ศาลแพ่งอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีที่ นางไสว ภู่สุวรรณ พร้อมพวกรวม 12 คน ญาติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุโป๊ะท่าเรือพรานนกล่ม เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2538 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัทสุภัทรา จำกัด / บริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา / กรุงเทพมหานคร และกรมเจ้าท่า เป็นจำเลยที่ 1 ถึง 4 ว่า กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ก่อนหน้านี้บริษัทสุภัทรา และบริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา ได้ชดใช้ให้กับผู้เสียหายเป็นเงินจำนวนหนึ่ง จนมีการถอนฟ้อง เฉพาะจำเลยที่ 1 และ 2 ต่อมาศาลชั้นต้นยกฟ้องกรมเจ้าท่า จึงเหลือเพียงกรุงเทพมหานคร ที่ต่อสู้คดีมาจนถึงชั้นศาลฎีกา
ล่าสุดศาลฎีกาพิพากษาให้กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมดูแลท่าเรือให้เกิดความปลอดภัย แต่ประมาทเลินเล่อ ไม่ดูแล จนเกิดอุบัติเหตุมีประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต ถือเป็นการกระทำโดยประมาทเลิ่นเล่อของจำเลย ต้องจ่ายเงินชดใช้เงินแก่ผู้เสียหาย 12 ราย รวมเป็นเงินกว่า 18 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ตั้งแต่ปี 2539
สำหรับเหตุการณ์โป๊ะล่มที่พรานนก เกิดขึ้นเมื่อตอนเช้าวันที่ 14 มิถุนายน 2538 ขณะเรือด่วนเข้าเทียบท่าที่ท่าน้ำพรานนก โป๊ะได้เกิดล่ม ทำให้ผู้โดยสารที่ยืนรออยู่ร่วม 100 ชีวิตตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา มีผู้เสียชีวิตถึง 29 ศพ
ก่อนหน้านี้บริษัทสุภัทรา และบริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา ได้ชดใช้ให้กับผู้เสียหายเป็นเงินจำนวนหนึ่ง จนมีการถอนฟ้อง เฉพาะจำเลยที่ 1 และ 2 ต่อมาศาลชั้นต้นยกฟ้องกรมเจ้าท่า จึงเหลือเพียงกรุงเทพมหานคร ที่ต่อสู้คดีมาจนถึงชั้นศาลฎีกา
ล่าสุดศาลฎีกาพิพากษาให้กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมดูแลท่าเรือให้เกิดความปลอดภัย แต่ประมาทเลินเล่อ ไม่ดูแล จนเกิดอุบัติเหตุมีประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต ถือเป็นการกระทำโดยประมาทเลิ่นเล่อของจำเลย ต้องจ่ายเงินชดใช้เงินแก่ผู้เสียหาย 12 ราย รวมเป็นเงินกว่า 18 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ตั้งแต่ปี 2539
สำหรับเหตุการณ์โป๊ะล่มที่พรานนก เกิดขึ้นเมื่อตอนเช้าวันที่ 14 มิถุนายน 2538 ขณะเรือด่วนเข้าเทียบท่าที่ท่าน้ำพรานนก โป๊ะได้เกิดล่ม ทำให้ผู้โดยสารที่ยืนรออยู่ร่วม 100 ชีวิตตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา มีผู้เสียชีวิตถึง 29 ศพ
