แพทย์เตือนระวังโรคและอุบัติเหตุจากน้ำท่วม

นายแพทย์สอาด วีระเจริญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ กล่าวถึงโรคที่มากับน้ำท่วม ว่า โรคผิวหนัง เช่น น้ำกัดเท้า โรคผิวหนังจากเชื้อรา เกิดจากการย่ำหรือแช่น้ำที่มีเชื้อโรค ควรหลีกเลี่ยงการลุยน้ำ หรือสวมรองเท้าบู๊ตป้องกัน หากมีบาดแผลให้เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ และเบตาดีน โรคตาแดง เกิดจากติดเชื้อไวรัส โดยสัมผัสน้ำตา ขี้ตา ใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วยตาแดง มักหายได้เองใน 1-2 วัน การป้องกันควรรีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดเมื่อมีฝุ่นเข้าตา ไม่ขยี้ตา อย่าให้แมลงตอมตา โรคปอดบวม ติดต่อโดยหายใจเอาเชื้อโรคในอากาศเข้าไป คลุกคลีกับผู้ป่วย ไอ จามรดกัน ถ้าเป็นมากจะหายใจหอบเหนื่อยจนชายโครงบุ๋ม ต้องรีบพบแพทย์ และควรสวมหน้ากากอนามัยป้องกันแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น โรคอุจจาระร่วงและอาหารเป็นพิษ โดยการดื่มน้ำ หรือกินอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าไป ผู้ป่วยจะมีอาการถ่ายเหลว ถ่ายเป็นน้ำ อาเจียน ควรดื่มน้ำหรืออาหารเหลวมากๆ ดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ (โอ อาร์ เอส) ล้างมือให้สะอาด หากอาเจียนหรือถ่ายมากควรพบแพทย์
สำหรับโรคฉี่หนู เชื้อจะเข้าทางบาดแผลหรือเยื่อบุอ่อนๆ กินอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคฉี่หนู ควรหลีกเลี่ยงลุยน้ำนานๆ สวมรองเท้าบู้ทป้องกันเมื่อลุยน้ำ หากมีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อโดยเฉพาะน่องและโคนขา และรีบไปพบแพทย์ ช่วงนี้ควรระวังสัตว์มีพิษ เช่น ตะขาบ งู ที่หนีน้ำมา หากถูกกัดควรล้างแผลด้วยน้ำสะอาดห้ามกรีดแผล ดูดแผล ห้ามใช้ไปจี้แผล หรือดื่มสุรา ไม่ควรขันชะเนาะเพราะเนื้อเยื่อจะขาดเลือดไปเลี้ยงเกิดเป็นเนื้อตายได้ ควรรีบพาไปพบแพทย์ พร้อมแจ้งลักษณะงูที่กัด หรือนำซากงูไปด้วย การป้องกันจมน้ำ ควรสวมชูชีพ หรือเตรียมอุปกรณ์ที่ช่วยลอยตัวในน้ำ ไม่ควรลงเล่นน้ำช่วงน้ำท่วม หากพบคนจมน้ำควรหาอุปกรณ์ช่วยเหลือ เช่น เชือก ไม้เพื่อโยนลงไปช่วยเหลือ การป้องกันไฟฟ้าดูด ก่อนน้ำท่วมให้รีบขนย้ายอุปกรณ์ไฟฟ้าถอดปลั๊ก และเก็บไว้ที่สูง ห้ามแตะสวิตช์ไฟหากตัวเปียก การป้องกันวัตถุแหลมคม ควรเก็บกวาดขยะ เช่น ตะปู และสวมรองเท้าบู๊ตเมื่อเดินในน้ำ หากเกิดบาดแผลให้ล้างด้วยน้ำสะอาด ซับให้แห้ง เช็ดแอลกอฮอล์ แล้วใส่ยาฆ่าโรค