เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีนได้โพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า
วันนี้เห็นข่าว คสช.ส่งรักษาการปลัดกระทรวงกลาโหม และตัวแทนเหล่าทัพไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการเพืีอกระชับความสัมพันธ์ทางการทหาร
คงะป็นข่าวที่ขยี้หัวใจสหรัฐหนักขึ้นอีก เพราะก่อนหน้านี้ เมื่อ 3 วันที่ผ่านมาหัวหน้า คสช. ก็เปิดห้องต้อนรับนักธุรกิจชาวจีน ซึ่งถือเป็นนักลงทุนต่างชาติกลุ่มแรกที่ คสช.เปิดห้องพูดคุยอย่างเป็นทางการ และบรรยากาศจบลงอย่างชื่นมื่น
การเดินทางไปจีนของคณะทหารไทย คงถือเป็นเรื่องปกติและคงไม่มีนัยยะอะไรต้องตีความ แต่เผอิญว่าบริบทของสถานการณ์ เกิดขึ้นหลัง คสช.ยึดอำนาจ และเป็นการยึดอำนาจในช่วงที่ภูมิภาคอาเซียนกำลังจะเดินเข้าสู่ AEC ในปีหน้าอย่างเต็มตัว
การเปลี่ยนแปลงใหญ่ของการเมืองไทย ที่ทหารพาเหรดเข้ามามีบทบาทมากแบบนี้ ย่อมสะเทือนไปทั้งภูมิภาคอาเซียน และโดยเฉพาะงานด้านการทหารและยุทธศาสตร์ความมั่นคงของสหรัฐ หลังโอบามาขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ประกาศชัดว่าแถบอาเซียนและแปซิฟิกคือ ไข่แดง ของสหรัฐฯ
เป็นไข่แดงทั้งทางทหาร และการรุกทางเศรษฐกิจ ที่จีน อินเดีย และอาเซียน เป็นตลาดใหญ่แห่งใหม่ของโลกไปแล้ว
ต้องจับตาผลการเยือนจีน ของคณะทหารไทยครั้งนี้ ถ้าระดับการกระชับทางทหารระหว่างไทย-จีน ยกระดับถึงขั้นเป็น "การซัอมรบ" ร่วมกันครั้งใหญ ที่อาจใหญ่กว่า เมือปี 2010 ที่เรียกว่า ปรากฎการณ์ Strike 2010 เพราะครั้งนั้นถือเป็นครั้งแรกที่หน่วยรบรบพิเศษจีนออกนอกประเทศ โดยมาร่วมซ้อมรบกับกองทัพเรือไทย
จนหลายคนมองว่าเป็นยุทธการยุทธการสั่นคลอน Cobra Gold! ซึ่งเป็นการซ้อมรบร่วมไทย-สหรัฐ
งานนี้อาจสะเทือนเลื่อนลั่น สนั่นโลกแน่
วันนี้เห็นข่าว คสช.ส่งรักษาการปลัดกระทรวงกลาโหม และตัวแทนเหล่าทัพไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการเพืีอกระชับความสัมพันธ์ทางการทหาร
คงะป็นข่าวที่ขยี้หัวใจสหรัฐหนักขึ้นอีก เพราะก่อนหน้านี้ เมื่อ 3 วันที่ผ่านมาหัวหน้า คสช. ก็เปิดห้องต้อนรับนักธุรกิจชาวจีน ซึ่งถือเป็นนักลงทุนต่างชาติกลุ่มแรกที่ คสช.เปิดห้องพูดคุยอย่างเป็นทางการ และบรรยากาศจบลงอย่างชื่นมื่น
การเดินทางไปจีนของคณะทหารไทย คงถือเป็นเรื่องปกติและคงไม่มีนัยยะอะไรต้องตีความ แต่เผอิญว่าบริบทของสถานการณ์ เกิดขึ้นหลัง คสช.ยึดอำนาจ และเป็นการยึดอำนาจในช่วงที่ภูมิภาคอาเซียนกำลังจะเดินเข้าสู่ AEC ในปีหน้าอย่างเต็มตัว
การเปลี่ยนแปลงใหญ่ของการเมืองไทย ที่ทหารพาเหรดเข้ามามีบทบาทมากแบบนี้ ย่อมสะเทือนไปทั้งภูมิภาคอาเซียน และโดยเฉพาะงานด้านการทหารและยุทธศาสตร์ความมั่นคงของสหรัฐ หลังโอบามาขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ประกาศชัดว่าแถบอาเซียนและแปซิฟิกคือ ไข่แดง ของสหรัฐฯ
เป็นไข่แดงทั้งทางทหาร และการรุกทางเศรษฐกิจ ที่จีน อินเดีย และอาเซียน เป็นตลาดใหญ่แห่งใหม่ของโลกไปแล้ว
ต้องจับตาผลการเยือนจีน ของคณะทหารไทยครั้งนี้ ถ้าระดับการกระชับทางทหารระหว่างไทย-จีน ยกระดับถึงขั้นเป็น "การซัอมรบ" ร่วมกันครั้งใหญ ที่อาจใหญ่กว่า เมือปี 2010 ที่เรียกว่า ปรากฎการณ์ Strike 2010 เพราะครั้งนั้นถือเป็นครั้งแรกที่หน่วยรบรบพิเศษจีนออกนอกประเทศ โดยมาร่วมซ้อมรบกับกองทัพเรือไทย
จนหลายคนมองว่าเป็นยุทธการยุทธการสั่นคลอน Cobra Gold! ซึ่งเป็นการซ้อมรบร่วมไทย-สหรัฐ
งานนี้อาจสะเทือนเลื่อนลั่น สนั่นโลกแน่