รายงานข่าวจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เปิดเผยว่า บช.น.หารือร่วมกับกรุงเทพมหานคร(กทม.) ถึงการรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ และลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวเพื่อช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัด เพราะปัจจุบันปริมาณรถยนต์ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่สอดคล้องกับปริมาณถนนที่มีจำนวนเท่าเดิม เพียง 5,000 กิโลเมตรเท่านั้น ดังนั้นการใช้ระบบขนส่งสาธารณะจะเป็นการช่วยลดจำนวนรถบนท้องถนนลงไป
อย่างไรก็ตามระบบขนส่งสาธารณะที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ คือ รถเมล์โดยสารที่ส่วนใหญ่ประชาขนจะไม่สามารถกำหนดระยะเวลาการเดินทางได้ ส่วนหนึ่งเกิดจากช่องทางการเดินรถเมล์โดยสาร มักมีรถยนต์ส่วนบุคคลของประชาชนเข้าใช้งาน ทำให้เกิดปัญหารถติดสะสมขึ้นบช.น.จึงได้ประสานไปยังองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)เพื่อกำชับให้รถเมล์โดยสารวิ่งเฉพาะช่องทางเดินรถเมล์โดยสารเท่านั้น ไม่เข้าวิ่งในช่องทางด่วนอย่างเด็ดขาด ส่วนกรณีรถยนต์ส่วนบุคคลที่เข้าวิ่งในช่องทางรถเมล์ บช.น.ได้สั่งการให้ตำรวจจราจรในสน.ท้องที่นั้นๆ เร่งกวดขันจับกุมโดยมีอัตราโทษจับปรับไม่เกิน 1,000 บาท
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากนี้หลังจากที่บช.น.ได้ดำเนินการทำบันทึกข้อตกลง(เอ็มโอยู)ร่วมกับโรงเรียนและสถานศึกษาต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาการจราจรหน้าโรงเรียน ซึ่งจะมีการกำหนดจุดรับส่งที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้ปกครองเข้ารับส่งบุตรหลานด้วยความรวดเร็ว ไม่จอดรถแช่รอรับจนกระทบต่อผู้ใช้รถใช้ถนนอื่นๆ อีกทั้งจะมีการชี้แจงให้ผู้ปกครองรับทราบถึงจุดห้ามจอดและหากมีการฝ่าฝืน จะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และจะจัดอบรมอาสาจราจรหน้าโรงเรียน เพื่อคอยดูแลแก้ปัญหารถติด ถือเป็นการช่วยงานตำรวจจราจรอีกส่วนหนึ่งด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามระบบขนส่งสาธารณะที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ คือ รถเมล์โดยสารที่ส่วนใหญ่ประชาขนจะไม่สามารถกำหนดระยะเวลาการเดินทางได้ ส่วนหนึ่งเกิดจากช่องทางการเดินรถเมล์โดยสาร มักมีรถยนต์ส่วนบุคคลของประชาชนเข้าใช้งาน ทำให้เกิดปัญหารถติดสะสมขึ้นบช.น.จึงได้ประสานไปยังองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)เพื่อกำชับให้รถเมล์โดยสารวิ่งเฉพาะช่องทางเดินรถเมล์โดยสารเท่านั้น ไม่เข้าวิ่งในช่องทางด่วนอย่างเด็ดขาด ส่วนกรณีรถยนต์ส่วนบุคคลที่เข้าวิ่งในช่องทางรถเมล์ บช.น.ได้สั่งการให้ตำรวจจราจรในสน.ท้องที่นั้นๆ เร่งกวดขันจับกุมโดยมีอัตราโทษจับปรับไม่เกิน 1,000 บาท
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากนี้หลังจากที่บช.น.ได้ดำเนินการทำบันทึกข้อตกลง(เอ็มโอยู)ร่วมกับโรงเรียนและสถานศึกษาต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาการจราจรหน้าโรงเรียน ซึ่งจะมีการกำหนดจุดรับส่งที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้ปกครองเข้ารับส่งบุตรหลานด้วยความรวดเร็ว ไม่จอดรถแช่รอรับจนกระทบต่อผู้ใช้รถใช้ถนนอื่นๆ อีกทั้งจะมีการชี้แจงให้ผู้ปกครองรับทราบถึงจุดห้ามจอดและหากมีการฝ่าฝืน จะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และจะจัดอบรมอาสาจราจรหน้าโรงเรียน เพื่อคอยดูแลแก้ปัญหารถติด ถือเป็นการช่วยงานตำรวจจราจรอีกส่วนหนึ่งด้วยเช่นกัน
