อนึ่ง เมื่อวันพุธที่ 14 มกราคม 2558 เวลา 08.01 น. สมเด็จเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปยังท่าอากาศยานหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านย่านซื่อ อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทอดพระเนตรการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริของโรงเรียนฯ โดยสอนเสริมทักษะภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จัดทำโครงการปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ในโอกาสนี้ ทรงมีพระราชดำริให้ปลูกผักเพิ่มบริเวณข้างแปลงข้าวให้ได้ผลผลิตพอบริโภค และให้กรมชลประทาน ทำถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ รับน้ำจากอ่างเก็บน้ำย่านซื่อ เพื่อเสริมการกระจายน้ำในการทำเกษตร
จากนั้น ทอดพระเนตรการบรรจุข้าวไรซ์เบอร์รี่ของกลุ่มเกษตรกร ส่วนปลายข้าวนำไปแปรรูปและถนอมอาหาร เช่น ขนมครก ขนมทองม้วน และน้ำข้าวไรซ์เบอร์รี่ ในโอกาสนี้ ได้พระราชทานอุปกรณ์การเรียน และอาหารเสริมแก่เด็กเล็ก ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านย่านซื่อ ปัจจุบันมีเด็กเล็กอยู่ในความดูแล จำนวน 31 คน เสร็จแล้ว ทอดพระเนตรข้อมูลการทำนาข้าวไรซ์เบอร์รี่ อุปกรณ์การทำนาพื้นบ้าน และเครื่องสีข้าวพระราชทาน คนในชุมชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน การทำนาข้าวไรซ์เบอร์รี่ ปัจจุบันสามารถขยายผลการปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่สู่ชุมชนนำไปเพาะปลูก และนำผลผลิตกลับมาจำหน่ายให้กับโรงเรียนไว้บริโภคได้ตลอดปี ที่เหลือส่งจำหน่ายสร้างรายได้เข้ากลุ่มยุวเกษตร ในโอกาสนี้ ทรงรับข้าวไรซ์เบอร์รี่ไปจำหน่ายที่ร้านภูฟ้า
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเขาจ้าว อำเภอปราณบุรี ปัจจุบันเปิดสอนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 74 คน พัฒนาการเรียนโดยสอนเสริมหลังเลิกเรียน ในการนี้ พระราชทานพระราชวโรกาสให้นักเรียนในพระราชานุเคราะห์ จำนวน 7 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษา และอุดมศึกษา เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลรายงานผลการศึกษา ซึ่งมีพระราชปฏิสันถารถึงผลการเรียน ปัญหาอุปสรรค และความสนใจศึกษาต่อ ต่อจากนั้น ทอดพระเนตรการเตรียมอาหารกลางวันจากผลผลิตในโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน เช่น ผัก เห็ดนางฟ้า ไก่ไข่ เป็ด และปลา เพื่อส่งเสริมภาวะโภชนาการ และฝึกทักษะการเกษตรแบบผสมผสานให้นักเรียน นำมาประกอบอาหารได้ตลอดปี มีเหลือจำหน่ายให้ชุมชน และนำไปแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า โดยมีกลุ่มยุวเกษตรกรหมุนเวียนไปปฏิบัติ จนมีผลงานได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดกลุ่มยุวเกษตรกรดีเด่น ประจำจังหวัด เมื่อปี 2557
นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มแม่บ้านไปฝึกทักษะอาชีพ เช่น สับปะรดกวน และน้ำสมุนไพร งานประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ และถักไหมพรม นำไปจำหน่ายผ่านกลุ่มแม่บ้าน ทั้งนี้ ทรงให้นำงานถักไหมพรมไปจำหน่ายที่ร้านภูฟ้า จากนั้น ทรงเยี่ยมศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเขาจ้าว พร้อมพระราชทานสิ่งของให้แก่ตัวแทนเด็ก ศูนย์ฯ แห่งนี้ รับเด็กอายุ 2 ถึง 5 ปี เพื่อให้มีพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญาอย่างเหมาะสมตามวัย พร้อมมีอาหารกลางวัน และอาหารเสริมให้ครบทุกวัน ตลอดจนมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้บริการส่งเสริมสุขภาพอนามัย ตรวจรักษาสุขภาพ และฉีดวัคซีนป้องกันโรค เมื่อเด็กมีอายุเกิน 5 ปี จะให้เข้าศึกษาในชั้นอนุบาลของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเขาจ้าว ในการนี้ ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ไปตรวจรักษาสุขภาพแก่ประชาชน พร้อมทรงเยี่ยมราษฎร ที่ไปเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ
ในตอนบ่าย สมเด็จเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่าวังหิน อำเภอปราณบุรี ปัจจุบันมีนักเรียน 103 คน ในการนี้ มีพระราชดำริให้กรมชลประทาน และสำนักงาน กปร. ร่วมพิจารณาจัดหาน้ำช่วยเหลือโรงเรียนด้วยการก่อสร้างสถานีสูบน้ำจากแม่น้ำปราณบุรี พร้อมระบบส่งน้ำ และถังเก็บน้ำ แล้วมีพระราชปฏิสันถารกับนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ ที่ปัจจุบันกำลังศึกษา 8 คน โรงเรียนฯ จัดสอนเสริมหลังเลิกเรียน และจัดเข้าค่ายวิชาการร่วมกับโรงเรียนอื่นในพื้นที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 การฝึกอาชีพ สอนการทำกระเป๋าสตางค์ และกล่องดินสอจากขวดน้ำพลาสติก โอกาสนี้ ทอดพระเนตรผลผลิตทางการเกษตร และผลิตภัณฑ์แปรรูปของผู้ปกครองที่แลกเปลี่ยนความรู้ในกลุ่ม และถ่ายทอดแก่นักเรียน เช่น ไข่เค็ม ปลาส้ม และสับปะรดกวน โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีผลผลิตเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้เพียงพอทำให้นักเรียนมีภาวะโภชนาการและสุขภาพที่ดี นอกจากนี้ ยังส่งเสริมสุขนิสัยให้มีความสะอาดในการรับประทานอาหารและดื่มน้ำสะอาด จนได้รับรางวัลโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับทอง จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในปีการศึกษา 2556
ต่อจากนั้น ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทานที่มาให้บริการรักษาโรค และทันตกรรม ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ และความดันโลหิตสูง รวมทั้งมีผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาต่อเนื่อง ซึ่งทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์ จำนวน 7 คน เป็นผู้ป่วยเด็กด้วยโรคต่าง ๆ อาทิ หัวใจพิการ และพัฒนาการช้า ทรงมีพระราชดำริให้ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันติดตาม และวางแผนแนะแนวการศึกษาอย่างต่อเนื่องให้แก่เด็ก ด้วยทรงห่วงใยในการศึกษาของเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะในถิ่นทุรกันดาร สมควรแก่เวลา จึงประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร
ในวันเดียวกันนั้น เวลา 22.48 น. สมเด็จเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากวังสระปทุม ไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อประทับเครื่องบินของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เที่ยวบินที่ ทีจี 920 เสด็จพระราชดำเนินเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 14 - 17 มกราคม 2558 และสาธารณรัฐสิงคโปร์ วันที่ 18 มกราคม 2558
ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สมเด็จเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงเป็นประธานเปิดคูหาประเทศไทย และทอดพระเนตรงานกรีนวีค ครั้งที่ 80 ณ ศูนย์การแสดงสินค้ากรุงเบอร์ลิน ซึ่งงานดังกล่าวเป็นงานแสดงสินค้าด้านการเกษตรและอาหารระดับนานาชาติที่สำคัญงานหนึ่ง ในการจัดงานครั้งนี้ มูลนิธิโครงการหลวง มูลนิธิชัยพัฒนา โครงการพัฒนาดอยตุง ร้านภูฟ้า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนผู้ประกอบการและร้านอาหารไทยเข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ จะทอดพระเนตรกิจการและการดำเนินงานของบริษัท บีเอ็มดับบลิว กรุงเบอร์ลิน รวมทั้งจะทรงเยี่ยมชมและทอดพระเนตรระบบการจัดเก็บเอกสารประวัติศาสตร์ของหอจดหมายเหตุของกระทรวงการต่างประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และสำนักงานคณะกรรมาธิการสหพันธ์ด้านบันทึกประวัติศาสตร์ของกระทรวงข่าวกรอง อดีตสาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนี
ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์ สมเด็จเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดนักวิทยาศาสตร์เยาวชนโลก 2015 ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง ทั้งจะพระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายเค ชานมูกาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกฎหมายสาธารณรัฐสิงคโปร์ เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทและถวายพระกระยาหารกลางวันด้วย
จากนั้น ทอดพระเนตรการบรรจุข้าวไรซ์เบอร์รี่ของกลุ่มเกษตรกร ส่วนปลายข้าวนำไปแปรรูปและถนอมอาหาร เช่น ขนมครก ขนมทองม้วน และน้ำข้าวไรซ์เบอร์รี่ ในโอกาสนี้ ได้พระราชทานอุปกรณ์การเรียน และอาหารเสริมแก่เด็กเล็ก ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านย่านซื่อ ปัจจุบันมีเด็กเล็กอยู่ในความดูแล จำนวน 31 คน เสร็จแล้ว ทอดพระเนตรข้อมูลการทำนาข้าวไรซ์เบอร์รี่ อุปกรณ์การทำนาพื้นบ้าน และเครื่องสีข้าวพระราชทาน คนในชุมชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน การทำนาข้าวไรซ์เบอร์รี่ ปัจจุบันสามารถขยายผลการปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่สู่ชุมชนนำไปเพาะปลูก และนำผลผลิตกลับมาจำหน่ายให้กับโรงเรียนไว้บริโภคได้ตลอดปี ที่เหลือส่งจำหน่ายสร้างรายได้เข้ากลุ่มยุวเกษตร ในโอกาสนี้ ทรงรับข้าวไรซ์เบอร์รี่ไปจำหน่ายที่ร้านภูฟ้า
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเขาจ้าว อำเภอปราณบุรี ปัจจุบันเปิดสอนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 74 คน พัฒนาการเรียนโดยสอนเสริมหลังเลิกเรียน ในการนี้ พระราชทานพระราชวโรกาสให้นักเรียนในพระราชานุเคราะห์ จำนวน 7 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษา และอุดมศึกษา เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบบังคมทูลรายงานผลการศึกษา ซึ่งมีพระราชปฏิสันถารถึงผลการเรียน ปัญหาอุปสรรค และความสนใจศึกษาต่อ ต่อจากนั้น ทอดพระเนตรการเตรียมอาหารกลางวันจากผลผลิตในโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน เช่น ผัก เห็ดนางฟ้า ไก่ไข่ เป็ด และปลา เพื่อส่งเสริมภาวะโภชนาการ และฝึกทักษะการเกษตรแบบผสมผสานให้นักเรียน นำมาประกอบอาหารได้ตลอดปี มีเหลือจำหน่ายให้ชุมชน และนำไปแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า โดยมีกลุ่มยุวเกษตรกรหมุนเวียนไปปฏิบัติ จนมีผลงานได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดกลุ่มยุวเกษตรกรดีเด่น ประจำจังหวัด เมื่อปี 2557
นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มแม่บ้านไปฝึกทักษะอาชีพ เช่น สับปะรดกวน และน้ำสมุนไพร งานประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ และถักไหมพรม นำไปจำหน่ายผ่านกลุ่มแม่บ้าน ทั้งนี้ ทรงให้นำงานถักไหมพรมไปจำหน่ายที่ร้านภูฟ้า จากนั้น ทรงเยี่ยมศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านเขาจ้าว พร้อมพระราชทานสิ่งของให้แก่ตัวแทนเด็ก ศูนย์ฯ แห่งนี้ รับเด็กอายุ 2 ถึง 5 ปี เพื่อให้มีพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญาอย่างเหมาะสมตามวัย พร้อมมีอาหารกลางวัน และอาหารเสริมให้ครบทุกวัน ตลอดจนมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้บริการส่งเสริมสุขภาพอนามัย ตรวจรักษาสุขภาพ และฉีดวัคซีนป้องกันโรค เมื่อเด็กมีอายุเกิน 5 ปี จะให้เข้าศึกษาในชั้นอนุบาลของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านเขาจ้าว ในการนี้ ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ไปตรวจรักษาสุขภาพแก่ประชาชน พร้อมทรงเยี่ยมราษฎร ที่ไปเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ
ในตอนบ่าย สมเด็จเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่าวังหิน อำเภอปราณบุรี ปัจจุบันมีนักเรียน 103 คน ในการนี้ มีพระราชดำริให้กรมชลประทาน และสำนักงาน กปร. ร่วมพิจารณาจัดหาน้ำช่วยเหลือโรงเรียนด้วยการก่อสร้างสถานีสูบน้ำจากแม่น้ำปราณบุรี พร้อมระบบส่งน้ำ และถังเก็บน้ำ แล้วมีพระราชปฏิสันถารกับนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ ที่ปัจจุบันกำลังศึกษา 8 คน โรงเรียนฯ จัดสอนเสริมหลังเลิกเรียน และจัดเข้าค่ายวิชาการร่วมกับโรงเรียนอื่นในพื้นที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 การฝึกอาชีพ สอนการทำกระเป๋าสตางค์ และกล่องดินสอจากขวดน้ำพลาสติก โอกาสนี้ ทอดพระเนตรผลผลิตทางการเกษตร และผลิตภัณฑ์แปรรูปของผู้ปกครองที่แลกเปลี่ยนความรู้ในกลุ่ม และถ่ายทอดแก่นักเรียน เช่น ไข่เค็ม ปลาส้ม และสับปะรดกวน โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีผลผลิตเนื้อสัตว์ ผักและผลไม้เพียงพอทำให้นักเรียนมีภาวะโภชนาการและสุขภาพที่ดี นอกจากนี้ ยังส่งเสริมสุขนิสัยให้มีความสะอาดในการรับประทานอาหารและดื่มน้ำสะอาด จนได้รับรางวัลโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพระดับทอง จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในปีการศึกษา 2556
ต่อจากนั้น ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทานที่มาให้บริการรักษาโรค และทันตกรรม ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ และความดันโลหิตสูง รวมทั้งมีผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาต่อเนื่อง ซึ่งทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์ จำนวน 7 คน เป็นผู้ป่วยเด็กด้วยโรคต่าง ๆ อาทิ หัวใจพิการ และพัฒนาการช้า ทรงมีพระราชดำริให้ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันติดตาม และวางแผนแนะแนวการศึกษาอย่างต่อเนื่องให้แก่เด็ก ด้วยทรงห่วงใยในการศึกษาของเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะในถิ่นทุรกันดาร สมควรแก่เวลา จึงประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร
ในวันเดียวกันนั้น เวลา 22.48 น. สมเด็จเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากวังสระปทุม ไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อประทับเครื่องบินของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เที่ยวบินที่ ทีจี 920 เสด็จพระราชดำเนินเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 14 - 17 มกราคม 2558 และสาธารณรัฐสิงคโปร์ วันที่ 18 มกราคม 2558
ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สมเด็จเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงเป็นประธานเปิดคูหาประเทศไทย และทอดพระเนตรงานกรีนวีค ครั้งที่ 80 ณ ศูนย์การแสดงสินค้ากรุงเบอร์ลิน ซึ่งงานดังกล่าวเป็นงานแสดงสินค้าด้านการเกษตรและอาหารระดับนานาชาติที่สำคัญงานหนึ่ง ในการจัดงานครั้งนี้ มูลนิธิโครงการหลวง มูลนิธิชัยพัฒนา โครงการพัฒนาดอยตุง ร้านภูฟ้า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนผู้ประกอบการและร้านอาหารไทยเข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ จะทอดพระเนตรกิจการและการดำเนินงานของบริษัท บีเอ็มดับบลิว กรุงเบอร์ลิน รวมทั้งจะทรงเยี่ยมชมและทอดพระเนตรระบบการจัดเก็บเอกสารประวัติศาสตร์ของหอจดหมายเหตุของกระทรวงการต่างประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และสำนักงานคณะกรรมาธิการสหพันธ์ด้านบันทึกประวัติศาสตร์ของกระทรวงข่าวกรอง อดีตสาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนี
ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์ สมเด็จเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดนักวิทยาศาสตร์เยาวชนโลก 2015 ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง ทั้งจะพระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายเค ชานมูกาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกฎหมายสาธารณรัฐสิงคโปร์ เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทและถวายพระกระยาหารกลางวันด้วย