เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันวานนี้ (13 พ.ย.) ดิ่งลงต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปี หลังพบปริมาณการผลิตเชื้อเพลิงสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนวอลล์สตรีทขยับขึ้นจากผลประกอบการของบริษทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ ขณะที่ทองคำปิดในกรอบแคบๆ ท่ามกลางข้อมูลภาคแรงงานอเมริกา
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 2.97 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2010 ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 2.46 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับลดต่ำกว่า 80 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกตั้งแต่กันยายน 2010
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (13 พ.ย.) ว่า อเมริกาผลิตน้ำมันถึง 9.063 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 พฤศจิกายน ถือเป็นระดับสูงสุดอย่างน้อยๆ ก็ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 1983 ที่มีการเผยแพร่สถิติเป็นครั้งแรก
ขณะเดียวกัน ตลาดก็พยายามคาดเดาทิศทางของโอเปกท่ามกลางราคาน้ำมันที่ลดต่ำลงเรื่อยๆ โดยเมื่อวันพุธ (12 พ.ย.) นายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดีอาระเบียบอกว่า ข่าวลือเกี่ยวกับสงครามราคาภายในกลุ่มเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่ก็ไม่ยืนยันว่าประเทศของเขาสนับสนุนเสียงเรียกร้องของสมาชิกบางประเทศในกลุ่มที่ต้องการให้มีการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบหรือไม่
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี (13 พ.ย.) ปิดบวกพอสมควร โดยดาวโจนส์ยังเดินหน้าทุบสถิติตลอดกาล หลังได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่อย่างวอลล์มาร์ท
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 40.59 จุด (0.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,652.79 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.08 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,039.33 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 5.00 จุด (0.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,680.14 จุด
หุ้นของวอล์มาร์ททะยานถึงร้อยละ 4.7 หลังมีผลประกอบการช่วงไตรมาส 3 แข็งแกร่งเกินคาดหมาย
ด้านราคาทองคำวานนี้ (13 พ.ย.) ทรงตัวในกรอบแคบๆ นักลงทุนทบทวนข้อมูลผู้ยื่นขอใช้สิทธิประโยชน์จากการว่างงานรายสัปดาห์ในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น 290,000 คน เหนือกว่าที่คาดไว้ แต่ก็ยังอยู่ในระดับใกล้ๆต่ำที่สุดในรอบ 14 ปีและยังต่ำกว่า 300,000 คนเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,161.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์