สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ว่าทำเนียบขาวเผยแพร่แถลงการณ์ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ประณามกลุ่มก่อการร้ายแห่งคาบสมุทรอาระเบีย ( เอคิวเอพี ) ซึ่งเป็นเครือข่ายในเยเมนของกลุ่มอัล-กออิดะห์ กรณีการสังหารโหดตัวประกัน 2 คน คือนายลุค ซอมเมอร์ส ช่างภาพข่าวชาวอเมริกัน วัย 33 ปี และนายปิแอร์ คอร์กี ครูสอนภาษาชาวแอฟริกาใต้ วัย 56 ปี ระหว่างหน่วยรบพิเศษ ( ซีล ) ของสหรัฐ บุกเข้าไปช่วยเหลือเมื่อวันเสาร์ ว่าเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน
ขณะเดียวกัน โอบามายังแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน แต่ยืนยันสหรัฐจะเดินหน้าใช้แผนยุทธศาตร์แบบเดิมในการช่วยเหลือตัวประกันชาวอเมริกันซึ่งตกอยู่ในเงื้อมือของกลุ่มก่อการร้ายให้สำเร็จต่อไป ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตามบนโลก ทั้งนี้ หนึ่งในมาตรการของวอชิงตัน คือการไม่เจรจาและไม่จ่ายค่าไถ่ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มคนร้าย
ทั้งนี้ ภารกิจดังกล่าวของหน่วยซีลเป็นไปตามคำสั่งโดยตรงของโอบามา หลังกลุ่มเอคิวเอพีเผยแพร่วีดีโอคลิปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขู่สังหารซอมเมอร์ส ซึ่งหายตัวไปในเยเมนเมื่อปีที่แล้ว ภายใน 72 ชั่วโมง
ด้านแหล่งข่าวในกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ( เพนตากอน ) เผยกับซีเอ็นเอ็นและบีบีซีว่า หน่วยซีลทีม 6 ราว 40 คน เดินทางด้วยเครื่องบินรบแบบออสเปรย์ 2 ลำไปลงจอดใกล้สถานที่เป้าหมายในจังหวัดชาบวา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเยเมน เมื่อคืนวันศุกร์ ก่อนเดินทางเข้าไปแต่กลุ่มเอคิวเอพีกลับไหวตัวทัน ก่อให้เกิดการยิงต่อสู้กันอย่างดุเดือดนานราว 30 นาที แม้หน่วยซีลสามารถสังหารสมาชิกของเอคิวเอพีได้อย่างน้อย 5 ศพ แต่กลุ่มนักรบยิงทั้งซอมเมอร์สและคอร์กีทันที แม้หน่วยซีลสามารถชิงตัวทั้งสองคนมาได้ แต่ตัวประกันเสียชีวิตในเวลาต่อมาด้วยอาการทนพิษบาดแผลไม่ไหว
ต่อมากลุ่ม "กิฟท์ ออฟ เดอะ กีฟเวอร์ส" ซึ่งเป็นหน่วยงานอาสาต้นสังกัดของคอร์กี ออกแถลงการณ์ประณามภารกิจดังกล่าวของรัฐบาลสหรัฐอย่างรุนแรง ว่า "ทำลาย" ทุกสิ่ง เนื่องจากกอร์กีมีกำหนดได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันอาทิตย์ และการข่าวของวอชิงตัน "ผิดพลาด" ที่ไม่แจ้งว่า ซอมเมอร์สและคอร์กีถูกควบคุมตัวเอาไว้ด้วยกัน ขณะที่รัฐบาลแอฟริกาใต้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อการเสียชีวิตของคอร์กี และจะนำร่างของผู้วายชนม์กลับมาตุภูมิในวันนี้
ขณะเดียวกัน โอบามายังแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน แต่ยืนยันสหรัฐจะเดินหน้าใช้แผนยุทธศาตร์แบบเดิมในการช่วยเหลือตัวประกันชาวอเมริกันซึ่งตกอยู่ในเงื้อมือของกลุ่มก่อการร้ายให้สำเร็จต่อไป ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตามบนโลก ทั้งนี้ หนึ่งในมาตรการของวอชิงตัน คือการไม่เจรจาและไม่จ่ายค่าไถ่ตามข้อเรียกร้องของกลุ่มคนร้าย
ทั้งนี้ ภารกิจดังกล่าวของหน่วยซีลเป็นไปตามคำสั่งโดยตรงของโอบามา หลังกลุ่มเอคิวเอพีเผยแพร่วีดีโอคลิปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขู่สังหารซอมเมอร์ส ซึ่งหายตัวไปในเยเมนเมื่อปีที่แล้ว ภายใน 72 ชั่วโมง
ด้านแหล่งข่าวในกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ( เพนตากอน ) เผยกับซีเอ็นเอ็นและบีบีซีว่า หน่วยซีลทีม 6 ราว 40 คน เดินทางด้วยเครื่องบินรบแบบออสเปรย์ 2 ลำไปลงจอดใกล้สถานที่เป้าหมายในจังหวัดชาบวา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเยเมน เมื่อคืนวันศุกร์ ก่อนเดินทางเข้าไปแต่กลุ่มเอคิวเอพีกลับไหวตัวทัน ก่อให้เกิดการยิงต่อสู้กันอย่างดุเดือดนานราว 30 นาที แม้หน่วยซีลสามารถสังหารสมาชิกของเอคิวเอพีได้อย่างน้อย 5 ศพ แต่กลุ่มนักรบยิงทั้งซอมเมอร์สและคอร์กีทันที แม้หน่วยซีลสามารถชิงตัวทั้งสองคนมาได้ แต่ตัวประกันเสียชีวิตในเวลาต่อมาด้วยอาการทนพิษบาดแผลไม่ไหว
ต่อมากลุ่ม "กิฟท์ ออฟ เดอะ กีฟเวอร์ส" ซึ่งเป็นหน่วยงานอาสาต้นสังกัดของคอร์กี ออกแถลงการณ์ประณามภารกิจดังกล่าวของรัฐบาลสหรัฐอย่างรุนแรง ว่า "ทำลาย" ทุกสิ่ง เนื่องจากกอร์กีมีกำหนดได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันอาทิตย์ และการข่าวของวอชิงตัน "ผิดพลาด" ที่ไม่แจ้งว่า ซอมเมอร์สและคอร์กีถูกควบคุมตัวเอาไว้ด้วยกัน ขณะที่รัฐบาลแอฟริกาใต้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อการเสียชีวิตของคอร์กี และจะนำร่างของผู้วายชนม์กลับมาตุภูมิในวันนี้