โฆษกสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เปิดเผยเมื่อวันที่ 25ต.ค.ว่า การฝึกร่วมทางทหารประจำปีระหว่างสหรัฐ ไทยและหลายชาติภายใต้ชื่อรหัส"คอบร้าโกลด์ " จะยังคงจัดขึ้นที่ไทยประมาณเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า แต่จะลดขนาดการฝึกซ้อมลง เน้นปฏิบัติการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและภัยพิบัติแทน อย่างไรก็ตามทางการสหรัฐจะยังระงับความช่วยเหลือทางการทหารด้านต่างๆ แก่ไทยจนกว่าไทยจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิ.ย.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริการะบุว่า สหรัฐกำลังพิจารณาย้ายการซ้อมรบร่วมประจำปี "คอบร้า โกลด์" ซึ่งเป็นการซ้อมรบร่วมแบบพหุภาคีขนาดใหญ่สุดของกองทัพสหรัฐในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ออกนอกประเทศไทยรวมถึงตัดงบประมาณสนับสนุนทางการทหารแก่ไทยกว่า 4.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 150 ล้านบาท เพื่อตอบโต้กรณีการยึดอำนาจการปกครองของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อเดือนพ.ค.
คอบร้าโกลด์ (Cobra Gold) เป็นการฝึกร่วม/ผสมทางการทหารระดับพหุภาคีที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในประ เทศไทย เริ่มครั้งแรกจากการฝึกทวิภาคีระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกาเมื่อปี พ.ศ.2523 ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นแบบ พหุภาคี โดยมีประเทศอื่นๆ เข้าร่วม ได้แก่ สิงคโปร์ อินโด นีเซีย และญี่ปุ่น วัตถุประสงค์ของการฝึกคือ ปรับปรุงการทำงานร่วมกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างชาติต่างๆ ที่เข้าร่วมในการฝึก นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมความสงบสุขและความมั่นคงในภูมิภาค การฝึกร่วมล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้มีทหารเข้าร่วมประมาณ 13,000 นาย
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมิ.ย.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริการะบุว่า สหรัฐกำลังพิจารณาย้ายการซ้อมรบร่วมประจำปี "คอบร้า โกลด์" ซึ่งเป็นการซ้อมรบร่วมแบบพหุภาคีขนาดใหญ่สุดของกองทัพสหรัฐในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ออกนอกประเทศไทยรวมถึงตัดงบประมาณสนับสนุนทางการทหารแก่ไทยกว่า 4.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 150 ล้านบาท เพื่อตอบโต้กรณีการยึดอำนาจการปกครองของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อเดือนพ.ค.
คอบร้าโกลด์ (Cobra Gold) เป็นการฝึกร่วม/ผสมทางการทหารระดับพหุภาคีที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในประ เทศไทย เริ่มครั้งแรกจากการฝึกทวิภาคีระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกาเมื่อปี พ.ศ.2523 ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นแบบ พหุภาคี โดยมีประเทศอื่นๆ เข้าร่วม ได้แก่ สิงคโปร์ อินโด นีเซีย และญี่ปุ่น วัตถุประสงค์ของการฝึกคือ ปรับปรุงการทำงานร่วมกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างชาติต่างๆ ที่เข้าร่วมในการฝึก นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมความสงบสุขและความมั่นคงในภูมิภาค การฝึกร่วมล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้มีทหารเข้าร่วมประมาณ 13,000 นาย