xs
xsm
sm
md
lg

คืนความสุขให้คนในชาติ 9 ม.ค. 2557

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สวัสดีครับพี่น้องประชาชนที่รักทุกคน สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์แรกของการเริ่มต้นทำงานในปี 2558 ผมขอให้ทุกท่านได้ทำงานและเรียนหนังสือกันอย่างมีความสุข และร่วมกันทำสิ่งดีๆ ในปีนี้ เพื่อประเทศชาติของเรา

สำหรับช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมานั้น ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ หน่วยงาน ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร ที่ได้ช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชนในการเดินทางสัญจรไปมา ทำให้สถิติอุบัติเหตุลดลงได้จำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ขอให้หน่วยงานได้นำไปวิเคราะห์ถึงสาเหตุ หรือข้อบกพร่องต่างๆ เพื่อจะได้แก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นสำหรับวันหยุดเทศกาลในห้วงต่อไป

ในวันนี้ผมอยากจะเรียนว่า สิ่งที่ คสช.และรัฐบาลทำอยู่ในขณะนี้ ไม่ต้องการสร้างความขัดแย้ง หรือสร้างปัญหาใหม่ให้เกิดขึ้นมาอีก เราพยายามที่จะให้หน่วยงานปกติ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส เพื่อพลิกฟื้นความเชื่อมั่นต่อสาธารณชนกลับมา วันนี้ประเทศไทยไม่ได้มีเฉพาะคู่ขัดแย้ง ผู้เห็นต่าง แต่ยังมีคนไทยอีกหลายล้านคนที่ต้องการความสงบสุข ต้องการให้มีการพัฒนาประเทศไปในทิศทางที่ควรจะเป็น ดังนั้นการทำงานของรัฐบาล และ คสช. จึงมุ่งเน้นที่จะลดความขัดแย้ง และเดินหน้าประเทศไทยไปพร้อมๆ กันด้วย กฎหมายไม่ใช่ความยุติธรรม แต่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการอำนวยความยุติธรรม ให้ความเป็นธรรมกับทุกพวกทุกฝ่าย ซึ่งคงต้องเริ่มจากการนำตนเอง จากการที่ถูกกล่าวหาไม่ว่าจะเป็นผิด หรือถูก เข้ามาต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมด้วยหลักฐาน ข้อเท็จจริง ไม่ใช่ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการ และทำลายความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม และกฎหมายที่มีอยู่ ใครที่เข้ามาย่อมได้รับความเป็นธรรมอย่างชัดเจน ถูกผิดว่าไปตามหลักสากลตามข้อกฎหมาย อยากให้ทุกคนเข้าใจตรงนี้ก่อน ส่วนผลจะออกมาอย่างไรนั้น ยังสามารถต่อสู้ในวิถีทางตามปกติได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องปลุกระดมมวลชน ซึ่งไม่รู้ข้อเท็จจริงมากนัก เพราะไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดร่วมด้วย ต้องมาเสียเวลา เสียเลือดเนื้อ ต้องกระทำผิดกฎหมายไปด้วย ด้วยการอาศัยความเชื่อมั่นและศรัทธาแต่เพียงอย่างเดียว การชี้ผิดชี้ถูกใน คสช. หรือใช้อำนาจพิเศษนั้นอาจจะดูง่าย หรือเร็วทันใจ แต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบในภายภาคหน้าด้วย ว่าเราจะอยู่กันอย่างไร หากไม่มีเครื่องมือพิเศษ ไม่มี คสช.แล้วจะทำให้เราอยู่ร่วมกันยากในอนาคตนะครับ
สำหรับการทำงานของรัฐบาลในปัจจุบัน ได้เปิดโอกาสให้มีทั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) มาร่วมในการปฏิบัติงานด้วย ถึงแม้ว่าจะมองว่าอาจจะไม่ทั่วถึงทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายมากนัก หรือไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง หรือมาจากโดยวิธีการปกติ แต่ก็คล้ายกับการมีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หรือสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อยู่แล้ว เพียงแต่มีงานปฏิรูปเพิ่มเข้ามาด้วย ซึ่งคงต้องรอฟังมติสุดท้ายก่อน ในปัจจุบันยังไม่ใช่ข้อสรุป เป็นการเสนอข้อหารือแนวทางเท่านั้น ขณะนี้เรามีการโต้แย้งกันมากมาย เพราะฉะนั้นต้องรอผลข้อสรุปมาก่อน อาจจะไม่เป็นไปตามนั้นทั้งหมดก็ได้ เพราะว่า คสช. และ คณะรัฐมนตรี ยังไม่ได้พิจารณาเลยนะครับ ต้องนำมาพิจารณาและสรุปอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร อะไรที่จะเป็นผลดี-ผลเสียต่อประเทศชาติ ได้รับความยอมรับจากสากลหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่จะได้รัฐบาลที่มีประสิทธิภาพมาจากการเลือกตั้งที่โปร่งใส การบริหารราชการแผ่นดินที่มีผลสัมฤทธิ์ ขับเคลื่อนประเทศ แก้ปัญหาระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว และทำให้เกิดผลการปฏิรูปต่อไปในอนาคตอย่างเป็นรูปธรรม ผมไม่อยากให้มองเรื่องความขัดแย้ง หรือเรื่องผิด-ถูก แต่เพียงอย่างเดียว ให้มองไกลๆ มองยาวๆ เราจะต้องก้าวให้พ้นจาก กับดักต่างๆ ซึ่งมีอยู่มากมายในระบอบประชาธิปไตยด้วย และในส่วนของความขัดแย้งข้อกฎหมายต่างๆ มีมากมายนะครับ

เพราะฉะนั้น ในเรื่องของการทำงานของ คสช. และรัฐบาลในห้วงเวลานี้ อยากจะเรียนว่า เราทำทุกปัญหา ปัญหาเล็กๆ ก็ทำ ปัญหาใหญ่ๆ ก็ทำ เพราะปัญหาเล็กนั้นเป็นบ่อเกิดของความขัดแย้ง และลุกลามไปสู่ปัญหาใหญ่ๆ ที่มีความทับซ้อนนะครับอยู่หลายปัญหาด้วยกัน
ที่ผ่านมานั้นอาจจะไม่ได้รับการแก้ไข หรือเตรียมการล่วงหน้าในรัฐบาลที่ผ่านมา โดยอาจจะมีการประกันความเสี่ยงน้อยไป หรือขาดการมีภูมิคุ้มกันที่ดี มีมาตรการที่รองรับเหมาะสม อย่างเช่น ราคาพืชผลทางการเกษตรอย่างยั่งยืน เราจะทำได้อย่างไร ระบบจะแก้ไขได้อย่างไร เราจะต้องสร้างความเข้มแข็งของเกษตรกรเองในด้านเทคโนโลยี การรวมกลุ่ม การรวมกลุ่มสหกรณ์ขนาดเล็ก รวมกลุ่มนาขนาดเล็ก หรือพืชอื่นๆให้สามารถสร้างความเข้มเเข็งของตัวเองได้ด้วยตัวเกษตรกรเอง และรัฐเข้าไปดูแลช่วยเหลือ
การมีตลาดกลางของเกษตรกรโดยตรงนั้นจำเป็นในขณะนี้ จะได้ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางทุกเรื่องทุกผลิตผล เกษตรกรจะต้องมีความรู้เรื่องการตลาดด้วยตัวเองด้วย จะได้รู้ราคา รู้ความต้องการของตลาดในปัจจุบันว่าต้องการประเภทไหน ชนิดไหน จะได้ผลิตมาให้ตรงความต้องการ ในการปรับใช้เทคโนโลยี ให้เป็นการใช้การเกษตรสมัยใหม่ มีด้านวิชาการเข้าไปด้วย ไม่ใช่จะอาศัยธรรมชาติเพียงอย่างเดียว การใช้ปุ๋ยธรรมชาติที่ไร้สารเคมี ผลิตปุ๋ยเองด้วยนะครับ ปลูกพืชที่มีความต้องการของสังคม ของประชาชนในปัจจุบันก็คือการปลูกพืชที่ไร้สารเคมี วันนี้รัฐบาลก็ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนของทุกกลุ่มทุกอาชีพ ไม่ว่าจะอาชีพใดที่มีรายได้น้อย เราก็ส่งเสริมทุกอัน แต่ก็เป็นการยากที่เราจะใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านั้น เราก็ทำอย่างต่อเนื่อง ร่วมมือกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และตัวเกษตรกรเอง หรือผู้ประกอบการเอง ก็ต้องเข้าใจนโยบายและร่วมมือกัน ไม่ใช่แก้ไขอะไร ปรับเปลี่ยนอะไรไปก็ต่อต้าน โต้แย้ง มีปัญหาไปเสียทุกเรื่อง และต้องการเพียงอย่างเดียว คือต้องการเงินสนับสนุน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลจะหาเงินจำนวนมากเหล่านั้นมาจากไหน ทั้งในเรื่องของผลิตผลทางการเกษตร ทั้งการสาธารณสุข ทั้งการศึกษา ทั้งอะไรอีกเยอะแยะไปหมด เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจชุมชนให้ได้ ให้มีความต่อเนื่อง เชื่อมโยง จัดทำแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดให้เป็นรูปธรรม การกำหนดเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนไปเชื่อมโยงสู่ประชาคมโลกจะเห็นได้ว่าวันนี้สถานการณ์โลกนั้นเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กัน การขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆ ในอดีตที่ผ่านมานั้น เราอาจจะเตรียมการเหล่านี้ไว้ไม่เพียงพอ เราต้องเสริมสร้างความเข้มแข็งตรงนี้ให้รวดเร็วขึ้น จะได้ทำให้เราไม่อ่อนแอ และไม่ต้องพึ่งรัฐแต่เพียงอย่างเดียว รัฐก็หาเงินไม่ได้ เพราะว่ารายได้การส่งออกสินค้าต่างๆ มันก็น้อยลง ได้ราคาต่ำลง เพราะฉะนั้นเราต้องสร้างความเข้มแข็งให้ได้ ต้องร่วมมือกัน ขอย้ำอีกครั้งหนึ่งนะครับ ต้องร่วมมือกัน เข้าใจนโยบาย เข้าใจวิธีการทำงานที่มันเป็นระบบ
สำหรับในเรื่องของตลาดทั้งในเรื่องของอาหาร พืชผัก ปลา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่จำเป็น เราจำเป็นต้องเร่งสร้างตลาดเกษตรกรให้สามารถพบกับผู้บริโภคได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ในทุกพื้นที่ ในทุกจังหวัด
สำหรับราคาพลังงานนั้น คงต้องใช้เวลาในการปรับแก้ไปสักระยะหนึ่งก่อน ให้เป็นไปตามกลไกของตลาด เพราะหากผลีผลามแก้ไข เพิ่มลดรวดเร็วเกินไป หากสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงไปอีก แล้วจะทำอย่างไร จะทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงกว่าเดิม หากเราไม่มีกองทุนเตรียมสำรองไว้ การลดลงง่าย แต่ถ้าต้องขึ้นราคาขึ้นมาอีก จะเป็นสิ่งยาก เพราะฉะนั้นทุกคนคงทราบดีว่า เงินเหล่านี้ก็ไม่ได้ไปไหน ยังใช้ในภารกิจด้านพลังงาน และในการเตรียมการอีกหลายอย่าง เมื่อจำเป็น
สำหรับเรื่องการจัดสรรที่ดินทำกินนั้น เราจำเป็นต้องใช้ทั้งรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์เข้ามาจับต้อง สงสารคนจน ถ้าเขาไม่ลำบากเขาคงไม่บุกรุกหรอก เขาคงไม่มีที่ทำกิน ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ ทำอย่างไร ปัญหาอยู่ที่ว่าเมื่อบุกรุกไปแล้ว และคนรวย หรือเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตมักจะเอาเปรียบ ไปซื้อขายกันมาทำให้มันถูกต้อง ไปซื้อขายกันมา แล้วบอกให้คนเหล่านั้นไปทำการบุกรุกต่อไปอีก ทำให้เราเสียพื้นป่าเป็นจำนวนมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไร ต้องหันหน้าเข้าหากัน แล้วหาวิธีการที่เหมาะสม ในช่วงระยะเวลาที่มันเป็นปัญหามากๆ ในขณะนี้ ใครที่มีที่ดินมากๆ วันนี้มีข่าวว่ากลัวภาษีมรดก มีการโอน เปลี่ยนมือให้ลูกหลาน ทุกวันนี้มีเป็นจำนวนมากพอสมควร ไม่ต้องกลัวหรอก รัฐบาลดูทุกอย่างอยู่แล้ว ขั้นต่อไปภาษีที่ดินต้องปรับขึ้นอยู่แล้วในอนาคต ให้ทันกับสถานการณ์ในปัจจุบัน กับราคาขายในปัจจุบัน
สำหรับผู้ที่มีที่ดินเยอะ และไม่ได้ทำประโยชน์ อยากจะมองให้ไปกว้างๆ ยาวๆ ว่า รัฐมีวัตถุประสงค์อะไร คือรัฐต้องการให้มีการกระจาย การถือครองที่ดินออกไปอีก หรือไม่ก็ต้องให้เช่าทำประโยชน์มากกว่าไปเก็บไว้เฉยๆ ภาษีที่ดินต้องสูงขึ้นเป็นทวีคูณในระยะต่อไป ภาษีมรดก กำลังให้ดูว่าถ้าโอนไปแล้ว แล้วยังไม่ได้ขายต่อ ไม่มีเงินสดจะทำอย่างไร จะเสียภาษีได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าเราต้องการให้ชาวไร่ชาวนาที่ได้รับมรดกแล้วต้องขาย นำเงินมาเสียภาษี ถ้าคิดแบบนี้ ผมว่าเราคงเป็นรัฐบาลไม่ได้ เราต้องดูในทุกมิติ รัฐบาลนี้ก็มองให้ทะลุทุกปัญหา ไม่สร้างภาระนะครับ แต่ทำอย่างไรจะลดความเลื่อมล้ำให้ได้ ทำอย่างไรจะเป็นสัญลักษณ์ให้ได้ว่าเราก็มีการดูแลซึ่งกันและกันนะ รายได้ที่ได้กลับมาเป็นรายได้ของรัฐอยู่แล้วนะครับ แล้ววันนี้รัฐก็ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ในการแก้ปัญหาของเดิม ในการจะดำเนินการในเรื่องใหม่ๆ เรื่องที่เป็นความต้องการ เรื่องที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนต้องใช้เงินอีกมากมาย และเราจำเป็นที่จะต้องมีรายได้เพิ่มบ้าง มากน้อยก็แล้วแต่ ไม่อยากให้หวังแต่จะกู้เงินแต่เพียงอย่างเดียวนะครับ

ส่วนเรื่องของการกำหนดพื้นที่ หรือการทำโซนนิ่งนั้น ต้องสอดคล้องกับการบริหารจัดที่ดิน การจัดหาแหล่งน้ำ การหาพันธุ์พืชที่เหมาะสมกับพื้นที่ กับอากาศ อาจจะปลูกได้ไม่เหมือนกัน อันนี้ก็ต้องขอความร่วมมือเช่นกัน ต้องมีการนำร่องจากประชาชนที่มีส่วนร่วม เข้าใจ และส่วนราชการที่มีความพร้อม รัฐต้องดำเนินการในเชิงรุก ถ้าเราเร่งประกาศไปแล้วก็บังคับกัน คงเป็นปัญหาอีกต่อไป คงใช้ตามความสมัครใจ คือมีน้ำก็ปลูกพื้นใช้น้ำได้มาก มีน้ำน้อยก็ปลูกพื้นใช้น้ำน้อย หรือเปลี่ยนพฤติกรรมไปเป็นอย่างอื่น อันนี้ผมคิดว่าคงต้องใช้เวลาในการแก้ไขอีกนานพอสมควร เรามีความละเอียดอ่อนในการคิด ในการที่จะทำแผนงานโครงการให้มีความต่อเนื่องสอดคล้องกัน

ส่วนการบริหารราชการของรัฐบาลและข้าราชการ วันนี้กำลังเป็นไปได้ด้วยดี มีการบูรณาการทั้งแผนงาน โครงการ งบประมาณ มีนโยบายในการขับเคลื่อน มีการปฏิบัติทั้งในระดับบนและระดับพื้นที่ มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความโปร่งใส โดยรัฐบาล และ คสช.อีกทางหนึ่งด้วย รวมทั้งจะมีการจัดชุดลงไปตรวจสอบโครงการในทุกพื้นที่ในระยะต่อไป เมื่อมีการก่อสร้าง มีการประมูลไปแล้ว ให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง รวมทั้งขณะนี้รัฐบาลกำลังตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วน เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทางรถไฟ การโซนนิ่งพื้นที่เกษตร การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดผลงานที่เป็นรูปธรรมโดยเร็ว

สำหรับปัญหาเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐนั้น ต้องเข้าใจว่า งบประมาณรัฐนั้น ไม่ได้ใช้ง่ายนัก ขณะมีระเบียบ มีข้อบังคับมากมายก็ยังมีการทุจริต มีความไม่โปร่งใสเป็นที่สงสัยต้องมีการตรวจสอบต่อไป เพราะฉะนั้น วันนี้เมื่อรัฐอนุมัติไปแล้วในนโยบายหลายๆ เรื่อง การเบิกจ่ายนั้น จำเป็นต้องมีการตรวจสอบแผนงานโครงการก่อนว่ามีความพร้อมหรือไม่อย่างไร การเบิกจ่ายก็มีขั้นตอนอีกหลายขั้นตอนมากมาย ก็ยังมีการทุจริต มีความไม่โปร่งใส เป็นที่สงสัย ต้องมีการตรวจสอบต่อไป เพราะฉะนั้นวันนี้เมื่อรัฐอนุมัติไปแล้วในนโยบายหลายๆ เรื่อง การเบิกจ่ายนั้นมันจำเป็นต้องมีการตรวจสอบแผนงานโครงการก่อน ว่ามีความพร้อมหรือไม่อย่างไร การเบิกจ่ายก็มีขั้นตอนอีกหลายขั้นตอนมากมาย อันนี้เป็นระเบียบเดิมที่มีอยู่แล้ว ตอนนี้กำลังปรับแก้ว่าจะทำอย่างไร จะเกิดความสะดวกรวดเร็วขึ้น ทำให้เสร็จในพื้นที่ได้มั้ย ส่วนกลางอาจจะต้องลงมาทำงบประมาณในพื้นที่เองด้วย กับหน่วยงานท้องถิ่น และเสนอขึ้นมาเพื่อเข้า ครม.ขออนุมัติได้หรือไม่ คราวนี้กำลังเร่งรัดในเรื่องนี้อยู่ เรื่องข้อมูลพื้นฐาน มันก็ต้องแก้ไข ข้อมูลเกี่ยวกับประชาชน เกี่ยวกับความยากจน เกี่ยวกับความจำเป็นขั้นพื้นฐานเหล่านี้ มันไม่ทันสมัยทั้งสิ้น เราต้องลงไปแก้ไขทุกเรื่องไปในขณะนี้ เราต้องแก้ทั้งกฎหมาย แก้ระเบียบ บางอย่างนั้นหลายคนอาจจะมองว่าจ่ายเงินทำไมมันช้านัก ก็มันมีข้อมูลไม่สมบูรณ์ไงล่ะครับ ที่ผ่านมามันไม่สมบูรณ์ พอจะใช้วันนี้มันใช้ไม่ได้ ก็ต้องไปตรวจสอบ ก็ทำให้เกิดความล่าช้า ประชาชนก็เดือดร้อน ผมคิดว่าวันหน้าจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ต้องแก้ไขในเรื่องของศูนย์ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ให้เรียบร้อย ทันสมัย แล้วก็ถูกต้อง ประชาชนก็ต้องให้ความร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของที่ เจ้าของนา เจ้าของสวน ก็ต้องยอมรับในการปฏิบัติตามกฎหมาย ตามกฎระเบียบ ว่าใครให้เขาเช่า หรือเป็นเจ้าของเอง อะไรต่างๆ เหล่านี้ มันเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดการทุจริตได้ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นก็ขอความร่วมมือ เพราะฉะนั้นในส่วนของท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เหล่านี้ จะต้องเป็นผู้ที่สามารถรับรองได้ ความถูกต้อง ถ้าหากว่ามีการตรวจสอบแล้วมันไม่ชัดเจน มันก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ก็ไม่อยากให้เดือดร้อน ก็เตือนกันไว้ก่อนแล้วกัน ไม่อยากให้เป็นปัญหาทางกฎหมายระยะต่อไป ต้องแก้ไขหลายๆ เรื่อง

เรื่องเหล่านี้ วันหน้าผมก็จะมีโอกาสมาเล่าให้ฟังอีก แต่เรื่องที่ทำไปแล้วถ้าดูจากสรุปการทำงานในห้วง 3 เดือนที่ผ่านมาของรัฐบาล หรือ 4 เดือนของ คสช. ก็จะเห็นว่ามีการสรุปมาเป็นเล่มๆ หนาเป็นปึกหลายหน้า และทุกวันทำด้วยลักษณะการบูรณาการทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่ามันมีทั้งกฎหมาย มีทั้งระเบียบ มีทั้งวิธีการบริหารจัดการ มีทั้งการตรวจสอบอะไรต่างๆ ซึ่งบางอย่างนั้นผลมันออกมายังไม่เป็นรูปธรรม แต่วันหน้ามันน่าจะดีขึ้นกว่าเดิม เพราะที่ทำคือวิธีการใหม่ทั้งหมด ไม่ได้ทำในแนวทางอันเดิม ทุกอย่างทำให้เพื่อจะระมัดระวังการรั่วไหล และทำให้เกิดภาพในผลผลิตให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม และเป็นที่พึงพอใจของประชาชนโดยในภาพรวมนะครับ
ขณะนี้ผมและรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วยฯ ตลอดจนข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็พยายามอยู่เพื่อจะทำเพื่อพ่อแม่พี่น้อง ผมบอกแล้วว่า เราต้องมาช่วยกันสร้างประวัติศาสตร์ ฉะนั้นนอกจากพวกเราแล้ว ต้องเป็นพวกท่านด้วย ทั้งพ่อแม่พี่น้อง เกษตรกร ทุกอาชีพ ก็ต้องรู้ว่าเรากำลังร่วมมือทำอะไรกันอยู่ ก็คือการปฏิรูปประเทศ ฉะนั้นการปฏิรูปทุกอย่างเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพ รายได้ กฎหมาย หรือวิธีการปฏิบัติงานทั้งหมด เราต้องร่วมมือกัน ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำข้างเดียวมันเป็นไปไม่ได้ ที่เราจะแก้ไขได้ให้เข้มแข็งในระยะยาว เราควรจะต้องพิจารณาแล้ว ว่าเราควรจะทำตัวกันอย่างไร จะเชื่อฟังกันอย่างไร สื่อก็ต้องช่วยกัน อะไรที่เป็นสิ่งที่ดีๆ ที่เราพยายามทำอยู่ ก็กรุณาทำความเข้าใจด้วย สร้างความเข้าใจ ถ้าหากว่า เรื่องที่เราคิดทำใหม่ออกมาแล้วก็มาจับผิดทั้งหมด มันก็จะทำให้เกิดความขัดแย้ง มันก็ไม่เกิดความร่วมมือ เพราะฉะนั้นอะไรที่มันดูแล้วมันน่าจะต้องดีกว่าเดิมนะ ก็ขอความร่วมมือหน่อยแล้วกัน สื่อช่วยทำความเข้าใจด้วยนะ อย่าคิดแต่เพียงว่า อันนี้ไม่ดี ถ้าดีก็ไม่พูดถึงกัน และจะแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยความรวดเร็วมันก็จะกลับไปที่เก่าเหมือนเดิมนะครับ เสียเวลาเปล่า อยากให้ทุกคนมาช่วยกันนะครับ ทั้งรัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม และในส่วนของสิทธิมนุษยชน ในส่วนของสื่ออะไรต่างๆ ช่วยกันสร้างบรรยากาศให้คนไทยมีความสุขบ้างเถอะครับ วันนี้เรามีความขัดแย้งมานานพอสมควรแล้ว วันนี้เราก็กำลังเร่งแก้ปัญหาทุกมิติอยู่ให้ทันกับเวลาที่เรากำหนดไว้
ในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ เรื่องรถไฟ เรื่องรถไฟฟ้า เรื่องพลังงาน เรื่องการลงทุนจากต่างประเทศ บีโอไอ เรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ เรื่องการหาตลาดเพิ่มจากต่างประเทศ เรื่องเศรษฐกิจในภาพรวม เรื่องการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ประมง แรงงาน การศึกษา เศรษฐกิจชุมชน ทุกอย่างมันมีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกันไปหมด เราต้องมองภาพใหญ่ด้วย แล้วก็ถอยหลังมาว่า ภาพเล็กเป็นอย่างไร ชุมชนเป็นอย่างไร ประชาชนประกอบการเป็นอย่างไร แต่ถ้าเรามองย้อน 2 ทางกลับไปมา มันจะเห็นวิธีการว่า เราจะทำอย่างไร แต่การที่จะนำทั้ง 2 อย่างมาเชื่อมโยงกันได้นั้น ต้องอาศัยเวลา ที่ผ่านมานั้นมันอาจจะน้อยเกินไป มันอาจจะไม่ทุ่มเทกัน วันนี้เราทุ่มเททุกวัน ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก อันนี้ไม่ใช่ข้อแก้ตัว เพียงแต่ทุกคนต้องเข้าใจ ถ้าทำงานในภาพใหญ่ หรือการบริหารราชการแผ่นดิน มันเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ทั้งข้อกฎหมาย วิธีการ ทั้งเจ้าหน้าที่ ประสิทธิภาพ หน่วยงานต่างๆเยอะแยะไปหมด เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าเรามาโจมตีกันเป็นเรื่องๆ เอาเรื่องเล็กๆมาโจมตี ทำให้ภาพใหญ่เสียหาย วันนี้มันก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งหมด มันก็เดินหน้าไม่ได้เหมือนเดิม เพราะมันต้องเริ่มจากเล็กไปใหญ่ทั้งสิ้น ต้องแก้จากเล็กๆขึ้นไป อันไหนแก้ได้เร็วมันก็ไปสู่ตรงกลาง ไปสู่ตรงปลายได้โดยเร็ว มันถึงจะเกิดความยั่งยืนขึ้น ฉะนั้นเราต้องเร่งกันในเรื่องของการปูพื้นฐาน ในเรื่องของการคิดการทำ ความร่วมมือ การบูรณาการ ประสานงาน ผมจึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ 5 ปี ของประเทศไทยไว้แล้ว 2558 - 2562 เป็นเวลา 5 ปีนะครับ ที่เราถึงจะเดินอย่างที่ผมพูดไว้ทั้งหมด ปีเดียวมันเดินไม่ได้หรอกครับ ปีเดียวผมก็วางพื้นฐานไว้ให้ท่าน อีก 4 ปี ท่านก็ไปเดินของท่านต่อไปให้ได้แล้วกัน
ฉะนั้นวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ก็คือการคาดหวัง หรือความหวังของพวกเราว่า 5 ปีข้างหน้าเราจะเป็นอย่างไร ประชาชนคนไทยต้องพยายามคิดแบบนี้ ถ้าเราไม่คิดแบบนี้เราก็ไม่มีอนาคต เราต้องมองอนาคตของเรา 5 ปีข้างหน้าเราจะเป็นอย่างไร เราจะต้องเป็นประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เราต้องช่วยกันทำให้ได้ ช่วยกัน ไม่ใช่ทำลายกันทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตาม ฝ่ายการเมือง คู่ขัดแย้งอะไรก็แล้วแต่ ต้องช่วยกัน ประเทศเป็นของพวกเราทุกคน ท่านจะเห็นต่างกันแต่ท่านทำลายกันไม่ได้ เพราะเท่ากับท่านทำลายประเทศไทย ทำลายคนไทย ทำลายลูกหลานของท่านเอง ทางการเมืองท่านก็ว่ากันไป แต่ในทางการปฏิบัติวันนี้เราเข้ามาดำเนินการให้ท่านอยู่แล้ว เพื่อจะเตรียมการเข้าไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนการ เข้ามาสู่อำนาจต่างๆ นั้น ท่านก็เตรียมการของท่านให้พร้อม เตรียมบุคลากร เตรียมคนของท่าน เตรียมความรู้ความสามารถของท่าน แล้วก็หากเป็นไปได้ก็มาสานต่องานที่เราทำไว้ให้กับท่านทั้งหมดไป แล้วก็ไปปรับปรุงแก้ไขอะไรก็ได้ ถ้าท่านคิดว่าทำได้ดีกว่านี้ หลายอย่างในขณะนี้ ผมว่ายังไม่พร้อม ไม่พร้อมหลายอย่างยังมีความขัดแย้ง หลายอย่างยังไม่ได้ข้อยุติ หลายอย่างยังวางพื้นฐานไม่ได้แต่ผมก็พยายามทำให้ได้ตามเวลาที่กำหนดไว้

เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ผมได้เป็นประธานการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ แล้วก็การประมงด้วย รวมความไปหลายอย่างด้วยกันเรื่องค้ามนุษย์ เรื่องประมงมารวมความไปถึงเรื่องโสเภณี เรื่องการใช้แรงงานเด็ก การใช้แรงงานทาสแล้วก็ปัญหาหลักๆ ที่สำคัญๆ ก็คือ การสร้างความเข้าใจในเรื่องของการลดระดับของต่างประเทศ ขององค์กรการค้าสากลที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ เราต้องรีบแก้ให้เร็ว เขาให้เวลาเรามาหลายปีแล้ว ก็เพิ่งจะได้มาดำเนินการในสมัยรัฐบาลนี้ ที่จะทำให้เป็นรูปธรรมให้ได้ เราก็เร่งรัดในการประชุม ในการดำเนินการแล้วก็ให้ความสำคัญให้ต่อเนื่องแล้วก็เป็นเรื่องของการดูแล คุ้มครองบุคคลตามสิทธิมนุษยชนให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัยและสมศักดิ์ศรี แรงงาน ลูกจ้าง ไม่ว่าจะเป็นแรงงานต่างด้าว หรือแรงงานภายในประเทศก็ตาม ต้องสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัยและสมศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เราให้ความสำคัญในเรื่องนี้

รัฐบาลก็ได้กำหนดให้การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์เป็นวาระเร่งด่วน ผมได้กำชับทุกหน่วยงาน ให้เร่งเดินหน้าผลักดันการแก้ไขปัญหาในทุกมิติ มีการรายงานผลทุกเดือนเพื่อให้เห็นถึงความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 5 คณะ เพื่อจะไปขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์มีทุกมิติ ทั้งในภาคประมง การค้าประเวณีเด็กและสตรี แรงงานบังคับ แรงงานต่างด้าว เหล่านี้เป็นต้น ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานได้เร่งดำเนินการในทันที มีแผนงานระยะสั้น ระยะยาว เรื่องเร่งด่วน แล้วก็ได้ย้ำว่าคดีทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับในเรื่องของการค้ามนุษย์เหล่านี้นั้น ต้องดำเนินอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะระดับใด พวกแกนนำ พวกเจ้าหน้าที่ที่กระทำการทุจริตเหล่านี้ จะต้องเร่งดำเนินการลงโทษให้สมกับความผิด ทั้งทางวินัยและอาญาด้วยนะครับ อันนี้ได้สั่งการไปชัดเจน

นอกจากนี้ จะต้องมีการคุ้มครองและช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อด้วยนะครับ ก็ต้องระมัดระวัง เพราะเวลาเขาได้ข่าวไปอะไรออกไปก็ได้จากสื่อด้วยนะครับ สื่อซึ่งเสนอข้อเท็จจริงบ้าง ไม่จริงบ้างอะไรเหล่านี้ที่จริงก็โอเคแหละ ถ้าไม่จริงออกไปก็ทำให้ต่างชาติเข้าใจอะไรเราผิดเหมือนกัน อีกเรื่องหนึ่งในเรื่องของการที่เขาหาข้อเท็จจริงจากเหยื่อ หามาจากเหยื่อคือผู้ที่ถูกจับมาแล้ว ซึ่งบางครั้งการที่เราเปิดโอกาสให้มีการซักถามโดยตรง บางทีเขาไม่ได้พูดความจริงออก เมื่อไม่พูดความจริงออกไป ข้อมูลต่างๆ มันผิดไปหมด เพราะฉะนั้นคงต้องระมัดระวัง ผมไม่ได้ห้ามว่า ไม่ให้ความเป็นธรรมเขา แต่เพียงแต่ว่าช่วยกันกำกับดูแลหน่อยหนึ่งว่า สิ่งที่เขาพูดออกไป หรือเป็นข่าวออกไปมันถูกต้องแท้จริงหรือไม่ ถ้าจริงเราก็ยอมรับ และนำไปสู่การแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ใครผิดว่าไปตามผิด
ในด้านการประมงนั้น เป็นเรื่องสำคัญ เพราะว่าเรามีข้อจำกัดหลายเรื่อง และเราเป็นประเทศที่มีรายได้จากการส่งสินค้าการประมงมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลกนี้ เรามีความเข้มแข็ง เราได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการในเรื่องของการเจรจาข้อตกลง หรือ เอ็มโอยู เรื่องการประมงกับประเทศในภูมิภาค เพื่อนำไปสู่การแก้ไขการค้ามนุษย์ ในภาคการประมง ถ้าเริ่มผิดแล้ว ถ้าเริ่มผิดกฎหมายตั้งแต่เรือผิด แรงงานบนเรือประมง มันก็ผิดไปทั้งหมด วันหน้ามันขายของอะไรเขาไม่ได้
เพราะฉะนั้นวันนี้ต้องขอความร่วมมือ ในเรื่องของการจดทะเบียนต่างๆ การทำประมงที่ผิดกฎหมายจะต้องแก้ไข เราถูกจับกุมในประเทศเพื่อนบ้านหลายลำด้วยกัน และจะต้องถูกจมเรือด้วย เพราะว่าเรือบางลำนั้นมีซ้ำกันหลายลำ และเข้าไปในเขตที่ไม่ได้สัมปทาน หรือไม่ได้รับอนุญาตต้องยอมรับกัน และเราก็แก้ไข ถ้าเรามัวแต่รักษาผลประโยชน์แต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่เคารพกฎกติกาในวันหน้าเราก็ค้าขายกับใครไม่ได้
เพราะฉะนั้นวันนี้ เราพร้อม ประเทศไทยก็พร้อมที่จะเป็นผู้ริเริ่มผลักดัน การแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย และแก้ไขปัญหาในเรื่องของการค้ามนุษย์ในภาคการประมง ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านของไทยด้วย เราขัดแย้งกันไม่ได้ วันนี้กระทรวงแรงงานมีการดำเนินการคืบหน้าไปหลายประเด็น เช่น การแก้ไขกฎกระทรวง เพื่อให้การคุ้มครองแรงงานในภาคการเกษตร ในภาคแรงงานประมงทางทะเล กำหนดอายุเด็กที่ไม่ต่ำกว่า 15 ปี ในภาคการเกษตร และไม่ต่ำกว่า 18 ปี ในงานประมงทะเล อย่าให้ผิด ผู้ประกอบการอย่าไปจ้างเด็กที่อายุน้อยกว่านี้ และเราบังคับต้องให้มีการจัดทำสัญญาจ้างก่อนลงเรือด้วย กำหนดให้นายจ้างต้องอนุญาตให้แรงงานมีเวลาพักผ่อนที่เหมาะสม กำหนดการจ่ายเงินโดยห้ามหักค่าใช้จ่าย และมีรายละเอียดอื่นๆ อีกมากมายในการที่จะคุ้มครองแรงงานให้ได้มาตรฐานสากลอีกด้วย
สำหรับประเด็นปัญหาที่สังคมมีการกล่าวถึงขณะนี้มีหลายอย่างด้วยกัน กรณีการแก้ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีการขายเกินราคา และไม่เท่ากันในแต่ละพื้นที่นั้น มันมีปัญหาซับซ้อนกันหลายเรื่อง ทั้งระยะทาง ทั้งโควตาสลาก ทั้งราคาที่ทุกพวกทุกฝ่ายต่างก็พยายามจะได้ประโยชน์ให้มากที่สุด วันนี้ทั้งรัฐบาล ทั้งบอร์ด และกองสลากฯ ก็กำลังดำเนินการแก้ไขอยู่ แต่ถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลงวิธีการเลย มันทำอะไรไม่ได้หรอกนะครับ มันต้องมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการบ้าง อันนี้ก็ขอให้ใจเย็นๆ นิดหนึ่ง แต่ก็ขอเรียนว่าปัญหาการขายสลากฯ เกินราคานั้นมันเป็นเพราะกลไกลตลาดของสลากกินแบ่งฯ มันมีความซับซ้อน เรียนไปแล้ว มีระบบโควตา มีพ่อค้าคนกลาง มีการปั่นราคากัน สมยอมกัน เอามารวมเล่ม รวมฉบับกัน อะไรทำนองนี้ เพราะฉะนั้นทางที่จะสามารถแก้ไขได้ ก็คือการแก้ไขกลไกการซื้อขาย เป็นทางเลือก ซึ่งกำลังทำอยู่ ต้องใช้เวลา ต้องแก้ไขกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลก็คำนึงถึงประชาชนผู้ที่ด้อยโอกาส ผู้พิการ ผู้มีรายได้น้อย ที่อยู่ในระบบการค้าขายสลากฯ จะต้องไม่เดือดร้อน รัฐไม่ต้องการที่จะใช้เงินเหล่านี้เป็นรายได้หลัก แต่มันเป็นการประกอบการของประชาชนจำนวนมากที่มีอาชีพเหล่านี้ ประการแรก ประการที่สอง มันเป็นอะไรที่ประชาชนยังต้องการอยู่

เพราะฉะนั้นในกรณีที่มีการเรียกร้องอะไรต่างๆ นั้นก็ขอเวลาให้เราสักนิดหนึ่ง ก็กำลังทำอยู่ ใช้เวลาเหมือนกัน

กรณีการเรียกร้องการคิดอัตราค่าโทรศัพท์เป็นวินาทีนั้น ผมก็ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เรียน กสทช.ไปแล้ว ได้หารือกับผู้ประกอบการไปแล้ว ก็สรุปว่าผู้ให้บริการมือถือทั้ง 5 ค่าย วันนี้ ทั้ง 5 ค่ายก็ได้เห็นชอบร่วมกัน ยึดถือผลประโยชน์ผู้บริโภค เป็นการแก้ปัญหาระยะแรก เร่งด่วน โดยจะให้ความเป็นธรรมกับประชาชนตามที่มีความเห็นมาจาก สปช.ด้วย ผู้ใช้บริการมือถือนั้นก็อยากให้มีการปรับการคิดค่าบริการเป็นวินาทีตามจริง แทนการปัดเศษวินาทีขึ้นเป็นนาที ซึ่งอาจจะมองว่าเป็นภาระค่าใช้จ่ายแก่ประชาชน เราก็จะเร่งดำเนินการในระยะที่ 1 ให้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ที่มันจำเป็นต้องทำอย่างนี้ เพราะว่ามันต้องไปแก้ไขระบบต่างๆ เพราะมันเซ็ตไว้หมดแล้วในช่วงที่ผ่านมา ถ้าจะทำใหม่ก็ต้องไปเซ็ต ใช้เวลาในการเซ็ตเครื่องไม้เครื่องมืออีก แล้วก็ไปปรับแก้วิธีการเก็บเงินเก็บทองอีก มันไม่ใช่สั่งวันนี้แล้วพรุ่งนี้ได้ มันต้องใช้เวลา เขาก็จะเริ่มทำ จัดทำเป็นโปรโมชั่น เป็นทางเลือก เพราะที่ผ่านมาเท่าที่ผมติดตาม มันก็มีทางเลือกอยู่หลายทางด้วยกัน บางคนก็เลือกแบบนี้ แบบนั้น บางแบบก็ถูกดี บางแบบก็ดูได้หลากหลายวิธีการที่จะใช้ ก็ขอให้เป็นเรื่องของความสมัครใจด้วยแล้วกัน ก็ขอให้ร่วมมือกันระหว่างรัฐ และผู้ให้บริการ และผู้ใช้ เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ถ้าเรามอง ต่างคนต่างฝ่ายต่างมองในทางที่ไม่ดีต่อกัน มันก็ไปกันไม่ได้ ทุกอย่างมันก็ต้องมีการลงทุน มีกฎหมายคุ้มครอง วันนี้ก็ต้องใช้ความร่วมมือไปก่อน ต่อไปก็เห็นว่าจะต้องแก้ไขเป็นระบบให้ยั่งยืน ทาง สปช.ก็มีการพูดคุยหารือต่อไป

ในส่วนของปัญหาต่างๆ ที่เป็นปัญหาของพี่น้องในภาพรวมนั้น เราไม่นิ่งเฉยเลย ทุกเรื่อง ทำได้เราทำทันที ในส่วนต่อไปเราก็จะทำให้เป็นระยะยาวขึ้น

สำหรับในวันพรุ่งนี้เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง เป็นวันเด็กแห่งชาติ เด็กก็คืออนาคตของประเทศ ในวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม ทุกปี ในสัปดาห์หน้านั้น วันที่ 16 มกราคม ก็เป็นวันครู วันครู กับวันเด็ก มีความสำคัญ

ผมอยากจะกล่าวถึงเด็กๆ ก่อน ว่าเป็นอนาคตของชาติ เป็นผู้จะสร้างอนาคตของชาติ หรือแม้กระทั่งคุณครู ก็เป็นผู้สร้างอนาคตของชาติเช่นเดียวกัน ร่วมมือกันเพื่ออนาคต

วันเด็กแห่งชาติในปีนี้ ผมในฐานะนายกรัฐมนตรี ก็ได้มอบคำขวัญประจำปีให้กับเด็กไทยทุกคนไปแล้วว่า "ความรู้คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต" ซึ่งมันจะเป็นรากฐานในการที่จะบรรลุวิสัยทัศน์ของรัฐบาล ปี 2558-2562 ที่ว่า "ประเทศมั่นคง ประชาชนมั่งคั่งอย่างยั่งยืน" ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมคิดว่าเด็กทุกคนต่างก็รู้ดีอยู่แล้วว่า การเป็นคนเก่งนั้นไม่เพียงพอ ต้องเป็นคนดี มีคุณธรรมด้วย จึงจะทำให้ทุกคนมีอนาคตที่ดี ที่สุดใส ก็คงไม่ใช่เฉพาะอนาคตของตนเอง รวมไปถึงอนาคตของครอบครัว ของชาติด้วย ที่จะต้องมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เริ่มจากสถาบันครอบครัวก่อน ตัวเอง แล้วไปครอบครัว แล้วไปประเทศชาติ ผมก็ไม่อยากให้คำขวัญเหล่านี้เป็นวาทกรรมประจำปี หลายประเทศเขามีคำขวัญ มีคำที่มันเรียกว่าเป็นคติพจน์ คือยึดถือแล้ว ถ้าทุกคนยึดถือแล้วคิดตาม แล้วทำตาม มันก็ทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้น ทั้งตนเอง ทั้งส่วนรวมด้วยอะไรด้วย ผมไม่อยากให้เป็นเพียงวาทกรรมเฉยๆ ว่าปีนี้คำขวัญว่าอะไร ปีหน้าจะว่าอะไร แล้วก็ไม่รู้ ท่องจำไป แลกรางวัลไป ไม่ใช่ วันนี้ต้องเข้าใจว่า ความรู้นั้นคืออะไร ความรู้ รู้ยังไง ศึกษายังไง ศึกษาส่วนตัว ศึกษาในระบบ ศึกษาตามอัธยาศัย ศึกษานอกโรงเรียน แล้วก็การอ่านหนังสือ การเรียนรู้จากประสบการณ์ จากข้อเท็จจริง อะไรเหล่านี้ มันคือความรู้ทั้งสิ้น แล้วก็คุณธรรมคืออะไร คือรู้อะไรที่ดี เราก็ทำ อะไรไม่ดีเราก็อย่าไปทำ มีคุณธรรม นึกถึงคนอื่น เผื่อแผ่แบ่งปัน ทำนองนี้

แล้วก็ในเรื่องของนำสู่อนาคต ถ้าเราไม่เป็นคนไม่ดี และเป็นคนไม่มีความรู้ไปอีกยิ่งไปกันใหญ่มันไม่มีอนาคตแน่นอน วันหน้าก็ต้องไปติดคุก ไม่มีงานทำ ติดยาเสพติด แต่ถ้าเรามีความรู้ เราก็ไม่ติด ยึดในสิ่งอันตรายเหล่านี้ เราก็จะมีคุณธรรมด้วย จะเจริญเติบโต วันข้างหน้าถ้ามีโอกาสได้ปกครองบ้านเมือง เป็นข้าราชการ อะไรต่างๆ เราก็จะทำให้สังคมมีคุณธรรม และเกิดจริยธรรมขององค์กรเกิดขึ้นมา ประเทศชาติก็ปลอดภัย และก็เดินต่อไปในข้างหน้าได้ อันนี้ก็อยากให้คิดให้ถี่ถ้วน ความรู้คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต ไม่อยากให้ท่องๆ แล้วก็จบไป แลกรางวัล ร้องเพลง แล้วก็จบ

เพราะฉะนั้นขอฝากผู้จัดงาน หน่วยราชการ และโรงเรียนต่างๆ ต้องสร้างสรรค์กิจกรรมที่เป็นการปลูกฝังด้วย เป็นการจัดสร้างความรู้ให้เด็ก ให้เด็กได้รักการอ่าน ทำอย่างไร มีความเข้าใจอย่างไร ให้เด็กๆ ของเราได้นำคำขวัญเหล่านี้ไปเป็นคติประจำใจ ยึดถือและปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวันของเขาด้วย เช่นเดียวกับที่ผมฝากไว้คือเรื่องค่านิยม 12 ประการ วันนี้อาจจะดูว่าจะได้อะไร แต่ผมคิดว่าจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้ตนเอง ให้ตนเองมีความภาคภูมิใจติดกับตัวไว้ในอนาคต เราก็จะเป็นทั้งคนดี คนเก่งด้วย เราต้องปลูกฝังจิตสำนึกไว้ก่อน ความเข้าใจที่ถูกต้อง ถ้าเราปลูกฝังเฉพาะเรื่องประชาธิปไตย เรื่องเสรีภาพอย่างเดียว ไม่มีคำว่าหน้าที่ หรือไปเน้นด้านวัตถุแต่อย่างเดียว ด้านเทคโนโลยีอย่างเดียว มันก็ไปไหนไม่รอดทั้งสิ้น และผู้รู้ก็ได้กล่าวไว้แล้วว่า บันไดในการปลูกฝังมีอยู่ 3 ขั้นตอน คือ 1. การสร้างความตระหนักรู้และเข้าใจ 2. ต้องลงมือทำ ไม่ใช่แค่ท่องจำ แต่ต้องนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และที่สำคัญที่สุด คือ 3. การสร้างสภาพแวดล้อม ทุกคนในสังคมก็ต้องเป็นต้นแบบที่ดี ทำให้เด็กดูในครอบครัว ในสังคมผู้ใหญ่เป็นตัวอย่างกับเด็ก เมื่อเด็กเห็นคนรอบข้างหรือคนในสังคมประพฤติดี ปฏิบัติชอบ เด็กก็จะเกิดการรับรู้และทำตาม นำไปประยุกต์ใช้ เมื่อเจริญเติบโตก็จะเป็นอนาคตที่ดีของชาติต่อไป ก็ต้องขอฝากพ่อแม่พี่น้องประชาชน ช่วยกันทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก มีการสร้างความตระหนักรู้ ให้เขาเข้าใจ และทำสิ่งที่ดีๆ เพื่อจะนำไปสู่อนาคต นำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนด้วยนะครับ

ในเรื่องสุดท้าย ผมขอให้ติดตามความก้าวหน้าในการประชุมที่ ครม.ได้มีการสั่งการไปแล้วทุกสัปดาห์ มีความเคลื่อนไหวในทุกๆ ด้าน ในสื่อที่เป็นกลาง โดยเฉพาะด้านสื่อเศรษฐกิจ ผมก็เห็นเขาสรุปมาดี เห็นมีความก้าวหน้าในหลายๆ เรื่องด้วยกัน และก็ทำให้สังคมคลายความตื่นตระหนกไปบ้างในหลายๆ ประเด็น

สำหรับสื่อการเมืองผมไม่สามารถจะไปห้ามได้ พวกนี้จะติดตามเรื่องการเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องของความขัดแย้ง บางครั้งอ่านแล้วก็ไม่สบายใจ ขอให้ลดลงไปบ้าง ความขัดแย้งข้อเสนอให้ลดลงไปบ้าง แต่ผมบังคับท่านไม่ได้อยู่แล้วแหละ เป็นหน้าที่ของสมาคมสื่อจะต้องรับผิดชอบ กรณีที่ทำให้เกิดความวุ่นวายหรือความขัดแย้ง หรือความรุนแรงเกิดขึ้น ต้องไปว่ากันอีกครั้ง ขอให้ทุกคนช่วยกัน ผมไม่โทษใคร ทุกคนต้องมาช่วยกัน ถ้ารัฐ เอกชน ประชาชน ร่วมมือกันมันต้องมีเครื่องมือในการที่จะทำให้ทุกอย่างมันเดินไปในแนวทางเดียวกัน สร้างความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนักรู้อย่างมีสติ เราจะไม่ขัดแย้งกันอีก ถ้าขัดแย้งต่อไปก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ เราลองดูสถานการณ์ต่างประเทศวันนี้เป็นอย่างไร หลายๆ อย่างเป็นปัญหาทั้งหมด
เพราะฉะนั้นประเทศไทยต้องใช้เวลาตรงนี้ ทำอย่างไรให้เราเข้มแข็ง เพื่อจะรองรับสถานการณ์ที่มันอาจจะเกิดขึ้นในภูมิภาคของเราในอนาคต หรือว่าในประเทศเราในอนาคตก็ได้ เราต้องเตรียมตัวเองให้พร้อม วันนี้อย่าเอาเรื่องอะไรที่ไม่ใช่เรื่อง มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นของชาติบ้านเมือง ไม่ใช่ เอามาทะเลาะเบาะแว้งกันอีกเลย ขอให้ทุกคนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้องดีกว่า และประชาชนอยู่ในความสงบ และอย่าให้ใครเขามาบ่อนทำลายบ้านของเรา ชุมชนของเรา ครอบครัวของเราได้อีกต่อไป ขอขอบคุณนะครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขอย่างพอเพียงในปี 2558 คำว่าพอเพียงก็คือ ถ้ามีสุขมากๆ ก็เหลือเผยแผ่แบ่งปันคนอื่น ถ้ารายได้น้อยอาจจะความสุขอาจจะน้อยหน่อย แต่ขอให้มีความสุขในครอบครัวของตัวเอง อย่าไปใช้จ่ายจนสุรุ่ยสุร่ายเกินตัวเองไป มีความพอประมาณ มีเหตุผลในการใช้จ่ายเงิน ใครมีเงินใช้มาก มีน้อยใช้น้อย แล้วเหลือค่อยแบ่งปัน และโหวตออกไปบ้างเพื่ออนาคตนะครับ สวัสดีครับ ขอให้ทุกคนมีความสุข สวัสดีครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น