นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. กล่าวว่า การประเมินเศรษฐกิจไทยปีหน้า (2558) จะขยายตัวได้ร้อยละ 4.1 เพราะอัตราการขยายตัวในปีนี้ค่อนข้างต่ำ ประกอบกับเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว แม้จะยังคงเปราะบางก็ตาม โดยแนะนำให้ไทยมุ่งเจาะตลาดสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี หรือ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม พร้อมประเมินการส่งออกปีหน้าว่า จะขยายตัวได้ร้อยละ 3.5
นายเอกนิติ กล่าวอีกว่า รัฐบาลจะต้องเร่งใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 1 ของปีหน้า ต้องเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่มีกว่า 290,000 ล้านบาท เพื่อเป็นแรงสนับสนุนจีดีพีให้โตขึ้นได้
ส่วนตลาดเงินตลาดทุนปีหน้าจะผันผวนมากขึ้น เพราะนโยบายการเงินโลกจะมี 2 ทิศทางด้วยกัน ทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มฟื้นตัว มีการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย อาจทำให้เม็ดเงินไหลกลับไปยังสหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น แต่ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน เศรษฐกิจยังอ่อนแอ จะใช้มาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ทำให้ค่าเงินบาทแข็งขึ้น เทียบกับยูโร และเยน ดังนั้น ผู้ส่งออกและนำเข้าสินค้าต้องใช้ความระมัดระวัง
นายเอกนิติ กล่าวอีกว่า รัฐบาลจะต้องเร่งใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 1 ของปีหน้า ต้องเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่มีกว่า 290,000 ล้านบาท เพื่อเป็นแรงสนับสนุนจีดีพีให้โตขึ้นได้
ส่วนตลาดเงินตลาดทุนปีหน้าจะผันผวนมากขึ้น เพราะนโยบายการเงินโลกจะมี 2 ทิศทางด้วยกัน ทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มฟื้นตัว มีการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย อาจทำให้เม็ดเงินไหลกลับไปยังสหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น แต่ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน เศรษฐกิจยังอ่อนแอ จะใช้มาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ทำให้ค่าเงินบาทแข็งขึ้น เทียบกับยูโร และเยน ดังนั้น ผู้ส่งออกและนำเข้าสินค้าต้องใช้ความระมัดระวัง