นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ขณะนี้ในหลายพื้นที่ภาคใต้ มีฝนตกหนัก มีน้ำท่วมขัง และพื้นดินชื้นแฉะ อาจมีเชื้อโรคฉี่หนู หรือ โรคเลปโตสไปโรซีส (Leptospirosis) ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ที่ไตของหนู และหนูฉี่ออกมาปนเปื้อนในน้ำ สามารถเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล หรือรอยถลอกที่ผิวหนังของผู้ที่ย่ำพื้นดิน หรือแอ่งน้ำ ที่มีการปนเปื้อนของเชื้อโรคได้ จึงขอให้ประชาชนระมัดระวัง
ทั้งนี้ จากข้อมูลของกลุ่มระบาดวิทยาและข่าวกรอง สคร.11 นศ. พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา ถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยโรคฉี่หนูในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนแล้ว 205 ราย เสียชีวิต 3 ราย ดังนั้น หากประชาชนเดินลุยน้ำ หรือ เดินที่พื้นดินชื้นแฉะต้องสวมรองเท้ายาง และรีบล้างทำความสะอาดทันทีเมื่อเสร็จภารกิจ ดูแลกำจัดแหล่งเพาะพันธ์หนู และหากพบมีอาการมีอาการไข้สูงทันทีทันใด ปวดศีรษะปวดตามกล้ามเนื้อมาก โดยเฉพาะที่น่องโคนขาทั้ง 2 ข้าง ตาแดงทั้ง 2 ข้าง และเลือดออกที่เยื่อบุตาขาว ภายใน 2 วัน อาการไม่ดีขึ้น ขอให้รีบพบแพทย์ และต้องแจ้งประวัติการลุยน้ำย่ำโคลนทุกครั้ง ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง เนื่องจากอาจทำให้ไปรับการรักษาล่าช้า เชื้อโรคลุกลามทำลายอวัยวะภายใน เช่น ไต ปอดรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
ทั้งนี้ จากข้อมูลของกลุ่มระบาดวิทยาและข่าวกรอง สคร.11 นศ. พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา ถึงปัจจุบัน มีผู้ป่วยโรคฉี่หนูในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนแล้ว 205 ราย เสียชีวิต 3 ราย ดังนั้น หากประชาชนเดินลุยน้ำ หรือ เดินที่พื้นดินชื้นแฉะต้องสวมรองเท้ายาง และรีบล้างทำความสะอาดทันทีเมื่อเสร็จภารกิจ ดูแลกำจัดแหล่งเพาะพันธ์หนู และหากพบมีอาการมีอาการไข้สูงทันทีทันใด ปวดศีรษะปวดตามกล้ามเนื้อมาก โดยเฉพาะที่น่องโคนขาทั้ง 2 ข้าง ตาแดงทั้ง 2 ข้าง และเลือดออกที่เยื่อบุตาขาว ภายใน 2 วัน อาการไม่ดีขึ้น ขอให้รีบพบแพทย์ และต้องแจ้งประวัติการลุยน้ำย่ำโคลนทุกครั้ง ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง เนื่องจากอาจทำให้ไปรับการรักษาล่าช้า เชื้อโรคลุกลามทำลายอวัยวะภายใน เช่น ไต ปอดรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้