ราคาน้ำมันฟื้นตัววานนี้(14พ.ย.) หลังพบข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯและยูโรโซนแข็งแกร่งกว่าคาดหมาย
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.61 ดอลลาร์ ปิดที่ 75.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลดอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม ปิดที่ 1.92 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า การร่วงลงของราคาน้ำมันทำให้มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะลดการผลิตลง โดยบีเอ็นพี พาริบาส์ ระบุในรายงานว่า โอเปคอาจจำเป็นต้องลดการผลิตลง 1-1.5 ล้านบาร์เรล/วัน เพื่อหนุนราคา
โอเปค ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบหนึ่งในสามของโลก จะจัดประชุมที่กรุงเวียนนาในวันที่ 27 พ.ย.นี้ ขณะที่มีรายงานข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ว่า บรรดาสมาชิกโอเปคเรียกร้องให้ทางกลุ่มลดการผลิต แม้อาลี อัล-โอแมร์ รัฐมนตรีน้ำมันคูเวต กล่าวในอาบูดาบีเมื่อวันจันทร์ว่า เขาไม่คิดว่าโอเปคจะตัดสินใจลดการผลิตในการประชุมหนนี้
ราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดี จากความวิตกเกี่ยวกับอุปทานล้นตลาด โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 2.97 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 74.21 ดอลลาร์/บาร์เรล และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง 2.46 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 77.92 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิง ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
โดย EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิงพุ่งขึ้น 1.704 ล้านบาร์เรล แตะที่ 22.5 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 พ.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์พลังงานในสหรัฐ
EIA ระบุว่าการคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบนั้นมีความไม่แน่นอน เนื่องจากความเป็นไปที่ว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงด้านอุปทานจากทางกลุ่มโอเปค โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.61 ดอลลาร์ ปิดที่ 75.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลดอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม ปิดที่ 1.92 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า การร่วงลงของราคาน้ำมันทำให้มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะลดการผลิตลง โดยบีเอ็นพี พาริบาส์ ระบุในรายงานว่า โอเปคอาจจำเป็นต้องลดการผลิตลง 1-1.5 ล้านบาร์เรล/วัน เพื่อหนุนราคา
โอเปค ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบหนึ่งในสามของโลก จะจัดประชุมที่กรุงเวียนนาในวันที่ 27 พ.ย.นี้ ขณะที่มีรายงานข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ว่า บรรดาสมาชิกโอเปคเรียกร้องให้ทางกลุ่มลดการผลิต แม้อาลี อัล-โอแมร์ รัฐมนตรีน้ำมันคูเวต กล่าวในอาบูดาบีเมื่อวันจันทร์ว่า เขาไม่คิดว่าโอเปคจะตัดสินใจลดการผลิตในการประชุมหนนี้
ราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดี จากความวิตกเกี่ยวกับอุปทานล้นตลาด โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 2.97 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 74.21 ดอลลาร์/บาร์เรล และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง 2.46 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 77.92 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิง ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
โดย EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิงพุ่งขึ้น 1.704 ล้านบาร์เรล แตะที่ 22.5 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 พ.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์พลังงานในสหรัฐ
EIA ระบุว่าการคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบนั้นมีความไม่แน่นอน เนื่องจากความเป็นไปที่ว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงด้านอุปทานจากทางกลุ่มโอเปค โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย