เหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรปเมื่อวันจันทร์(20ต.ค.) เห็นพ้องเพิ่มความพยายามจำกัดการแพร่ระบาดของอีโบลา เพื่อป้องกันไม่ให้มันกลายเป็นภัยคุกคามโลก ในนั้นรวมถึงใช้มาตรการต่างๆเพื่อรับประกันว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนานาชาติจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
ถ้อยแถลงของเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศ 28 ชาติสมาชิกอียู หลังเสร็จสิ้นการประชุมที่ลักเซมเบิร์ก ระบุว่า "สิ่งจำเป็นสำหรับควบคุมการแพร่ระบาดคือทุกชาติต้องมีความสามัคคีและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เช่นเดียวกับเพิ่มความพยายามให้มากขึ้น" พร้อมชี้ว่าเหล่าประเทศที่ได้รับผลกระทบและชาติเพื่อนบ้านจำเป็นต้องการได้รับความช่วยเหลือตามความจำเป็นและอย่างเหมาะสม
ผลสรุปของการหารือครั้งนี้จะหยิบยกไปพูดคุย ณ ที่ประชุมซัมมิทของเหล่าผู้นำอียู ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ระหว่างวันพฤหัสบดี(23) และวันศุกร์(24)นี้ ซึ่งจะเป็นอีกครั้งที่วิกฤตอีโบลาจะเป็นหัวข้อหลักของการประชุม
เหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศเห็นพ้องว่าคณะกรรมาธิการยุโรปควรหามาตรการดูแลทีมงานด้านการแพทย์นานาชาติอย่างเหมาะสม ในนั้นรวมถึงทางเลือกสำหรับการอพยพทางการแพทย์เพื่อรับประกันว่าเจ้าหน้าที่ซึ่งประจำการอยู่แถวหน้าจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดให้พ้นจากเงื้อมมืออีโบลาที่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีวัคซีนหรือยารักษา
มาตรการดังกล่าวถือเป็นประเด็นหลักของความพยายามเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ต่างชาติเข้าไปยังไลบีเรีย เซียร์ราลีโอนและกินี เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของอีโบลา ซึ่งจนถึงตอนนี้คร่าชีวิตชาวบ้านใน 3 ประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดข้างต้นมากกว่า 4,500 ศพแล้ว
ทั้งนี้ที่ประชุมยังบอกด้วยว่ามีความจำเป็นที่ต้องจัดตั้งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขอาสาสมัครจากประเทศสมาชิกอียูให้เร็วที่สุดและมีเป้าหมายคือส่งเข้าไปประจำการในพื้นที่ต่างๆที่ต้องเผชิญกับวิกฤตด้านสาธารณสุข "อียูควรวางเป้าหมายช่วยเหลือประเทศที่ได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการป้องกันตนเองจากอีโบลาแก่พวกเขา" ถ้อยแถลงระบุ
ถ้อยแถลงของเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศ 28 ชาติสมาชิกอียู หลังเสร็จสิ้นการประชุมที่ลักเซมเบิร์ก ระบุว่า "สิ่งจำเป็นสำหรับควบคุมการแพร่ระบาดคือทุกชาติต้องมีความสามัคคีและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เช่นเดียวกับเพิ่มความพยายามให้มากขึ้น" พร้อมชี้ว่าเหล่าประเทศที่ได้รับผลกระทบและชาติเพื่อนบ้านจำเป็นต้องการได้รับความช่วยเหลือตามความจำเป็นและอย่างเหมาะสม
ผลสรุปของการหารือครั้งนี้จะหยิบยกไปพูดคุย ณ ที่ประชุมซัมมิทของเหล่าผู้นำอียู ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ระหว่างวันพฤหัสบดี(23) และวันศุกร์(24)นี้ ซึ่งจะเป็นอีกครั้งที่วิกฤตอีโบลาจะเป็นหัวข้อหลักของการประชุม
เหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศเห็นพ้องว่าคณะกรรมาธิการยุโรปควรหามาตรการดูแลทีมงานด้านการแพทย์นานาชาติอย่างเหมาะสม ในนั้นรวมถึงทางเลือกสำหรับการอพยพทางการแพทย์เพื่อรับประกันว่าเจ้าหน้าที่ซึ่งประจำการอยู่แถวหน้าจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดให้พ้นจากเงื้อมมืออีโบลาที่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีวัคซีนหรือยารักษา
มาตรการดังกล่าวถือเป็นประเด็นหลักของความพยายามเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ต่างชาติเข้าไปยังไลบีเรีย เซียร์ราลีโอนและกินี เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของอีโบลา ซึ่งจนถึงตอนนี้คร่าชีวิตชาวบ้านใน 3 ประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดข้างต้นมากกว่า 4,500 ศพแล้ว
ทั้งนี้ที่ประชุมยังบอกด้วยว่ามีความจำเป็นที่ต้องจัดตั้งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขอาสาสมัครจากประเทศสมาชิกอียูให้เร็วที่สุดและมีเป้าหมายคือส่งเข้าไปประจำการในพื้นที่ต่างๆที่ต้องเผชิญกับวิกฤตด้านสาธารณสุข "อียูควรวางเป้าหมายช่วยเหลือประเทศที่ได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการป้องกันตนเองจากอีโบลาแก่พวกเขา" ถ้อยแถลงระบุ