พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามและประเมินผลดำเนินการของคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ว่าที่ประชุมได้พิจารณาติดตามการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน คทช. ที่มีตนเป็นประธานโดยได้ข้อสรุปว่า สำหรับโครงการล็อตแรกจะมีการจัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกรยากจนโดยไม่ให้เอกสารสิทธิจำนวน 5 หมื่นกว่าไร่ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ มุกดาหาร เชียงใหม่นครพนมและชุมพร โดยจะมีราษฎรได้รับสิทธิในรูปสหกรณ์ ประมาณ 9,000 รายโดยกระทรวงมหาดไทย จะดำเนินการคัดเลือกคนเข้าไปอยู่ในพื้นที่และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการในเรื่องการพัฒนาอาชีพแล้วเสร็จในเดือนก.พ.นี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน
พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นที่ประชุม คทช.ได้มอบหมายให้กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทยจัดทำแผนที่คู่ขนานกับกระทรวงทรัพยากรฯ ที่มีการจัดทำแผนที่ตามโครงการเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ของประเทศอยู่แล้วโดยหากดำเนินการเสร็จสิ้นก็จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทับซ้อนในพื้นที่ป่าไม้ได้ระดับหนึ่งซึ่งในส่วนกระทรวงทรัพยากรฯ มีการจัดทำแอปพลิเคชั่นเพื่อให้ตรวจสอบตำแหน่งพื้นที่ที่บุกรุกป่าได้ผ่านสมาร์ทโฟนซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถตรวจสอบว่าพื้นที่ใดบุกรุกป่าหรือไม่โดยง่าย
รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ยอมรับว่าเวลานี้มีราษฎรที่ยากจนต้องการพื้นที่ทำกินมากกว่าพื้นที่ที่รัฐมีสำหรับจัดสรรให้กับราษฎรได้แต่ก็จะพยายามบริหารจัดการให้ได้ 70-80 เปอร์เซ็นต์ให้ได้ตามความต้องการของทุกฝ่ายอย่างไรก็ตามสำหรับเป้าหมายที่จะดำเนินการในระยะต่อไปแบ่งเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือที่ดินที่ไม่มี่คนอยู่อาศัย ซึ่งเป็นพื้นที่ของกรมธนารักษ์และ สปก. จำนวน 5,000 ไร่ กลุ่มที่สองเป็นพื้นที่ทีมีคนบุกรุกอยู่อาศัยอยู่แล้วจำนวน 4.55 ล้านไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ สปก. 3.6 ล้านไร่ พื้นที่กรมป่าไม้ 9.35 แสนไร่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ตามมติ ครม. 30 มิ.ย.41 และพื้นที่ของกระทรวงพัฒนาสังคม 1.4 หมื่นไร่ โดยคาดว่าจะจัดสรรให้ราษฎรได้1.1 แสนราย และกลุ่มที่สามเป็นพื้นที่บุกรุกที่กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินคดีจำนวน 14.16 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ของกระทรวงการคลัง 1.4 ล้านไร่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 6.82 ล้านไร่ กระทรวงมหาดไทย 1.02 ล้านไร่กระทรวงทรัพยากรฯ กว่า 4.5 ล้านไร่ และกระทรวงพัฒนาสังคมฯ3.7 แสนไร่ เป็นต้น รวมพื้นที่ทั้งหมดที่จะนำมาจัดสรรกว่า 18 ล้านไร่ มีราษฎรที่จะได้รับการจัดสรรพื้นที่ทั้งหมดกว่า 3แสนราย ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้ระยะในการดำเนินการพอสมควรโดยจะพิจารณาผลการดำเนินการจัดสรรที่ดินในล็อตแรกก่อนว่าประสบผลสำเร็จหรือไม่ ก่อนพิจารณาดำเนินการทั้งหมดต่อไป
พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวอีกว่าทั้งนี้ยืนยันว่าสำหรับพื้นที่ป่าไม้ที่เป็นพื้นที่ล่อแหลมและเสี่ยงต่อการคุกคามระบบนิเวศจะไม่ให้มีการใช้ประโยชน์แน่นอน และจะต้องมีการอพยพราษฎรออกมาอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมรวมทั้งยืนยันว่าจะจัดการปัญหาที่ดินและป่าไม้ให้เหมาะสมทั้งต่อราษฎรที่ยากจนไร้ที่ทำกินและดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับนายทุนที่ใช้ประโยชน์ในที่ดินเอาเปรียบรัฐ
พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นที่ประชุม คทช.ได้มอบหมายให้กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทยจัดทำแผนที่คู่ขนานกับกระทรวงทรัพยากรฯ ที่มีการจัดทำแผนที่ตามโครงการเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ของประเทศอยู่แล้วโดยหากดำเนินการเสร็จสิ้นก็จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทับซ้อนในพื้นที่ป่าไม้ได้ระดับหนึ่งซึ่งในส่วนกระทรวงทรัพยากรฯ มีการจัดทำแอปพลิเคชั่นเพื่อให้ตรวจสอบตำแหน่งพื้นที่ที่บุกรุกป่าได้ผ่านสมาร์ทโฟนซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถตรวจสอบว่าพื้นที่ใดบุกรุกป่าหรือไม่โดยง่าย
รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯกล่าวอีกว่า ทั้งนี้ยอมรับว่าเวลานี้มีราษฎรที่ยากจนต้องการพื้นที่ทำกินมากกว่าพื้นที่ที่รัฐมีสำหรับจัดสรรให้กับราษฎรได้แต่ก็จะพยายามบริหารจัดการให้ได้ 70-80 เปอร์เซ็นต์ให้ได้ตามความต้องการของทุกฝ่ายอย่างไรก็ตามสำหรับเป้าหมายที่จะดำเนินการในระยะต่อไปแบ่งเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือที่ดินที่ไม่มี่คนอยู่อาศัย ซึ่งเป็นพื้นที่ของกรมธนารักษ์และ สปก. จำนวน 5,000 ไร่ กลุ่มที่สองเป็นพื้นที่ทีมีคนบุกรุกอยู่อาศัยอยู่แล้วจำนวน 4.55 ล้านไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ สปก. 3.6 ล้านไร่ พื้นที่กรมป่าไม้ 9.35 แสนไร่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ตามมติ ครม. 30 มิ.ย.41 และพื้นที่ของกระทรวงพัฒนาสังคม 1.4 หมื่นไร่ โดยคาดว่าจะจัดสรรให้ราษฎรได้1.1 แสนราย และกลุ่มที่สามเป็นพื้นที่บุกรุกที่กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินคดีจำนวน 14.16 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ของกระทรวงการคลัง 1.4 ล้านไร่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 6.82 ล้านไร่ กระทรวงมหาดไทย 1.02 ล้านไร่กระทรวงทรัพยากรฯ กว่า 4.5 ล้านไร่ และกระทรวงพัฒนาสังคมฯ3.7 แสนไร่ เป็นต้น รวมพื้นที่ทั้งหมดที่จะนำมาจัดสรรกว่า 18 ล้านไร่ มีราษฎรที่จะได้รับการจัดสรรพื้นที่ทั้งหมดกว่า 3แสนราย ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้ระยะในการดำเนินการพอสมควรโดยจะพิจารณาผลการดำเนินการจัดสรรที่ดินในล็อตแรกก่อนว่าประสบผลสำเร็จหรือไม่ ก่อนพิจารณาดำเนินการทั้งหมดต่อไป
พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวอีกว่าทั้งนี้ยืนยันว่าสำหรับพื้นที่ป่าไม้ที่เป็นพื้นที่ล่อแหลมและเสี่ยงต่อการคุกคามระบบนิเวศจะไม่ให้มีการใช้ประโยชน์แน่นอน และจะต้องมีการอพยพราษฎรออกมาอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมรวมทั้งยืนยันว่าจะจัดการปัญหาที่ดินและป่าไม้ให้เหมาะสมทั้งต่อราษฎรที่ยากจนไร้ที่ทำกินและดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับนายทุนที่ใช้ประโยชน์ในที่ดินเอาเปรียบรัฐ
