xs
xsm
sm
md
lg

"บวรเวท"ชี้วัตถุโบราณยึดจาก"พงศ์พัฒน์"ไม่มีของหายจากกรมศิลป์แน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร แถลงผลการตรวจสอบ และประชุมหารือเบื้องต้นเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ยึดได้จากการกระทำความผิดกรณี พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ กับพวก เมื่อ 26 พฤศจิกายน 2557 ว่า จากการตรวจสอบของกลางในส่วนที่เกี่ยวข้องนั้น สามารถระบุของกลางได้คือ ประเภทของกลางตามชนิดวัตถุประกอบด้วย ประติมากรรมทำด้วย วัสดุหลากหลายทั้งโลหะ ไม้ และหิน เช่น พระพุทธรูป เทวรูป ภาพแกะสลัก เครื่องปั้นดินเผา ประเภทเครื่องถ้วย ภาพเขียน และประเภทของกลางตามรูปแบบศิลปะ และอายุสมัย ซึ่งเป็นโบราณวัตถุที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ศิลปะไทย
ส่วนใหญ่เป็นพระพุทธรูปทำด้วยโลหะและไม้ ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ประมาณพุทธศตวรรษที่ 23-25 รวมถึงเครื่องปั้นดินเผาประเภทเครื่องถ้วย และอื่นๆซึ่งยังไม่ได้ตรวจสอบ และยังมีศิลปวัตถุที่ทำด้วยฝีมือประณีตตามรูปแบบศิลปะต่างประเทศ เช่น เทวรูปและภาพสลักหินแบบศิลปะเขมร รูปเทพเจ้าแบบศิลปะจีน รูปสลักหินอ่อนแบบศิลปะตะวันตก รูปสลักศิลปะอินเดีย รูปสลักศิลปะพม่า บางรายอาจเป็นโบราณวัตถุด้วย บางรายการอาจเป็นทำของเลียนแบบหรือจำลอง
จากการตรวจสอบของตำรวจและทหาร ซึ่งได้ทำบัญชีและถ่ายภาพโบราณวัตถุไว้โดยสามารถยึดได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 รายการ ซึ่งได้เก็บไว้เป็นหลักฐานและคาดว่าจะพบเพิ่มอีก เมื่อได้ประชุมหารือร่วมกับตำรวจ ซึ่งได้ขอให้ทางกรมศิลปากรดำเนินการ เพื่อตรวจพิสูจน์ แยกประเภทและจัดทำบัญชีรายละเอียดโบราณวัตถุ พร้อมประเมินค่าราคา ในส่วนของกลางที่เป็นโบราณวัตถุ จะขอฝากทางกรมศิลปากรช่วยเก็บรักษาไว้จนกว่าคดีจะสิ้นสุด
อธิบดีกรมศิลป์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบของกลางที่สามารถยึดได้นั้น พบว่ามีทั้งโบราณวัตถุ ทั้ง ไม้ หินโลหะและเครื่องถ้วย ซึ่งทางกรมศิลปากรจะต้องไปตรวจคัดแยกแต่ละประเภท และจะทำทะเบียนเพื่อทำบัญชีอีกด้วย ซึ่งในส่วนของกลางเมื่อทำการตรวจสอบเสร็จแล้วจะนำไปเก็บไว้ที่คลังกลาง ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.คลอง 5 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และเมื่อได้ตรวจสอบจะทำการคัดแยกว่าโบราณวัตถุชนิดใดบ้างที่สามารถครอบครองไว้ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่จะต้องมีการชี้แจงที่มาของวัตถุชิ้นดังกล่าวด้วยว่ามีที่มาอย่างไร และวัตถุโบราณบางชนิดไม่สมควรที่ไว้ในครอบครองเช่น เทวรูปหินทรายแกะสลัก ในสมัยลพบุรี ซึ่งเทวรูปนี้ควรอยู่ในพิพิธภัณฑ์
ทั้งนี้คาดว่าในการตรวจสอบวัตถุโบราณที่สามารถยึดได้จะเริ่มตรวจสอบคัดแยกประเภทในวันที่ 1 ธันวาคมเป็นต้นไป โดยจะทำการคัดแยกชิ้นใหญ่ก่อนเพื่อที่จะง่ายต่อการตรวจสอบ ในที่นี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีวัตถุโบราณที่มีอายุมากที่สุดมีอายุกว่า 1,200 ปี ซึ่งคาดว่าจะเป็นวัตถุโบราณของต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม วัตถุโบราณที่สามารถตรวจยึดได้นั้นยืนยันว่า ไม่มีของที่หายจากกรมศิลปากรแน่นอน เพราะยังคงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ครบ และหากมีการตรวจสอบวัตถุโบราณ ซึ่งไม่ใช่เป็นของประเทศไทยที่เป็นของต่างประเทศก็ให้ประเทศนั้นๆ ส่งเอกสารยืนยันว่าวัตถุโบราณชิ้นนั้นเป็นของประเทศ ตนจะทำการส่งคืนให้เพื่อเป็นความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศต่อไป
นอกจากนี้ ยังพบพระพุทธรูปและงาช้างแกะสลักที่มีผู้เสียหายได้มาแจ้งหายไว้ ส่วนราคาของพระพุทธรูปแต่ละองค์คาดว่า น่าจะอยู่ที่ราคาหลักล้านบาทต่อ 1 ชิ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับความนิยม
กำลังโหลดความคิดเห็น