นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวถึงการจัดอันดับบัญชีสถานะประเทศคู่ค้าด้านทรัพย์สินทางปัญญา ตามกฎหมายการค้าพิเศษ มาตรา 301 สหรัฐฯ ประจำปี 2558 ที่จะประกาศผลในช่วงสิ้นเดือนเมษายน 2558 โดยมั่นใจว่าไทยจะได้รับการจัดสถานะอันดับที่ดีขึ้น โดยน่าจะถูกจัดให้อยู่ในบัญชีประเทศที่ถูกจับตามอง (WL) หรือเลื่อนขึ้นจากปัจจุบันที่ไทยถูกจัดให้อยู่ในบัญชีประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (PWL) เนื่องจากไทยได้ดำเนินการป้องกันและปราบปรามด้านทรัพย์สินทางปัญญาตามที่สหรัฐฯ ต้องการ โดยเฉพาะการแก้ไขพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ เกี่ยวกับการป้องกันแอบถ่ายในโรงภาพยนตร์ ที่ขณะนี้ได้ผ่านขั้นตอนของการแก้ไขกฎหมาย และอยู่ระหว่างการประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา
นอกจากนี้ เตรียมที่จะหารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการปราบปรามการละเมิดในพื้นที่สีแดง 13 แห่ง ได้แก่ พันธุ์ทิพย์ คลองถม สะพานเหล็ก บ้านหม้อ ตลาดนัดสวนจตุจักร มาบุญครอง ย่านการค้าริมถนนสุขุมวิทระหว่างซอย 3-19 พัฒน์พงษ์ หาดกะรน หาดป่าตอง ศูนย์การค้าไอทีซิตี้พัทยา ตลาดโรงเกลือ ตลาดนัดริมถนนวิทยุ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังมีการละเมิด และอยู่ในเป้าหมายที่สหรัฐฯ ต้องการให้ไทยเร่งปราบปราม
ขณะที่ในปี 2558 มีแผนที่จะผลักดันโครงการแปลงทรัพย์สินทางปัญญาเป็นทุน โดยจะส่งเสริมสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีศักยภาพในการต่อยอดให้ได้รับการปล่อยสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งตั้งเป้าที่จะคัดสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เข้าร่วมโครงการให้ได้ 60 ราย และนำมาประกวดให้ได้ผู้ชนะ 2-3 ราย เพื่อมอบรางวัล และให้เป็นตัวอย่างของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการเข้าร่วมโครงการ
นอกจากนี้ เตรียมที่จะหารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการปราบปรามการละเมิดในพื้นที่สีแดง 13 แห่ง ได้แก่ พันธุ์ทิพย์ คลองถม สะพานเหล็ก บ้านหม้อ ตลาดนัดสวนจตุจักร มาบุญครอง ย่านการค้าริมถนนสุขุมวิทระหว่างซอย 3-19 พัฒน์พงษ์ หาดกะรน หาดป่าตอง ศูนย์การค้าไอทีซิตี้พัทยา ตลาดโรงเกลือ ตลาดนัดริมถนนวิทยุ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังมีการละเมิด และอยู่ในเป้าหมายที่สหรัฐฯ ต้องการให้ไทยเร่งปราบปราม
ขณะที่ในปี 2558 มีแผนที่จะผลักดันโครงการแปลงทรัพย์สินทางปัญญาเป็นทุน โดยจะส่งเสริมสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีศักยภาพในการต่อยอดให้ได้รับการปล่อยสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งตั้งเป้าที่จะคัดสินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เข้าร่วมโครงการให้ได้ 60 ราย และนำมาประกวดให้ได้ผู้ชนะ 2-3 ราย เพื่อมอบรางวัล และให้เป็นตัวอย่างของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการเข้าร่วมโครงการ