ศูนย์วิจัยทองคำ คาดราคาทองเดือนนี้ปรับลดลงต่อ เคลื่อนไหว 17,000-19,000 บาท ห่วงทองคำปี 2558 อาจร่วงถึง 15,000 บาทต่อบาททองคำ หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาด
นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ราคาทองคำในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้าปรับขึ้นได้ค่อนข้างลำบาก และมีโอกาสปรับตัวลงต่อ หลังจากราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญทางเทคนิคที่ 1,150 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ทำให้นักวิเคราะห์ต่างประเทศปรับลดราคาทองคำว่ามีโอกาสปรับลดลงมาอยู่ที่ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งมีความเป็นไปได้
ทั้งนี้ แม้ว่าราคาดังกล่าวจะต่ำกว่าราคาต้นทุนหน้าเหมืองที่ 1,038 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ก็ตาม แต่คงยังไม่เกิดขึ้นภายในปีนี้ เพราะราคาทองคำมีการเก็งกำไร และแรงซื้อกลับที่แนวรับ 1,100-1,050 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แต่ปี 2558 ซึ่งเป็นช่วงราคาทองขาลงอย่างชัดเจนมีโอกาสที่ทองคำจะหลุด 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ได้ หรือประมาณ 15,000-15,500 บาทต่อบาททองคำ ภายใต้ค่าเงินบาทที่ 32.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ทำให้ความน่าสนใจการลงทุนทองคำหมดไป และมีการโยกย้ายการลงทุนไปในเงินฝาก พันธบัตร และตลาดหุ้น
ส่วนแนวโน้มราคาทองคำระยะสั้นเดือนพฤศจิกายนนี้ คาดว่าราคาทองคำยังปรับตัวลดลงอยู่ที่ 1,100-1,220 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศอยู่ระหว่าง 17,000-19,000 บาทต่อบาททองคำ โดยทั้งนักลงทุน และผู้ค้าทองคำมีมุมมองเดียวกัน คือ ยังไม่เข้าลงทุนทองคำในเดือนนี้ สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือนพฤศจิกายน ซึ่งยังต่ำกว่าระดับ 50 จุด อยู่ที่ 46.77 จุด สะท้อนถึงมุมมองเชิงลบต่อราคาทองคำ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำระยะ 3 เดือนข้างหน้า กลับยืนเหนือระดับ 50 จุด อยู่ที่ 53.95 จุด คาดหวังว่าต้นปีหน้าราคาทองคำจะฟื้นตามเทศกาลสำคัญ โดยเฉพาะช่วงเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ แต่ยังมีความกังวลปัจจัยที่ยังกดดันจากการปรับตัวแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความวิตกกังวลต่อการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยหลังเฟด ประกาศยกเลิกนโยบาย QE ส่วนเงินบาทอ่อนตัวส่งผลบวกต่อราคาทองคำในประเทศปรับตัวลงไม่มากเท่าทองคำโลก