นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ครั้งที่ 1 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ที่ประชุม กนย.เห็นชอบตามมติคณะรัฐมนตรีให้นำเงิน 2,000 ล้านบาท เข้าซื้อน้ำยางสดและน้ำยางก้นถ้วยจากเกษตรกร โดยจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อย เช่น ผ่านการรับซื้อจากสหกรณ์ ก่อนถึงฤดูกาลปิดกรีดยาง ซึ่งขณะนี้ราคาน้ำยางดิบอยู่ที่ 45.5 บาทต่อกิโลกรัม ยางก้อนถ้วยอยู่ที่ 40 บาทต่อกิโลกรัม
ทั้งนี้ เงิน 2,000 ล้านบาท จะสามารถซื้อยางได้จนหมดฤดูปิดกรีด ที่จะประกาศในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ โดยจะให้ กนย.แต่ละจังหวัดไปดำเนินการนำเงินในส่วนนี้ช่วยเหลือเฉพาะเกษตรกรรายย่อยที่ขึ้นทะเบียน โดยจะไม่ให้เกษตรรายใหญ่ โดยกลไกลนี้จะพยุงราคายาง และจะระบายยางในสต๊อกในช่วงปิดกรีดเพื่อไม่ให้ราคายางตกต่ำ
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบสถานการณ์ราคายางพาราของโลกที่มีราคาตกต่ำ จากราคาน้ำมันปรับลดทำให้ยางเทียม มีราคาถูกกิโลกรัมละ 35 บาท ดังนั้น จะผลักดันให้ราคายางธรรมชาติราคาสูงขึ้นจึงเป็นเรื่องยาก แต่ที่ผ่านมา 3 เดือน รัฐบาลเข้ามาพยุงราคา จนราคายางแผ่นดิบรมควันชั้น 3 จากราคา 55 บาท มาอยู่ในราคากิโลกรัมละ 63.15 บาท และยางแผ่นดิบกิโลกรัมละ 58 บาท
นายอำนวย กล่าวด้วยว่า หากรัฐบาลสามารถส่งออกยางพารา 200,000 ตัน และข้าว 2 ล้านตัน ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU กับจีน ในช่วงเดือนพฤษภาคม ก็จะเป็นโอกาสที่จะทำให้ราคายางสูงขึ้น และส่งผลให้ฤดูกาลยางใหม่ปี 2558-2559 ไม่มีปัญหา
ทั้งนี้ เงิน 2,000 ล้านบาท จะสามารถซื้อยางได้จนหมดฤดูปิดกรีด ที่จะประกาศในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ โดยจะให้ กนย.แต่ละจังหวัดไปดำเนินการนำเงินในส่วนนี้ช่วยเหลือเฉพาะเกษตรกรรายย่อยที่ขึ้นทะเบียน โดยจะไม่ให้เกษตรรายใหญ่ โดยกลไกลนี้จะพยุงราคายาง และจะระบายยางในสต๊อกในช่วงปิดกรีดเพื่อไม่ให้ราคายางตกต่ำ
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบสถานการณ์ราคายางพาราของโลกที่มีราคาตกต่ำ จากราคาน้ำมันปรับลดทำให้ยางเทียม มีราคาถูกกิโลกรัมละ 35 บาท ดังนั้น จะผลักดันให้ราคายางธรรมชาติราคาสูงขึ้นจึงเป็นเรื่องยาก แต่ที่ผ่านมา 3 เดือน รัฐบาลเข้ามาพยุงราคา จนราคายางแผ่นดิบรมควันชั้น 3 จากราคา 55 บาท มาอยู่ในราคากิโลกรัมละ 63.15 บาท และยางแผ่นดิบกิโลกรัมละ 58 บาท
นายอำนวย กล่าวด้วยว่า หากรัฐบาลสามารถส่งออกยางพารา 200,000 ตัน และข้าว 2 ล้านตัน ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU กับจีน ในช่วงเดือนพฤษภาคม ก็จะเป็นโอกาสที่จะทำให้ราคายางสูงขึ้น และส่งผลให้ฤดูกาลยางใหม่ปี 2558-2559 ไม่มีปัญหา