้ว ผมเห็นท่านก็ตั้งใจนะ วันนี้ก็กำหนดให้ชัดเจนขึ้น ระยะแรกทำอะไรกันบ้าง ผมตอบวันนี้ไง หลายอย่างทำไปหมดแล้ว อีกหลายอย่างต้องไปรอปฏิรูป จะไปทำโครงสร้างปฏิรูปต่อไป ระยะที่ 2 เป้าหมายแรกต่อไปจากนี้ 6 เดือน หรือในปีการศึกษานี้ ได้แก่ ต้องตอบคำถามด้วยว่า เด็ก ป.1 อ่าน ออก เขียนได้ มันต้องมีการประเมินผลที่เป็นรูปธรรม ที่ผ่านมามีการประเมินตอน ป.3 มันช้าไปแล้ว อ่านไม่ได้เหมือนกัน อ่านได้น้อยมาก เด็กชั้น ม.1 ถึง ม.6 ต้องมีชั่วโมง มีเวลา หาวิชาเสริมที่เป็นสาขาวิชาชีพให้เขาเรียนรู้ เลือกเองได้ เป็นช่างไฟฟ้า ช่างแอร์ก็ว่าไป ที่นอกจากการเรียนวิชาทางเรื่องของการศึกษา คุณวุฒิแล้ว ก็ไปเรียนเอาวิชาอาชีวะเขามาใส่บ้าง ไม่อย่างนั้นคนก็จะไปเรียนเอาปริญญาอย่างเดียว อันนั้นเรียนเพื่อจะไปสอบปริญญา ก็ได้หมด แต่มันจะต้องให้เขาเลือกด้วย เอ๊ะ เขาอาจจะไม่เหมาะนะ ถ้าเรียนอย่างนี้ไป จะไปสอบแบบนี้แบบโน้น เขาไปไม่ไหวแน่ อันนี้เขาเลือก เขาชอบนี่นา แล้วเราหารายได้ให้เขา หางานให้เขา ไปฝึกงานทวิภาคี วันนี้การศึกษาเขาเร่งทุกวันเลย แต่สังคมไม่รับรู้ ต้องสร้างความเข้าใจว่าวันนี้เรื่องด่วนระยะแรกของเราต้องการอะไร ดังนั้นต้องเชื่อมโยงการศึกษากับการฝึกฝนวิชาชีพ ให้ตรงกับความต้องการของท้องถิ่น ประเทศชาติด้วย เออีซีจะไปยังไง เราจะเดินหน้าประเทศไปทางไหน ก็เป็นอุตสาหกรรม เกษตรอุตสาหกรรมมั้ย ก็ต้องไปฝึก เดี๋ยวเรามีรถไฟเข้ามาอีก จะพัฒนาเรื่องอาหารต่างๆ มันต้องมีนักวิจัย มีห้องพัฒนา ห้องทดลองมั้ย มันต้องผลิตใหม่ทั้งหมดเลย วันนี้มันกระจัดกระจายหมด ทุกคนไปเรียนมหาวิทยาลัยหมด ส่วนใหญ่ ไม่ได้ เกิน 50-60 เปอร์เซ็นต์ มั้ง ไปสอบ มันก็สอบได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ไม่ได้ทั้งหมดหรอก แล้วจบมาแล้วก็ไม่มีงานทำ นั่นล่ะเป็นภาระ ปัญหาสังคม แล้ววันหน้าก็ต้องเดือดร้อนอีก

อีกเรื่องหนึ่งก็คือว่า งานวิจัย ต้องเร่งรัด สั่งไปแล้ว ต้องเร่งให้ได้ภายใน 6 เดือน ใช้ประโยชน์ให้ได้ แล้วก็วิจัยวิเคราะห์ในสิ่งที่มันเหมาะสมกับความต้องการ

เรื่องความสำคัญในด้านภาษาอังกฤษ ไม่ต้องเอาถึงขนาดไปพูดเป็นฝรั่ง เป็นต่างประเทศหรอก ผมว่าเอาแค่ฟังเขาให้รู้เรื่อง แล้วก็พูดให้เขาพอเข้าใจ เพราะบางอย่างเราไม่ได้ทำงานโดยการใช้ภาษาโดยตรง เพียงแต่ว่าต้องคุ้นชินกับสำเนียงการพูดของเขา ว่าเขาต้องการอะไร เวลาเขาสั่งงานอะไร หรือเราจะไปถ่ายทอดลูกน้อง ไม่งั้นท่านก็เป็นหัวหน้าเขาไม่ได้ ถ้าท่านไม่รู้ภาษาอังกฤษเลยนะ วันนี้ก็เห็นหลายคนสนใจเรื่องภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาจีน แล้วที่เรียนๆ กันอยู่วันนี้ผมเห็นคนสนใจกันเยอะเลยนะ ก็อย่าลืมภาษาไทยก็แล้วกันนะครับ ภาษาไทยก็อย่าลืม เดี๋ยวก็เลยไม่เข้าใจกันอีก วันนี้ผมพูดภาษาไทยเลยนะ ก็อยากให้นักเรียน ครู ผู้ปกครอง มีความสุข มีอนาคต มีงานทำ

เมื่อวานนี้ผมได้ไปเปิดงานวิถีข้าววิถีไทย บริเวณริมคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล พื้นที่เดิมที่เคยจัดตลาดนัดกล้วยไม้ไทย ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยวมากมาย ทั้งเรื่องกล้วยไม้ และเรื่องตลาดน้ำ วันนี้กำลังจัดวิถีข้าววิถีไทย เดือนหนึ่งนะครับ เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน เพื่อจะเปิดโอกาสให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรที่ผลิตข้าวคุณภาพดี ทุกชุมชนมามีโอกาสมาประชาสัมพันธ์ข้าวแปลกๆ หรือข้าวที่มันเป็นประวัติศาสตร์ ข้าวที่บ้านอื่นเขาไม่มี ที่มีคุณภาพดีๆ ผลิตขึ้นมา เพิ่มมูลค่าขึ้นมา เชื่อมโยงการตลาดจากเกษตรกรมาสู่ผู้บริโภคโดยตรง จะได้เพิ่มมูลค่าสินค้าข้าวได้ เป็นแนวทางเพิ่มรายได้สร้างความภาคภูมิใจ เป็นขวัญกำลังใจให้กับเกษตรกรในการประกอบอาชีพในการทำนา กระตุ้นให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญ และความเข้าใจในคุณค่าของข้าวไทย จะต้องมีเรื่องการเรียนรู้ เรื่องการทำการปลูกข้าวสมัยใหม่ด้วยนะครับ ด้วยเทคโนโลยี รวมถึงจัดเครื่องไม้เครื่องมือ เพราะวันหน้าแรงงานในด้านนี้มันจะหายเยอะ ไปทำอาชีพอื่นบ้างอะไรบ้าง แต่ข้าวมันยังจำเป็น เพราะฉะนั้นมันต้องมีคนปลูกข้าว แต่ต้องปลูกแบบเมืองนอกเขาทำ ใช้เครื่องไม้เครื่องมือเครื่องจักร ทำอย่างไรรัฐจะไปช่วยตอนเริ่มต้นได้ เพราะเขาซื้อเองไม่ไหว ตอนนี้เกษตรกับใครมาไทยกำลังเข้าไปช่วยดูอยู่

วันนี้เรามีหลายอย่างที่เป็นความมหัศจรรย์ของข้าวไทย หลายประเทศไม่มี หลายประเทศมีข้าวหอมเหมือนเรา แต่ข้าวบางอย่างไม่มีเหมือนเรา เพราะมันเป็นพันธุ์ของเราที่บรรพบุรุษเราได้ทำมา ที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงให้คิดค้นพันธุ์ข้าวใหม่ๆ เอาพันธุ์ข้าวเก่าโบราณมาฟื้นฟู หลายพันธุ์ด้วยกัน มีเป็นร้อยเป็นพันชนิด ทำอย่างไรข้าวเหล่านี้ อะไรจะไปทำขนมจีน อะไรจะไปหุงข้าว อะไรจะไปทำขนมมันมีหมด คนโบราณสอนมา วันนี้หายไปหมด ไม่ได้ วันนี้ต้องฟื้นฟูให้ได้ วันนี้เราจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 มีนาฯ ถึง 5 เมษาฯ 1 เดือนเต็มๆ นะครับ มีนิทรรศการด้วย มีความรู้อันเป็นประโยชน์มากมาย นิทรรศการพระราชกรณียกิจในการพัฒนาข้าวไทย และการจัดแสดงสินค้าคุณภาพ นวัตกรรมการแปรรูปข้าว และเชื่อมโยงสินค้าข้าวคุณภาพจากที่ต่างๆ มาให้สู่ประชาชน นอกนั้นยังมีการจัดแสดงวัฒนธรรมประเพณี วิถีข้าว วิถีชาวนา วิถีไทยจาก 4 ภาคด้วยนะครับ มีกิจกรรมสาธิต การฝึกอาชีพด้านการปลูกข้าว แปรรูปข้าว การฝึกอาชีพการประกอบอาหารต่างๆ เช่น การทำน้ำข้าวกล้องงอกเขาเรียกอะไรมีคุณภาพมากนะครับ กับเด็กหรือผู้สูงอายุอะไรต่างๆ รับประทานได้ดี ข้าวกล้องมีอนามัยดีอยู่แล้ว ไอศกรีม ข้าวเหนียว พร้อมเครื่องสำอางที่ผลิตจากข้าวอีกนะครับ คนไทยจะได้ไม่ต้องซื้อที่อื่นไง สนับสนุนกันเอง แต่ขอให้ตรวจคุณภาพให้ดีด้วย อย.ต่างๆ เร่งรัดกัน ก็เชิญชวนนะครับอยากให้พี่น้องคนไทย รวมทั้งชาวต่างชาติด้วยมาร่วมชมนิทรรศการ อุดหนุน และช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเขามาเที่ยวด้วย วันนี้เห็นกระทรวงท่องเที่ยวฯ หลายๆ กระทรวงเขาจะจัดคนมาเที่ยว มาดูงานอะไรต่างๆ เพื่อจะเปิดตลาดด้วย และส่งรูป ส่งรายละเอียดไปให้ต่างประเทศเขาดูด้วย ไปสถานทูตฝากสนับสนุนด้วย เขาจะได้มาเปิดตลาดใหม่ให้กับเราด้วย ซื้อข้าวไทยทำใหม่ๆ ไปหุงทาน ผมอยากจะเน้นเรื่องวิธีการหุงข้าวแบบเดิม แบบหม้อข้าวไฟฟ้าในปัจจุบันที่เราใช้อยู่ แต่เดิมเราใช้เป็นหม้อหุงข้าว และมีเรียกว่าอะไร เช็ดนมข้าวอะไรข้าวนี่นะ ก็ต้องเทให้ ใช้น้ำมากน้ำน้อย สมัยก่อนเขาดู ใครหุงข้าวเป็นไม่เป็น เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง วันนี้ใช้เครื่องทั้งสิ้นเลย ก็ไม่เป็นอะไร ก็ต้องหุงให้เป็น

วันนี้บางคนหุงข้าวไฟฟ้าหม้อข้าวยังไม่เป็นเลย และไปใช้ซื้อสำเร็จรูปไว้ และเก็บใส่ถุงพลาสติกไว้ ใส่ตู้เย็น พอถึงเวลาก็มาอุ่นไมโครเวฟ ใช่ไหม พออุ่นไมโครเวฟมันก็แห้งกินไม่ได้ มันก็แข็ง ไม่อร่อยไม่อยากกินข้าว ไปกินของฝรั่งแทน นี่มันหายไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นให้ความสนใจเรื่องนี้ด้วย อยากให้การแนะนำเรื่องการหุงข้าวที่มันถูกวิธีด้วย ทั้งคนไทย เดี๋ยวนี้คนสมัยใหม่ทำไม่เป็นหรอก

สุดท้ายเป็นเรื่องการเลือกตั้ง เรื่องประชาธิปไตย หากคิดว่าประชาชนเป็นใหญ่ เป็นเจ้าของประเทศอย่างเดียว บางครั้งมันก็โอเค ใช่ ข้อเท็จจริงนี่แน่นอน แต่มันอาจจะไม่เหมาะสมในเวลานี้ เพราะฉะนั้นต้องมีเวลาให้ทุกคนเรียนรู้ และรู้ถึงว่าการมีส่วนร่วมกันอย่างไร มีจิตสำนึก มีหน้าที่ มีความรับผิดชอบ และจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างไร ตระหนักถึงสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่นด้วย ฝ่ายการเมืงจะต้องเป็นคนทำให้มันเกิดขึ้น ไม่ใช่ทำให้มันมีปัญหา เพราะฉะนั้นความขัดแย้งมันจะเกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ในการบริหารราชการแผ่นดิน วันนี้รัฐบาลนี้ วันหน้ารัฐบาลใหม่รัฐบาลต่อไป มันก็เป็นอยู่แบบนี้ ท่านต้องให้คนเรียนรู้ว่า จะอยู่ร่วมกันอย่างไร ผมยินดีรับฟังความเห็นทุกคน แต่มันจำเป็นต้องตัดสินใจเดินหน้าทำงาน ผมชอบให้มีการเขาเรียกว่าอะไร ถกแสลงมีเหตุมีผลกัน ผมอาจจะเป็นทหารมากทั้งชีวิต แต่ผมก็ฟัง ส่วนใหญ่ผมฟังทั้งนั้นแหละ แต่ผมอาจจะยังไม่ตัดสินใจวันนั้น แต่ผมก็กลับมาทบทวน และผมสั่งทำอย่างที่ต้องการนั่นแหละ นั่นแหละมันต้องทำแบบนี้ ข้าราชการบางทีก็ต้องเป็นแบบนี้ ฟังเหตุฟังผลกัน ไม่ใช่โกรธเกลียดลูกน้องเสนออะไรมา วันนี้หลายคนตำหนิติเตียนฝ่ายเศรษฐกิจของผม หลายกระทรวงโน้นกระทรวงนี้ เขาทำกันแทบตายท่านไม่รู้เลยว่าเขาเจอปัญหา อะไรที่ท่านบอกว่า เขาต่ำ อะไรที่เขาแย่กว่าคนอื่น นั่นแสดงว่าเขาแก้ปัญหามาก เขาถึงทำเดินหน้าไม่ได้มากนัก ฝากมองอย่างนี้บ้าง ผมรู้เพราะผมสั่งเขา เขาก็รายงานมาติดตรงนี้ เพราะอย่างนี้ ผมก็แก้อย่างนี้ให้ แก้ใน ครม. แก้ใน สนช. แก้ไรมันก็ช้า ท่านก็บอกว่าไม่มีผลงาน มันจะมีได้ไง ก็บอกง่ายๆ มันก็เละอยู่ข้างใน ในกระทรวง ทุกกระทรวงแก้ไขนะ ผมจะไม่เล่นงานเจ้ากระทรวง จะเล่นงานข้างล่างลงไปนั่นละ ข้าราชการต้องทำ สมัยนี้ ต้องทำอย่างนี้ ต้องเร็ว ไม่สั่งก็ไม่เร็ว

อีกเรื่องคือ เรื่องการกระจายอำนาจ เหมือนกันหลายอย่างก็ดี หลายอย่างก็โอเคเป็นประชาธิปไตยโลก หลายอย่างมันไปไม่ได้ ให้ อปท.รับผิดชอบถนนในหมู่บ้าน งบประมาณก็จำกัด ซ่อมก็ไม่มีงบ คุณภาพในการทำก็ไม่ได้ อะไรเหล่านี้ ไปทบทวนกันเองแล้วกันจะเอาไง ถ้าทุกคนกระจายๆ หมด เอางบประมาณลงไปหมด และเมื่อกี้ผมบอกแล้วว่าไง ทำแผนยังทำไม่สำเร็จเลย แล้วเอาเงินลงไปเยอะๆ จะเกิดอะไรขึ้น ไปทบทวนใหม่ อย่าพูดแต่หลักการว่า ประชาธิปไตยต้องเลือกตั้ง แล้วไง กระจายอำนาจ ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ ถ้าอย่างนั้น ไม่ต้องมีรัฐบาล ไม่ต้องเลือกตั้ง ก็ปกครองยังไงก็ได้ประชาชนเป็นใหญ่ ใครใหญ่ปกครองไปแล้วกัน และอะไรก็ตามถ้ามันเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องทำต่อไป ไม่ว่าใครเป็นฝ่ายรัฐบาล ใครเป็นฝ่ายค้าน อะไรที่เป็นโครงการดี แม้กระทั่งวันนี้ ผมทำอะไรไม่ดีก็เลิกได้วันหน้า ถึงเวลาก็เลิกได้ อะไรดีต้องทำต่อ ท่านทำไหม หรือท่านไปทำอีกแบบ ผมไม่รู้ บางอย่างอันไหนดีแล้วผมก็มาปรับแก้ ไม่ได้รังเกียจเป็นของใครทั้งสิ้น เพียงแต่อย่าให้เกิดปัญหากับประเทศชาติ ถนนหนทางไปดูซิทำไง กระจายรายได้ทำยังไง เหมาะไหม เงินทองไปที่ไหน

วันนี้ภาษีสั่งไปแล้วทำอย่าให้เขาเดือดร้อนในเรื่องภาษีที่ดิน ภาษี เดี๋ยวไปคุยกัน ทุกอย่างมันยังไม่เกิดคุยได้หมด เราก็ต้องดูทุกแง่ทุกมุม มันไม่เก็บไม่ได้ เพราะไม่มีเงินไง เอาเงินจากที่ไหนมา แล้วปัญหามันเยอะไปหมด ถ้าเราทำทุกอย่างมีประสิทธิภาพมีประสิทธิผล ประชาชนเป็นศูนย์กลางให้เวลา และเชื่อใจ เชื่อมั่นรัฐบาลในการแก้สถานการณ์วันนี้ เราทำเต็มที่แล้ว แล้ววันหน้าเปรียบเทียบเอาแล้วกันเป็นไง ถ้าวันนี้ไม่ร่วมมือกับผม มันก็ไปไหนไม่ได้เหมือนเดิม อยู่ที่เก่า แย่กว่าเดิมด้วยนะ ผมจะบอกให้ เพราะทุกอย่างมันปรับเปลี่ยน และเริ่มต้นใหม่ใช่ไหม เรียกการปฏิรูปไง ระยะเร่งด่วน ถ้าไม่ทำอย่างนี้ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนซะที ก็รอไปเรื่อย และวันหน้าก็บ่นกับรัฐบาลหน้าว่า ทำไมมันเป็นอย่างนี้อย่างนั้นอีก ต่อไปเหมือนเดิม

วันนี้ก็พูดไปเยอะอีกแล้ว ก็พยายามจะสร้างความเข้าใจให้ได้แล้วกัน ไม่อยากให้มาถามผมอีกว่า มีผลงานอย่างไร ผมจะปรับรัฐมนตรีคนไหนบ้าง กระทรวงไหนบ้าง ถ้ากระทรวงไหนที่ท่านบอกว่าไม่มีผลงาน ย้อนไปดูว่ามีปัญหาอะไรบ้างในกระทรวง ข้าราชการรีบแก้ไขตัวเอง ในกระทรวงที่ค่อนข้างจะมีประชาชนไม่เชื่อถือ ผมไม่โทษเจ้ากระทรวง เพราระผมรู้ ผมตั้งมาเอง มีการประชุม มีการทำงานร่วมกัน แต่มันไม่ออก เพราะว่าเขาไม่ได้ไปทำเอง รัฐมนตรีทำเองไม่ได้ ข้าราชการเป็นคนทำทั้งสิ้น แสดงว่ากลไกมันไมได้ ไปว่ามา ผมก็ไว้ใจทุกคน

ขอบคุณนะครับขอให้ทุกคนมีความสุข เสาร์ อาทิตย์ พักผ่อนให้เต็มที่ แล้วก็อดทนกันหน่อยให้มากขึ้นกว่าเดิมนิดหนึ่ง พูดจาฟังกันบ้าง หรือพูดให้น้อยลงบ้าง สำหรับผมคงต้องขอท่านแบบนี้ ขอพูดไปก่อนจนกว่าท่านจะไม่มาถามผมว่า ทำอะไรอย่างไร ถ้าถามแบบนี้ผมก็ต้องพูดแบบนี้ ถ้าท่านเข้าใจมากขึ้นผมก็พูดน้อยลง ขอบพระคุณนะครับ สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น