สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจากทั่วประเทศ จำนวน 1,209 คน ต่อเหตุการณ์ระเบิดหน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยประชาชนระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความหวาดกลัว ประชาชนไม่มั่นใจในความปลอดภัย มองว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ เพื่อต้องการให้เกิดความวุ่นวาย เป็นเหตุการณ์ที่กระทบต่อภาพลักษณ์และเสถียรภาพของประเทศ รวมทั้งเป็นการท้าทาย ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
ทั้งนี้ ประชาชนร้อยละ 48.81 เชื่อว่ามีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเหตุเกิดในช่วงที่มีประเด็นสำคัญทางการเมือง อาทิ การถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และการที่สหรัฐฯ เรียกร้องให้ไทยยกเลิกกฎอัยการศึก หรืออาจมีคนไม่เห็นด้วยกับการทำงานของรัฐบาลและ คสช. ขณะที่ร้อยละ 19.66 ไม่เชื่อว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง โดยมองว่าอาจเป็นการขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจ หรือเป็นเรื่องส่วนตัว
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าว ประชาชนร้อยละ 80.46 เห็นว่ารัฐบาลควรเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตามสถานที่สำคัญต่างๆ ให้มากขึ้น ร้อยละ 78.97 ต้องการให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนข้อเท็จจริง และติดตามหาตัวคนร้ายมาลงโทษโดยเร็ว ร้อยละ 74.91 แนะให้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ดูแลและเฝ้าระวังไม่ให้เดเหตุซ้ำอีก นอกจากนี้ ร้อยละ 54.40 ระบุว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล ควรชี้แจงถึงความคืบหน้าของคดีให้ประชาชนรับทราบเป็นระยะ และไม่ควรปิดข่าว
ทั้งนี้ ประชาชนร้อยละ 48.81 เชื่อว่ามีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเหตุเกิดในช่วงที่มีประเด็นสำคัญทางการเมือง อาทิ การถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และการที่สหรัฐฯ เรียกร้องให้ไทยยกเลิกกฎอัยการศึก หรืออาจมีคนไม่เห็นด้วยกับการทำงานของรัฐบาลและ คสช. ขณะที่ร้อยละ 19.66 ไม่เชื่อว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง โดยมองว่าอาจเป็นการขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจ หรือเป็นเรื่องส่วนตัว
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าว ประชาชนร้อยละ 80.46 เห็นว่ารัฐบาลควรเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตามสถานที่สำคัญต่างๆ ให้มากขึ้น ร้อยละ 78.97 ต้องการให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนข้อเท็จจริง และติดตามหาตัวคนร้ายมาลงโทษโดยเร็ว ร้อยละ 74.91 แนะให้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ดูแลและเฝ้าระวังไม่ให้เดเหตุซ้ำอีก นอกจากนี้ ร้อยละ 54.40 ระบุว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล ควรชี้แจงถึงความคืบหน้าของคดีให้ประชาชนรับทราบเป็นระยะ และไม่ควรปิดข่าว