เชียงราย - สสจ.เชียงรายขอเวลา 2 วันเพาะเชื้อถึงจะทราบสาเหตุอาการป่วยของนักเรียนกว่า 100 คนที่กินข้าวมันไก่ในงานบุญว่าเกิดจากเชื้ออะไร เผยเหลือนักเรียนนอน รพ.อีก 6 คน พ้นขีดอันตรายหมดแล้ว
รายงานข่าวจาก จ.เชียงรายแจ้งว่า วันนี้ (13 ก.ค.) นักเรียนจากโรงเรียนสามัคคีพัฒนา บ้านม้งเก้าหลัง ม.9 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง ชายแดนไทย-พม่า ประมาณ 160 คนที่ถูกนำตัวส่งไปรับการรักษาในโรงพยาบาลแม่จัน และโรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง ได้ทยอยเดินทางกลับบ้าน หลังจากทั้งหมดมีอาการอาเจียนและอุจจาระร่วงอย่างรุนแรง หลังรับประทานข้าวมันไก่ภายในงานเทศกาลเข้าพรรษา ซึ่งทางโรงเรียนและหมู่บ้านจัดขึ้น เหตุเกิดวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ ด.ญ.ดาวกระจาย หมื่อแล อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 อาศัยอยู่เลขที่ 51/พ บ้านม้งเก้าหลัง เสียชีวิต
นายแพทย์ชำนาญ หาญสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า มีเด็กนักเรียนที่ต้องได้รับการรักษากว่า 60 คนจากจำนวนทั้งหมดเพราะที่เหลือไม่จำเป็นต้องรักษา ส่วนที่ยังป่วยอยู่ก็อาการดีขึ้นตามลำดับ ปัจจุบันเหลือที่ยังนอนในโรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง และโรงพยาบาลแม่จัน รวม 4 คน อีก 2 คนส่งไปโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
แต่จากการติดตามอาการพบว่าพ้นขีดอันตรายและดีขึ้นตามลำดับแล้ว ทั้งนี้อาการที่พบทั้งหมดเหมือนกัน คือ มีไข้คู่กันมากับอาเจียนและท้องเสีย ซึ่งเป็นอาการของอาหารเป็นพิษ อย่างไรก็ตามกำลังรอผลการตรวจตัวอย่าง เช่น แบคทีเรีย ไวรัสจากอุจจาระผู้ป่วยและอาหารที่เหลือ ภายในอีก 2 วันจะสรุปเชื้อได้ชัดเจน ส่วนข้าวมันไก่ที่นำไปแจกเป็นอาหารจากร้านค้าในตลาด ต.เทอดไทย
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าอาการดังกล่าวเกิดขึ้นเฉพาะเด็กนักเรียนเท่านั้น ทั้งที่ภายในงานมีการแจกจ่ายกล่องเป็นอาหารกลางวันทั้งผู้ใหญ่ที่เป็นครูอาจารย์ด้วย แต่ปรากฏว่าผู้ใหญ่กลับไม่มีใครมีอาการ จึงสันนิษฐานว่าเนื่องจากอาหารมีปริมาณมาก และเด็กรับประทานไม่หมด จึงนำไปรับประทานต่อที่บ้าน อาจทำให้อาหารบูด จึงเกิดอาการในช่วงค่ำ สังเกตได้จากถูกนำส่งโรงพยาบาลตั้งแต่ช่วงกลางคืนของวันนั้น เพราะหากรับประทานในช่วงกลางวันจะป่วยในช่วงเย็น แต่ก็ต้องรอผลการตรวจตัวอย่างจึงจะสรุปผลได้
ด้านนายประจญ ปรัชญ์สกุล รองผู้ว่าราชการจัหวัดเชียงราย ไปเยี่ยมอาการของนักเรียนที่โรงพยาบาลแม่จัน ขณะที่นายวรญาณ บุญณราช นายอำเภอแม่ฟ้าหลวง ได้จัดให้ปลัดอาวุโสอำเภอร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอแม่ฟ้าหลวง นำนมถั่วเหลืองและเงินช่วยเหลือไปมอบแก่ผู้ป่วยแต่ละรายแล้วเช่นกัน
