นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ. ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มบริการ ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2557 นี้ FSMART เป็นหนึ่งในบริษัทย่อยของ บมจ. ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนใน SET ที่เล็งเห็นความสำคัญในการต่อยอดธุรกิจให้เติบโต โดยใช้ตลาดทุนเป็นแหล่งเงินทุนในการสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน จึงนำ FSMART เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในรูปแบบ Spin 0ff
FSMART เป็นผู้นำการให้บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือประเภทเติมเงินล่วงหน้า (Pre-paid) และบริการชำระเงินออนไลน์ อาทิ เติมเงินเกมส์ออนไลน์ ซื้อบัตรโทรศัพท์ต่างประเทศ ซื้อรหัสอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย ซื้อชั่วโมงอินเทอร์เน็ต โดยให้บริการผ่านเครื่องชำระเงินอัตโนมัติ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “บุญเติม” ซึ่งบริษัทบริหารผ่านผู้แทนบริการตามระบบแฟรนซายส์ และดำเนินการร่วมกับผู้แทนบริการที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ อาทิ เซเว่น อีเลฟเว่น แฟมิลี่มาร์ท ลอว์สัน เทสโก้ โลตัส รถไฟฟ้าบีทีเอส ณ 30 มิถุนายน 2557 บริษัทมีตู้ “บุญเติม” รวม 37,311 ตู้
FSMART มีทุนชำระแล้ว 400 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 600 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นของ FORTH จำนวน 96 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 1-3 ตุลาคม 2557 และเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) 104 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 6-8 ตุลาคม 2557 ในราคาหุ้นละ 2.50 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 500 ล้านบาท โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ FSMART เปิดเผยว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนเพิ่มจำนวนตู้เติมเงิน “บุญเติม” เพื่อขยายไปในพื้นที่ต่างๆ ให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น และด้วยจุดเด่นของบริการที่หลากหลาย ใช้งานง่ายของตู้เติมเงิน “บุญเติม” พร้อมกับระบบ Call Center ให้คำปรึกษาหรือแก้ไขปัญหาการใช้งานกับลูกค้าตลอด 24 ชม. ล้วนเป็นปัจจัยส่งเสริมให้บริษัทเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
FSMART มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ FORTH ถือหุ้น 45.75% กลุ่มอมตานนท์ ถือหุ้น 6.47% และนางมนต์ทิพย์ วิทยากร ถือหุ้น 5.23% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นครั้งนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 16.67 เท่า คำนวณจากผลประกอบการในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (1 กรกฎาคม 2556 - 30 มิถุนายน 2557) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.15 บาท ทั้งนี้บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีและสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.boonterm.com และที่เว็บไซต์ www.mai.or.th
FSMART เป็นผู้นำการให้บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือประเภทเติมเงินล่วงหน้า (Pre-paid) และบริการชำระเงินออนไลน์ อาทิ เติมเงินเกมส์ออนไลน์ ซื้อบัตรโทรศัพท์ต่างประเทศ ซื้อรหัสอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย ซื้อชั่วโมงอินเทอร์เน็ต โดยให้บริการผ่านเครื่องชำระเงินอัตโนมัติ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “บุญเติม” ซึ่งบริษัทบริหารผ่านผู้แทนบริการตามระบบแฟรนซายส์ และดำเนินการร่วมกับผู้แทนบริการที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ อาทิ เซเว่น อีเลฟเว่น แฟมิลี่มาร์ท ลอว์สัน เทสโก้ โลตัส รถไฟฟ้าบีทีเอส ณ 30 มิถุนายน 2557 บริษัทมีตู้ “บุญเติม” รวม 37,311 ตู้
FSMART มีทุนชำระแล้ว 400 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 600 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นของ FORTH จำนวน 96 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 1-3 ตุลาคม 2557 และเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) 104 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 6-8 ตุลาคม 2557 ในราคาหุ้นละ 2.50 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 500 ล้านบาท โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ FSMART เปิดเผยว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนเพิ่มจำนวนตู้เติมเงิน “บุญเติม” เพื่อขยายไปในพื้นที่ต่างๆ ให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น และด้วยจุดเด่นของบริการที่หลากหลาย ใช้งานง่ายของตู้เติมเงิน “บุญเติม” พร้อมกับระบบ Call Center ให้คำปรึกษาหรือแก้ไขปัญหาการใช้งานกับลูกค้าตลอด 24 ชม. ล้วนเป็นปัจจัยส่งเสริมให้บริษัทเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
FSMART มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ FORTH ถือหุ้น 45.75% กลุ่มอมตานนท์ ถือหุ้น 6.47% และนางมนต์ทิพย์ วิทยากร ถือหุ้น 5.23% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นครั้งนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 16.67 เท่า คำนวณจากผลประกอบการในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (1 กรกฎาคม 2556 - 30 มิถุนายน 2557) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.15 บาท ทั้งนี้บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีและสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.boonterm.com และที่เว็บไซต์ www.mai.or.th