จากกรณีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ได้ตรวจสอบข้อมูลงบประมาณงานพระราชทานเพลิงศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช จำนวน 67 ล้านบาท ต่อพระพรหมสุธี (เสนาะ ปญฺญาวชิโร) หรือเจ้าคุณเสนาะ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เจ้าคณะภาค 12 กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) และผู้ที่เกี่ยวข้องนั้น ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 9 ม.ค. นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า ตามที่สตง.ได้มอบหมายให้นายชัยวัฒน์ อนันตศาสต์ ผอ.สำนักตรวจสอบการบริหารพัสดุและสืบสวนที่3 ไปติดตามการรายงานผลความผิดปกติการใช้เงินงบประมาณงานพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จเกี่ยว ต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคม(มส.)นั้น ตนได้รับรายงานเบื้องต้นว่า สตง.ไม่ได้เข้ารายงาน เนื่องจากทางมส.เห็นว่า เป็นเรื่องของวัดสระเกศ จึงให้เจ้าคณะปกครองไปดำเนินการ ดังนั้นในส่วนของสตง.คงต้องขอให้ทางเจ้าอาวาสวัดสระเกศคืนงบประมาณ โดยเฉพาะในส่วนค่าจัดทำโต๊ะหมู่บูชาจำนวน 11 ล้านบาท ที่สตง.ตรวจพบว่า มีเจ้าภาพทั้งหมด เนื่องจากไม่ตรงวัตถุประสงค์ของการใช้เงิน และอีกหลายส่วนที่ยังไม่ได้เบิกจ่าย
นายพิศิษฐ์ กล่าวต่อไปว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการคืนเงินงบประมาณแผ่นดินและยังอยู่ในความรับผิดชอบของสตง.ก็ยังคงต้องดำเนินการตรวจสอบเงินจำนวนดังกล่าวต่อ เพื่อให้ได้ความกระจ่างว่าใช้จ่ายอย่างไร เนื่องจากสตง.ได้พบความผิดปกติของการใช้เงินจำนวนดังกล่าว นอกจากนี้ยังคงต้องตรวจสอบในรายละเอียดอื่นๆ ที่อ้างว่ามีการใช้จ่ายด้วย โดยจำเป็นต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง หากมีการคืนเงินก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีการตรวจสอบอะไรเพิ่มเติมอีก อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความผิดวินัยทางการเงินของพระนั้นก็ต้องว่าไปตามวินัยของสงฆ์ที่จะต้องดำเนินการ แต่หากเป็นความผิดอาญาผิดกฏหมายบ้านเมืองก็ไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆราวาส เพราะใครก็ตามที่ทำผิดกฎหมายก็ต้องรับผิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า อำนาจของสตง.สามารถเข้าไปดำเนินการตรวจบัญชีของวัดได้หรือไม่ นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า การจะเข้าไปตรวจสอบบัญชีของวัดและบัญชีเงินบริจาคงานศพสมเด็จเกี่ยวหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความเกี่ยวพันของข้อมูลที่ตรวจสอบ ซึ่งกรณีของวัดสระเกศ หากจะให้ตรวจโดยปราศจากความสงสัยว่า ใบสำคัญที่นำมาเบิกไม่ได้นำมาจากงบอื่นๆ ก็ต้องดำเนินการตรวจสอบทุกบัญชีของวัด ซึ่งจะทำให้ผลสอบเกิดความกระจ่าง แต่หากไม่ได้รับความร่วมมือ สตง.ก็จะสร้างความกระจ่างให้สังคมไม่ได้
แหล่งข่าวผู้หนึ่งในวัดสระเกศ เปิดเผยว่า บัญชีการรับบริจาคงานบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายสมเด็จเกี่ยวตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2556 ถึงเดือนมีนาคม2557 รวม 8 เดือน มียอดบริจาคจำนวน 96,655,742 บาท ซึ่งเมื่อแบ่งเป็นรายเดือนจะมีเงินบริจาค ดังนี้ สิงหาคม 56 มียอดบริจาค 11,606,809 บาท , กันยายน 56 มียอดบริจาค 41,076,326 บาท , ตุลาคม 56 มียอดบริจาค 20,755,542บาท , พฤศจิกายน 56 มียอดบริจาค 9,235,300บาท ,ธ้นวาคม56 มียอดบริจาค 5,594,470บาท , มกราคม 57 มียอดบริจาค 2,731,898บาท ,กุมภาพันธ์ 57 มียอดบริจาค 2,773,565 บาทและวันที่ 1-6มี.ค.57 มียอดบริจาค 2,881,900บาท นอกจากนี้ ยังมียอดบริจาคที่พุทธศาสนิกชนได้ถวายกับเจ้าอาวาสอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งยังไม่ได้รับการเปิดเผย เมื่อรวมๆทั้งหมดแล้วไม่น่าต่ำกว่า 100 ล้านบาท
นายพิศิษฐ์ กล่าวต่อไปว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการคืนเงินงบประมาณแผ่นดินและยังอยู่ในความรับผิดชอบของสตง.ก็ยังคงต้องดำเนินการตรวจสอบเงินจำนวนดังกล่าวต่อ เพื่อให้ได้ความกระจ่างว่าใช้จ่ายอย่างไร เนื่องจากสตง.ได้พบความผิดปกติของการใช้เงินจำนวนดังกล่าว นอกจากนี้ยังคงต้องตรวจสอบในรายละเอียดอื่นๆ ที่อ้างว่ามีการใช้จ่ายด้วย โดยจำเป็นต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง หากมีการคืนเงินก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีการตรวจสอบอะไรเพิ่มเติมอีก อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความผิดวินัยทางการเงินของพระนั้นก็ต้องว่าไปตามวินัยของสงฆ์ที่จะต้องดำเนินการ แต่หากเป็นความผิดอาญาผิดกฏหมายบ้านเมืองก็ไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆราวาส เพราะใครก็ตามที่ทำผิดกฎหมายก็ต้องรับผิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า อำนาจของสตง.สามารถเข้าไปดำเนินการตรวจบัญชีของวัดได้หรือไม่ นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า การจะเข้าไปตรวจสอบบัญชีของวัดและบัญชีเงินบริจาคงานศพสมเด็จเกี่ยวหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความเกี่ยวพันของข้อมูลที่ตรวจสอบ ซึ่งกรณีของวัดสระเกศ หากจะให้ตรวจโดยปราศจากความสงสัยว่า ใบสำคัญที่นำมาเบิกไม่ได้นำมาจากงบอื่นๆ ก็ต้องดำเนินการตรวจสอบทุกบัญชีของวัด ซึ่งจะทำให้ผลสอบเกิดความกระจ่าง แต่หากไม่ได้รับความร่วมมือ สตง.ก็จะสร้างความกระจ่างให้สังคมไม่ได้
แหล่งข่าวผู้หนึ่งในวัดสระเกศ เปิดเผยว่า บัญชีการรับบริจาคงานบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายสมเด็จเกี่ยวตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2556 ถึงเดือนมีนาคม2557 รวม 8 เดือน มียอดบริจาคจำนวน 96,655,742 บาท ซึ่งเมื่อแบ่งเป็นรายเดือนจะมีเงินบริจาค ดังนี้ สิงหาคม 56 มียอดบริจาค 11,606,809 บาท , กันยายน 56 มียอดบริจาค 41,076,326 บาท , ตุลาคม 56 มียอดบริจาค 20,755,542บาท , พฤศจิกายน 56 มียอดบริจาค 9,235,300บาท ,ธ้นวาคม56 มียอดบริจาค 5,594,470บาท , มกราคม 57 มียอดบริจาค 2,731,898บาท ,กุมภาพันธ์ 57 มียอดบริจาค 2,773,565 บาทและวันที่ 1-6มี.ค.57 มียอดบริจาค 2,881,900บาท นอกจากนี้ ยังมียอดบริจาคที่พุทธศาสนิกชนได้ถวายกับเจ้าอาวาสอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งยังไม่ได้รับการเปิดเผย เมื่อรวมๆทั้งหมดแล้วไม่น่าต่ำกว่า 100 ล้านบาท