เฮลเล ธอร์นนิ่ง-ชมิดต์ นายกรัฐมนตรีหญิงของเดนมาร์กในวันจันทร์(16ก.พ.) แสวงหาหนทางสร้างความอุ่นใจแก่ชุมชนชาวยิวแดนโคนม ตามหลังยิงนองเลือดที่โบสถ์ยิวในโคเปนเฮเกนช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรีหญิงของเดนมาร์กรายนี้ ร้องขอชาวยิวอย่าอพยพกลับ แม้มีเสียงเรียกร้องจากนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ถึงชาวยิวยุโรป ให้เดินทางไปยังอิสราเอล ตามหลังเหตุโจมตี 2 ระลอกในเมืองหลวงของเดนมาร์ก
พร้อมกันนั้น เฮลเล ธอร์นนิ่ง-ชมิดต์ ประกาศด้วยว่าเดนมาร์กจะไม่ยอมจำนนให้กับการข่มขู่ใดๆ โดยระบุมีความขัดแย้งระหว่างค่านิยมของสังคมเดนมาร์กกับพวกสุดโต่งที่ก่อความรุนแรง แต่มันไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างชาวมุสลิมกับประชาคมอื่นๆ "ประชมคมชาวยิวอยู่ในประเทศแห่งนี้มาหลายศตวรรษ พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์ก เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเดนมาร์ก และเราคงไม่เหมือนเดิม หากปราศจากชุมชนยิวในเดนมาร์ก" เธอบอกกับผู้สื่อข่าว
ความเห็นของเธอมีขึ้นหลังจากเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุมือปืนบุกโจมตีในงานเสวนาส่งเสริมเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งหนึ่ง และที่โบสถ์ยิวแห่งหนึ่งในกรุงโคเปนเฮเกน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชายชาวยิววัย 37 ปี เช่นเดียวกับผู้ผลิตภาพยนต์วัย 55 ปี ที่เข้าร่วมเวทีสนทนาเกี่ยวกับอิสลามและเสรีภาพของสื่อมวลชน
ผู้นำหญิงของเดนมาร์กบอกว่าเดนมาร์กจะไม่ยอมก้มหัวให้แก่การข่มขู่ ขณะที่สิทธิการชุมนุมและเสรีภาพแห่งการแสดงออกเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ พร้อมกันนั้นเธอชี้ว่าเหตุยิงนองเลือดที่โบสถ์ยิวเสมือนเป็นการโจมตีชาวเดนมาร์กทุกคนและประกาศว่าประเทศแห่งนี้จะดำเนินการทุกอย่างเพื่อปกป้องประชาคมชาวยิว
นายกรัฐมนตรีหญิงของเดนมาร์กรายนี้ ร้องขอชาวยิวอย่าอพยพกลับ แม้มีเสียงเรียกร้องจากนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ถึงชาวยิวยุโรป ให้เดินทางไปยังอิสราเอล ตามหลังเหตุโจมตี 2 ระลอกในเมืองหลวงของเดนมาร์ก
พร้อมกันนั้น เฮลเล ธอร์นนิ่ง-ชมิดต์ ประกาศด้วยว่าเดนมาร์กจะไม่ยอมจำนนให้กับการข่มขู่ใดๆ โดยระบุมีความขัดแย้งระหว่างค่านิยมของสังคมเดนมาร์กกับพวกสุดโต่งที่ก่อความรุนแรง แต่มันไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างชาวมุสลิมกับประชาคมอื่นๆ "ประชมคมชาวยิวอยู่ในประเทศแห่งนี้มาหลายศตวรรษ พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์ก เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเดนมาร์ก และเราคงไม่เหมือนเดิม หากปราศจากชุมชนยิวในเดนมาร์ก" เธอบอกกับผู้สื่อข่าว
ความเห็นของเธอมีขึ้นหลังจากเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเหตุมือปืนบุกโจมตีในงานเสวนาส่งเสริมเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งหนึ่ง และที่โบสถ์ยิวแห่งหนึ่งในกรุงโคเปนเฮเกน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชายชาวยิววัย 37 ปี เช่นเดียวกับผู้ผลิตภาพยนต์วัย 55 ปี ที่เข้าร่วมเวทีสนทนาเกี่ยวกับอิสลามและเสรีภาพของสื่อมวลชน
ผู้นำหญิงของเดนมาร์กบอกว่าเดนมาร์กจะไม่ยอมก้มหัวให้แก่การข่มขู่ ขณะที่สิทธิการชุมนุมและเสรีภาพแห่งการแสดงออกเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ พร้อมกันนั้นเธอชี้ว่าเหตุยิงนองเลือดที่โบสถ์ยิวเสมือนเป็นการโจมตีชาวเดนมาร์กทุกคนและประกาศว่าประเทศแห่งนี้จะดำเนินการทุกอย่างเพื่อปกป้องประชาคมชาวยิว