พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม คาดว่า จะนำเสนอครม.อนุมัติโครงการการพัฒนาและขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 ในเดือนพ.ย.นี้ กรอบวงเงินลงทุน 62,000 – 79,000 ล้านบาท แม้ว่าโครงการนี้จะได้ตัดงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านตะวันออก วงเงิน 6,780 ล้านบาท แต่ได้นำโครงการใหม่คืองานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ หรือ Multi terminal ด้านทิศเหนืออาคารเทียบเครื่องบิน A พร้อมระบบโมโนเรลของบมจ.ท่าอาศยานไทย(AOT) หรือ ทอท.วงเงิน 29,000 ล้านบาทแทน รวมทั้งทางวิ่งอากาศยานเส้นที่ 3 (รันเวย์ 3) วงเงิน 19,000 ล้านบาทเพิ่มด้วย
“แม้จะมีโครงการใหม่ของ ทอท. แต่จะพยายามไม่ให้เงินลงทุนเกินกรอบ 62,503 ล้านบาท โดยจะนำเงินบางส่วนจากโครงการอื่นมาลงทุนแทน เช่น อาคารผู้โดยสารด้านตะวันออกจะย้ายไปสร้างด้านทิศเหนืออาคารเทียบเครื่องบิน A รวมกับโครงการใหม่ที่ ทอท.เสนอ ปรับลดค่าก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 เหลือการใช้งานตรงกับความต้องการมากที่สุด ซึ่งจะเสนอให้ ครม.อนุมัติเดือนพฤศจิกายนนี้" รมว.คมนาคม กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่าการประมูลก่อสร้างจะเริ่มต้นปี 2558 สำหรับการก่อสร้างแบ่งเป็น 2 ระยะตามความเร่งด่วนโครงการ ระยะแรกเดินหน้าโครงการตามแผนงานเดิมที่ ครม.อนุมัติไว้ ได้แก่ อาคารเทียบเครื่องบินรอง (Midfield Satellite) หลังที่ 1 วงเงิน 27,864 ล้านบาท งานก่อสร้างหลุมจอดอากาศยาน 28 หลุมจอด 4,907 ล้านบาท อุโมงค์และระบบขนส่งผู้โดยสาร (APM) 7,973 ล้านบาท ระบบสาธารณูปโภค 2,693 ล้านบาท และอาคารจอดรถ 625 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเร่งก่อสร้างรันเวย์ที่ 3 หรือรันเวย์สำรอง โดยให้มาอยู่ระยะแรกก่อสร้างเสร็จใน 2 ปี เพื่อรองรับการซ่อมใหญ่รันเวย์ที่ 1และ 2 เนื่องจากปัจจุบันทางวิ่งที่ 1 และ2 ใช้งานมา 8 ปี เมื่อถึงปีที่ 10 จะต้องมีการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่
ส่วนโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ที่จะทดแทนงานขยายอาคารผู้โดยสารด้านตะวันออก เนื่องจากพื้นที่เดิมไม่เพียงพอรองรับผู้โดยสารนั้น อาคารหลังใหม่ที่ ทอท.เสนอจะรองรับผู้โดยสารในประเทศและต่างประเทศจะอยู่ระยะ 2 เพราะต้องทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) คาดใช้เวลา 1 ปี
“แม้จะมีโครงการใหม่ของ ทอท. แต่จะพยายามไม่ให้เงินลงทุนเกินกรอบ 62,503 ล้านบาท โดยจะนำเงินบางส่วนจากโครงการอื่นมาลงทุนแทน เช่น อาคารผู้โดยสารด้านตะวันออกจะย้ายไปสร้างด้านทิศเหนืออาคารเทียบเครื่องบิน A รวมกับโครงการใหม่ที่ ทอท.เสนอ ปรับลดค่าก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 เหลือการใช้งานตรงกับความต้องการมากที่สุด ซึ่งจะเสนอให้ ครม.อนุมัติเดือนพฤศจิกายนนี้" รมว.คมนาคม กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่าการประมูลก่อสร้างจะเริ่มต้นปี 2558 สำหรับการก่อสร้างแบ่งเป็น 2 ระยะตามความเร่งด่วนโครงการ ระยะแรกเดินหน้าโครงการตามแผนงานเดิมที่ ครม.อนุมัติไว้ ได้แก่ อาคารเทียบเครื่องบินรอง (Midfield Satellite) หลังที่ 1 วงเงิน 27,864 ล้านบาท งานก่อสร้างหลุมจอดอากาศยาน 28 หลุมจอด 4,907 ล้านบาท อุโมงค์และระบบขนส่งผู้โดยสาร (APM) 7,973 ล้านบาท ระบบสาธารณูปโภค 2,693 ล้านบาท และอาคารจอดรถ 625 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเร่งก่อสร้างรันเวย์ที่ 3 หรือรันเวย์สำรอง โดยให้มาอยู่ระยะแรกก่อสร้างเสร็จใน 2 ปี เพื่อรองรับการซ่อมใหญ่รันเวย์ที่ 1และ 2 เนื่องจากปัจจุบันทางวิ่งที่ 1 และ2 ใช้งานมา 8 ปี เมื่อถึงปีที่ 10 จะต้องมีการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่
ส่วนโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ที่จะทดแทนงานขยายอาคารผู้โดยสารด้านตะวันออก เนื่องจากพื้นที่เดิมไม่เพียงพอรองรับผู้โดยสารนั้น อาคารหลังใหม่ที่ ทอท.เสนอจะรองรับผู้โดยสารในประเทศและต่างประเทศจะอยู่ระยะ 2 เพราะต้องทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) คาดใช้เวลา 1 ปี