การประชุมคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ พิจารณาหมวดว่าด้วยการใช้อำนาจรัฐ เรื่อง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยปรับลดจำนวนคณะกรรมการ ป.ป.ช.จากเดิม 10 คน เหลือ 9 คน รวมตำแหน่งประธานกรรมการ มีวาระดำรงตำแหน่ง 9 ปี ได้เพียงวาระเดียว และต้องไม่เคยเป็นกรรมการ ป.ป.ช.มาก่อน ซึ่งไม่ได้กำหนดว่าจะต้องมีประสบการณ์ในด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
ทั้งนี้ กำหนดให้วุฒิสภามีอำนาจลงมติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พ้นจากตำแหน่ง ด้วยคะแนนไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด เมื่อมี ส.ส.หรือประชาชนเข้าชื่อร้องขอ และหากมีผู้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่องการกระทำผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ฐานทุจริตต่อหน้าที่ ร่ำรวยผิดปกติ ห้ามไม่ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ปฏิบัติหน้าที่ระหว่างที่ศาลรับคำร้องไว้ จนกว่าจะมีคำพิพากษา ตลอดจนเพิ่มอำนาจหน้าที่ในการไต่สวน
นอกจากนี้ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยังสามารถไต่สวนและวินิจฉัยกรรมการในองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และตรวจการ ผู้ใช้และผู้สนับสนุนการกระทำความผิดในกรณีร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่ด้วย
ขณะเดียวกัน กรรมาธิการฯ ยังได้พิจารณาเรื่องคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน จำนวน 10 คน วาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี มีสัดส่วนของชาย-หญิงที่เหมาะสม และใช้องค์ประกอบของกรรมการสรรหาเช่นเดียวกับคณะกรรมการสรรหา กกต. โดยมีข้อเสนอให้ปรับองค์ประกอบที่ต่างกัน จะต้องมีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับ และมาจากการแนะนำของรัฐสภาเช่นเดิม
ทั้งนี้ กำหนดให้วุฒิสภามีอำนาจลงมติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พ้นจากตำแหน่ง ด้วยคะแนนไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด เมื่อมี ส.ส.หรือประชาชนเข้าชื่อร้องขอ และหากมีผู้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เรื่องการกระทำผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ฐานทุจริตต่อหน้าที่ ร่ำรวยผิดปกติ ห้ามไม่ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ปฏิบัติหน้าที่ระหว่างที่ศาลรับคำร้องไว้ จนกว่าจะมีคำพิพากษา ตลอดจนเพิ่มอำนาจหน้าที่ในการไต่สวน
นอกจากนี้ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยังสามารถไต่สวนและวินิจฉัยกรรมการในองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และตรวจการ ผู้ใช้และผู้สนับสนุนการกระทำความผิดในกรณีร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่ด้วย
ขณะเดียวกัน กรรมาธิการฯ ยังได้พิจารณาเรื่องคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน จำนวน 10 คน วาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี มีสัดส่วนของชาย-หญิงที่เหมาะสม และใช้องค์ประกอบของกรรมการสรรหาเช่นเดียวกับคณะกรรมการสรรหา กกต. โดยมีข้อเสนอให้ปรับองค์ประกอบที่ต่างกัน จะต้องมีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับ และมาจากการแนะนำของรัฐสภาเช่นเดิม