xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ หวังภาพลักษณ์ปัญหาคอร์รัปชันไทยปีหน้าดีขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ความโปร่งใสในการบริหารจัดการองค์กรของประเทศไทย ตอนหนึ่ง ว่า ความสุจริต โปร่งใสของบ้านเมืองเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องเร่งแก้ไขให้ได้ในระยะเวลาที่จำกัด เพื่อสร้างการรับรู้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทย การสร้างความโปร่งใสของหน่วยงานเป็นสิ่งที่จำเป็น ต้องสร้างค่านิยมให้ผู้ปฏิบัติ รวมไปถึงสังคม และสิ่งแวดล้อมต่างๆ ต้องมีค่านิยมเดียวกัน การบริหารองค์กรเป็นสิ่งสำคัญเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้รับบริการที่มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ทั้งนี้ ความโปร่งใสมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และความมั่นใจต่อการลงทุนของต่างประเทศ ถ้าความโปร่งใสไม่มีการค้า การลงทุนก็จะไม่เกิดขึ้น
ในส่วนของรัฐบาลมีนโยบายการส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาลและการป้องกันปราบปราบการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือในหลายๆ ด้าน เช่น กฎหมาย เจ้าหน้าที่ องค์กรต่างๆ การบริหารจัดการ สังคม และประชาชนในการแก้ไขปัญหาเรื่องดังกล่าว เพื่อลดอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว โดยจะมีการปรับปรุงระบบราชการระดับประเทศ ภูมิภาค และท้องถิ่นทุกอย่างต้องประสานสอดคล้องกัน โดยเริ่มจากความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นเป็นหลัก ซึ่งรัฐบาลได้เร่งปรับปรุงระบบราชการและการบริหารจัดการในทุกภาคส่วนให้มีประสิทธิภาพทั้งเรื่องของการจัดการงบประมาณ การบริหารราชการแผ่นดิน โครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ หากสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ จะนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเท่าเทียม และทำให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งวิธีการไปสู่เป้าหมายนั้น ต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะภาคประชาชน ในการร่วมตรวจสอบการทุจริต ต้องปลูกฝังค่านิยมด้านคุณธรรม จริยธรรม อย่างจริงจัง ขณะเดียวกันควรเสนอแผนป้องกัน สร้างการรับรู้ และยุทธศาสตร์ให้มีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ ปัญหาความยากจน ความไม่เท่าเทียมเป็นจุดเริ่มต้นของการทุจริต ต้องใช้จุดแข็งของหน่วยงานทุกภาคส่วนให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศ โดยยึดหลักค่านิยม 12 ประการ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีเพราะดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันประเทศไทยอยู่อันดับที่ 3 ของอาเซียน และหวังให้ปีหน้าจะดีกว่านี้ แต่ทั้งนี้ ต้องสร้างการรับรู้ถึงขั้นตอนการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งภาพลักษณ์ความโปร่งใสของประเทศไทยเกี่ยวข้องกับ 2 ประเด็น คือ 1.ลักษณะผูกพันทางกฎหมาย ได้แก่ อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องการต่อต่านการทุจริต และอนุสัญญาต่อต้านการให้สินบนเจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ 2.แนวปฏิบัติในลักษณะของการส่งเสริมและความร่วมมือ ได้แก่ ISO 26000 มาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคม และข้อตกลงภายใต้หลักสากล 10 ประการของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องสร้างหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ลดความหวาดระแวง สร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน รวมไปถึงสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในรูปแบบของการมีส่วนร่วม ที่สำคัญคือจิตใจของคนต้องเห็นแก่ส่วนรวม และประเทศชาติเป็นหลัก ต้องต่อต้านการทุจริต บนพื้นฐานของความเป็นธรรม ใช้กฎหมายตัดสิน อย่าให้เกิดความแตกแยกขึ้นในสังคม และต้องสร้างความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม สร้างความรู้สึกที่ดีของประชาชนต่อกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านกระบวนการยุติธรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น