ศาลสูงสุดมาเลเซียพิพากษาในวันอังคาร (10 ก.พ.) ยืนคำตัดสินเดิมของศาลอุทธรณ์ ว่า อันวาร์ อิบรอฮิม ผู้นำฝ่ายค้านและเป็นศัตรูทางการเมืองตัวบิ๊กเบิ้มของรัฐบาล มีพฤติกรรมรักร่วมเพศจริงและต้องถูกจำคุก 5 ปี พร้อมระบุว่าไม่ได้ทำตามใบสั่งรัฐบาล แต่มีหลักฐานแน่นหนา ทางด้านอดีตรองนายกรัฐมนตรีดาวรุ่งผู้นี้ซึ่งอนาคตทางการเมืองอาจดับวูบสูญสิ้น ยังคงยืนกรานความบริสุทธิ์ของตน พร้อมเตือนนายกฯ นาจิบว่า การสมรู้ร่วมคิดทางการเมืองครั้งนี้จะยิ่งทำให้ประชาชนหันมาสนับสนุนแนวร่วมฝ่ายค้านมากขึ้น
คดีนี้ถูกวิจารณ์กว้างขวางทั้งในและนอกมาเลเซียว่า เป็นการจัดฉากทางการเมืองเพื่อขจัดภัยคุกคามต่อพรรครัฐบาลที่ความนิยมเสื่อมทรุดนับจากปี 2008 หลังจากผูกขาดอำนาจมากว่า 5 ทศวรรษ เนื่องจากอันวาร์นั้นเป็นผู้นำการต่อต้านรัฐบาลที่ได้รับความนิยมสูงสุด และเป็นเสี้ยนหนามสำคัญของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค
การพิจารณาของศาลสูงสุดนี้ถือเป็นโอกาสต่อสู้ทางกฎหมายครั้งสุดท้ายของอันวาร์ และเมื่อกระบวนการยุติลง เขาก็ถูกนำตัวไปควบคุมในเรือนจำนาน 5 ปี จากข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ไซฟัล บูฆอรี อัซลาน พนักงานระดับล่างในสำนักงานหาเสียงเลือกตั้งปี 2008 ของเขา ซึ่งขณะเกิดเหตุอายุเพียง 23 ปี
เมือปี 2012 ศาลชั้นต้นตัดสินว่า อันวาร์ไม่มีความผิดในคดีนี้ ทว่า ศาลอุทธรณ์กลับคำตัดสินดังกล่าวในเดือนมีนาคมปีที่แล้วและสั่งจำคุกอันวาร์ 5 ปี อันวาร์จึงยื่นเรื่องต่อสู้ในชั้นศาลสูงสุด
ทั้งนี้ การมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน แม้ยินยอมพร้อมใจทั้งสองฝ่าย ถือเป็นความผิดทางอาญาในมาเลเซีย ประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม โดยมีระวางโทษสูงสุดจำคุก 20 ปี
ไซฟัลที่ปัจจุบันอายุ 30 ปี และแต่งงานมีบุตรชาย 1 คน ยืนยันว่า จำยอมมีเพศสัมพันธ์เนื่องจากเกรงกลัวอันวาร์ เขายังขอบคุณผ่านบล็อกที่ศาลเชื่อในคำให้การของเขา
ด้านอันวาร์ตอบโต้จากคอกจำเลย หลังผู้พิพากษาอ่านคำวินิจฉัยว่า ศาลกลายเป็นหุ้นส่วนในการฆาตกรรมความเป็นอิสระของฝ่ายตุลาการ พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง และประกาศต่อสู้เพื่ออิสรภาพและความยุติธรรมต่อไปไม่ท้อถอย
อันวาร์ยังเตือนนาจิบว่า แทนที่จะทำให้แนวร่วมฝ่ายค้าน 3 พรรคแตก แต่การจำคุกตนกลับจะทำให้ประชาชนหันมาสนับสนุนฝ่ายค้านมากขึ้น
อันวาร์เป็นผู้นำพันธมิตรฝ่ายค้านที่กวาดคะแนนในการเลือกตั้งปี 2008 มากมายอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและต่อเนื่องจนถึงการเลือกตั้งในปี 2013 ที่แม้พันธมิตรแห่งชาติที่นำโดยพรรคอัมโนของนาจิบได้ที่นั่งในสภามากกว่า แต่กลับแพ้ฝ่ายค้านในส่วนคะแนนป็อปปูลาร์โหวตจากประชาชน
คดีนี้ถูกวิจารณ์กว้างขวางทั้งในและนอกมาเลเซียว่า เป็นการจัดฉากทางการเมืองเพื่อขจัดภัยคุกคามต่อพรรครัฐบาลที่ความนิยมเสื่อมทรุดนับจากปี 2008 หลังจากผูกขาดอำนาจมากว่า 5 ทศวรรษ เนื่องจากอันวาร์นั้นเป็นผู้นำการต่อต้านรัฐบาลที่ได้รับความนิยมสูงสุด และเป็นเสี้ยนหนามสำคัญของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค
การพิจารณาของศาลสูงสุดนี้ถือเป็นโอกาสต่อสู้ทางกฎหมายครั้งสุดท้ายของอันวาร์ และเมื่อกระบวนการยุติลง เขาก็ถูกนำตัวไปควบคุมในเรือนจำนาน 5 ปี จากข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ไซฟัล บูฆอรี อัซลาน พนักงานระดับล่างในสำนักงานหาเสียงเลือกตั้งปี 2008 ของเขา ซึ่งขณะเกิดเหตุอายุเพียง 23 ปี
เมือปี 2012 ศาลชั้นต้นตัดสินว่า อันวาร์ไม่มีความผิดในคดีนี้ ทว่า ศาลอุทธรณ์กลับคำตัดสินดังกล่าวในเดือนมีนาคมปีที่แล้วและสั่งจำคุกอันวาร์ 5 ปี อันวาร์จึงยื่นเรื่องต่อสู้ในชั้นศาลสูงสุด
ทั้งนี้ การมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน แม้ยินยอมพร้อมใจทั้งสองฝ่าย ถือเป็นความผิดทางอาญาในมาเลเซีย ประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม โดยมีระวางโทษสูงสุดจำคุก 20 ปี
ไซฟัลที่ปัจจุบันอายุ 30 ปี และแต่งงานมีบุตรชาย 1 คน ยืนยันว่า จำยอมมีเพศสัมพันธ์เนื่องจากเกรงกลัวอันวาร์ เขายังขอบคุณผ่านบล็อกที่ศาลเชื่อในคำให้การของเขา
ด้านอันวาร์ตอบโต้จากคอกจำเลย หลังผู้พิพากษาอ่านคำวินิจฉัยว่า ศาลกลายเป็นหุ้นส่วนในการฆาตกรรมความเป็นอิสระของฝ่ายตุลาการ พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง และประกาศต่อสู้เพื่ออิสรภาพและความยุติธรรมต่อไปไม่ท้อถอย
อันวาร์ยังเตือนนาจิบว่า แทนที่จะทำให้แนวร่วมฝ่ายค้าน 3 พรรคแตก แต่การจำคุกตนกลับจะทำให้ประชาชนหันมาสนับสนุนฝ่ายค้านมากขึ้น
อันวาร์เป็นผู้นำพันธมิตรฝ่ายค้านที่กวาดคะแนนในการเลือกตั้งปี 2008 มากมายอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและต่อเนื่องจนถึงการเลือกตั้งในปี 2013 ที่แม้พันธมิตรแห่งชาติที่นำโดยพรรคอัมโนของนาจิบได้ที่นั่งในสภามากกว่า แต่กลับแพ้ฝ่ายค้านในส่วนคะแนนป็อปปูลาร์โหวตจากประชาชน