หนองคาย - สาธารณสุขจังหวัดเตือนระวังโรคเมลิออยโดสิส อาการคล้ายฉี่หนูแต่รุนแรงกว่า เผยป่วยแล้ว 14 ราย เสียชีวิต 5 ราย แนะเกษตรกรลุยน้ำย่ำโคลนต้องระวัง
วันนี้ (8 ก.ค.) นายแพทย์วิวรรธน์ ก่อวิริยกมล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า ช่วงฤดูฝนจะมีโรคเมลิออยโดสิส ซึ่งไม่ใช่โรคใหม่ แต่เกิดขึ้นนานกว่า 50 ปีแล้ว เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย อาการของโรคจะคล้ายกับโรคเลปโตสไปโรซีสหรือฉี่หนู แต่ความรุนแรงจะมีมากกว่า ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 1 ก.ค.ที่ผ่านมาประเทศไทยมีรายงานผู้ป่วยโรคเมลิออยโดสิสทั้งหมด 1,252 ราย พบมากที่ภาคเหนือและภาคอีสาน
โดย จ.หนองคายมีผู้ป่วยที่ผลการตรวจเพาะเชื้อยืนยันทางห้องปฏิบัติการ 14 ราย เสียชีวิตแล้ว 5 ราย สูงเป็นอันดับแรกของสาเหตุการตายด้วยโรคเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา
ทั้งนี้ โรคเมลิออยโดสิสไม่มีชื่อเป็นภาษาไทย ส่วนใหญ่จะเกิดแก่ผู้ที่ต้องลุยน้ำย่ำโคลน โดยเฉพาะแก่เกษตรกรชาวไร่ ชาวนา ยิ่งในช่วงที่ต้องไถหว่าน ปักดำ นับเป็นช่วงที่พบการติดเชื้อนี้ได้ง่าย โดยมีสัตว์เป็นพาหะนำโรค ทั้งแพะ แกะ หมู วัว และหนู ที่มักจะปล่อยของเสียในธรรมชาติ ก็จะมีเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรค
เมื่อคนที่มีแผลอยู่แล้ว หรือแช่น้ำย่ำโคลนเป็นเวลานานจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเจ็บป่วยด้วยโรคนี้ได้ แต่เป็นโรคที่ไม่ติดต่อจากคนสู่คน ส่วนสัตว์ก็สามารถเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน ผู้ที่หลีกเลี่ยงการลุยน้ำย่ำโคลนไม่ได้ให้ป้องกันด้วยการสวมรองเท้าบูต หลีกเลี่ยงการแช่น้ำเป็นเวลานานๆ เมื่อขึ้นจากน้ำแล้วให้รีบล้างมือ ล้างเท้า ทำความสะอาดร่างกาย
แต่หากมีการติดเชื้อ มีผื่น มีแผลตามร่างกาย ปวดตามข้อ กระดูก และเชื้อจะเข้าปอด ทำให้เป็นปอดบวมแทรกซ้อนได้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค เพียงแต่รักษาตามอาการ ดังนั้นเมื่อมีอาการต้องสงสัยให้รีบพบแพทย์ทันที
สำหรับสถานการณ์โรคเลปโตสไปโรซีสหรือฉี่หนูในพื้นที่ จ.หนองคาย มีผู้ป่วย 7 ราย เป็นเพศชายทั้งหมด และไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งช่วงฤดูฝนจะต้องเฝ้าระวังโรคฉี่หนู และโรคเมลิออยโดสิสเป็นสำคัญ