สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ประชุมหารือเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ยึดได้จากการกระทำความผิดของ “พงศ์พัฒน์” ที่จัดส่งมาให้ประมาณ 20,000 รายงาน คาดต้องใช้เวลาตรวจสอบนานกว่า 2 เดือน ระบุจากการดูด้วยตาเปล่าบางชิ้นอาจมีอายุเก่าสุดกว่า 1,200 ปี หากไม่ใช่ของที่ทำเลียนแบบขึ้นมาใหม่ ยันให้ครอบครองวัตถุศตวรรษที่ 12 ถือว่ามีความผิด พ.ร.บ.ครอบครองโบราณวัตถุโทษจำคุก 5 ปี
วันนี้ (28 พ.ย.) ที่สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมด้วยนายสมชาย ณ นครพนม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโบราณคดี (โบราณคดีและพิพิธภัณฑ์) นายสหภูมิ ภูมิธฤติรัฐ ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และนางพัชรินทร์ ศุขประมูล หัวหน้ากลุ่มทะเบียนคลัง พิพิธภัณฑ์และสารสนเทศ สำนักพิพิธภัณฑสถาน แถลงการเกี่ยวกับกรณีที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) มีหนังสือถึงผู้อวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมพิสูจน์ทรัพย์สินที่ยึดได้จาก พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ พร้อมพวก โดยจากการตรวจสอบของกลางในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรมศิลปากรในเบื้องต้น สรุปได้ดังนี้
1. ประเภทของกลางตามชนิดวัตถุ ประกอบด้วย ประติมากรรม ทำด้วยวัสดุทั้งโลหะ ไม้ และหิน เช่น พระพุทธรูป เทวรูป ภาพแกะสลัก, เครื่องปั้นดินเผา ประเภทเครื่องถ้วย และภาพเขียน
2. ประเภทของกลางตามรูปแบบศิลปะและอายุสมัย โบราณวัตถุที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ศิลปะแบบไทย ส่วนใหญ่เป็นพระพุทธรูปทำด้วยโลหะและไม้ ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ประมาณพุทธศตวรรษที่ 23-25 อาจรวมทั้งเครื่องปั้นดินเผาประเภทเครื่องถ้วย และอื่นๆ ซึ่งยังไม่ได้ตรวจสอบ, ศิลปวัตถุที่ทำด้วยฝีมือประณีตตามรูปแบบศิลปะต่างประเทศ เช่น เทวรูป และภาพสลักหินแบบศิลปะเขมร รูปเทพเจ้าแบบศิลปะจีน รูปสลักหินอ่อนแบบศิลปะตะวันตก รูปสลักศิลปะอินเดีย พระพุทธรูปศิลปะพม่า บางรายการอาจเป็นโบราณวัตถุด้วย บางรายอาจเป็นของทำเลียนแบบหรือจำลอง
นายบวรเวทกล่าวว่า ในเบื้องต้นฝ่ายทหารและตำรวจได้จัดทำบัญชีและภาพถ่ายโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุทั้งหมดที่ยึดได้จำนวนไม่ต่ำกว่า 20,000 รายการไว้เป็นหลักฐานแล้ว โดยจะประสานขอความร่วมมือจากกรมศิลปากรดำเนินการ ดังนี้ 1. ตรวจพิสูจน์แยกประเภทและจัดทำบัญชีรายละเอียดโบราณวัตถุ ศิลปะวัตถุพร้อมประเมินราคา 2. ส่วนของกลางที่เป็นโบราณวัตถุ จะฝากกรมศิลปากรช่วยเก็บรักษาจนกว่าคดีจะสิ้นสุด 3. ขอให้คณะเจ้าหน้าที่มาร่วมปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมไปถึงฝ่ายทหารและตำรวจ ควรให้แล้วเสร็จเดือนมกราคม 2558
นายบวรเวทกล่าวต่อว่า นอกจากจะเริ่มตรวจสอบของที่ยึดได้แต่ละชิ้นว่ามีชิ้นใดบ้างที่ไม่ควรครอบครอง เช่น เทวรูปหินทราย มีโค้งวงยึดไว้กับฐาน ถ้าเป็นของจริงจะถือว่าเป็นชิ้นที่เก่าและมีคุณค่ามาก เนื่องจากเป็นของศตวรรษที่ 12 ไม่ควรมีไว้ในครอบครองจะถือว่ามีความผิด พ.ร.บ.ครอบครองโบราณวัตถุ ปรับไม่เกิน 5 แสน จำคุกไม่เกิน 5 ปี ซึ่งในกรณีของโบราณวัตถุนั้นมีเป็นแสนชิ้นที่ถูกขึ้นทะเบียนไว้ และหากของชิ้นใดที่มีโบราณวัตถุขึ้นทะเบียนไว้หายไปก็สามารถส่งหลักฐานเข้ามาเพื่อตรวจสอบได้ หากพบว่าเป็นชิ้นเดียวกับที่แจ้งหายไว้ก็จะจัดส่งคืนทันที เช่นเดียวกับโบราณสถานบางชิ้นที่อาจเป็นของต่างชาติ หากพบว่าถูกโจรกรรมหากไปก็สามารถส่งหลักฐานมายืนยันได้ จะมีการจัดส่งคืนไปให้ เนื่องจากบางชิ้นเมื่อดูด้วยตาเปล่าก็สามารถคาดได้ว่าจะเป็นงานศิลปะของต่างชาติ เพราะฝีมือช่างจะต่างจากคนไทยอย่างเห็นได้ชัด ขอให้มั่นใจได้ว่าโบราณวัตถุทุกชิ้นจะมีการตรวจอย่างมีมาตราฐาน เพราะเรามีผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะเป็นผู้ตรวจสอบ
นายบวรเวทกล่าวอีกว่า เบื้องต้นจากที่เห็นของบางชิ้นน่าจะมีอายุเก่าสุดกว่า 1,200 ปี หากไม่ใช่ของที่ทำเลียนแบบขึ้นมาใหม่พวกนี้จะมูลค่ามากขึ้น เมื่อดูจากอายุ ความนิยม ความต้องการในตลาด ทั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 2 เดือน หรือมากกว่านั้นจึงจะแล้วเสร็จ เมื่อตรวจสอบแล้วจะมีการขึ้นทะเบียนให้ชมในเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เพื่อให้ประชาชนเข้ามาตรวจสอบว่าเป็นโบราณวัตถุที่หายไปหรือไม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ของบางชิ้นอาจเป็นของที่ถูกโจรกรรมมา หรือเป็นของที่ถูกซื้อผ่านร้านขายของเก่า สามารถตรวจสอบได้หรือไม่ และมีมาตราการการควบคุมร้านขายของเก่าอย่างไรบ้าง นายบวรเวทตอบว่า สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นของที่ถูกซื้อผ่านร้านค้าของเก่าหรือโจรกรรมมา เนื่องจากการเปิดร้านค้าของเก่าต้องมีการขออนุญาตจึงจะสามารถเปิดได้อย่างถูกกฎหมาย นอกจากนี้ยังต้องทำบัญชีว่าได้ของเก่าชิ้นนั้นมาอย่างไร ขายทอดไปสู่ผู้ใดต้องมีการระบุชัดเจน อย่างไรก็ตาม ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบว่า สามารถเริ่มเข้ามาแจ้งที่สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ได้ทันทีหากสงสัยว่าจะมีโบราณวัตถุที่หายไปอยู่ในของกลางที่ยึดไว้ จะทำการตรวจสอบให้ทันที เพราะขณะที่หลังจากมีข่าวออกไปว่ามีการตรวจยึดของกลางก็มีประชาชน 2-3 รายที่แจ้งเข้ามาแล้วว่ามีโบราณวัตถุที่หายไปอยู่ด้วย