พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวก่อนเดินทางไปอำลาตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ที่ค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช พร้อม พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร รองผู้บัญชาการทหารบก ต่อกรณีนายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ ผู้ต้องหาทางการเมืองของไทยที่ขอลี้ภัยกับข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ในประเทศกัมพูชาว่า ได้มีการขอความร่วมมือประสานขอตัวแล้ว ส่วนโอกาสที่จะได้ตัวคืนมาหรือไม่ เป็นเรื่องของประเทศกัมพูชา
ส่วนกรณีการแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพิ่มเติมอีก 28 คน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เพื่อให้มีจำนวนครบตามรัฐธรรมนูญ เพราะการทำงานของ สนช.มีกรรมาธิการหลายคณะ และมีกฎหมายหลายฉบับที่ต้องเร่งดำเนินการเร็วที่สุด
สำหรับการแต่งตั้งสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ทั้ง 250 คน นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ได้มีการล็อกสเปกใดๆ ทั้งสิ้น โดยขอให้รอดูรายชื่อที่จะประกาศออกมาก่อน เพราะในขั้นตอนการสมัครคณะกรรมการการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ได้ตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว เป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ถ้ามีปัญหาตรงไหนก็ให้ไปร้องศาลปกครอง ส่วนข้อครหาเรื่องการคัดเลือกบุคคลที่เน้นนักศึกษาที่จบหลักสูตร วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ว่า ตนไม่ทราบข้อเท็จจริง และคุณสมบัติของ สนช.ที่กำหนดไว้ในกฎหมายก็ไม่มีข้อใดห้ามนักศึกษาหลักสูตร วปอ.เป็น สปช.
ส่วนกรณีการแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพิ่มเติมอีก 28 คน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เพื่อให้มีจำนวนครบตามรัฐธรรมนูญ เพราะการทำงานของ สนช.มีกรรมาธิการหลายคณะ และมีกฎหมายหลายฉบับที่ต้องเร่งดำเนินการเร็วที่สุด
สำหรับการแต่งตั้งสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ทั้ง 250 คน นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ได้มีการล็อกสเปกใดๆ ทั้งสิ้น โดยขอให้รอดูรายชื่อที่จะประกาศออกมาก่อน เพราะในขั้นตอนการสมัครคณะกรรมการการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ได้ตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว เป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ถ้ามีปัญหาตรงไหนก็ให้ไปร้องศาลปกครอง ส่วนข้อครหาเรื่องการคัดเลือกบุคคลที่เน้นนักศึกษาที่จบหลักสูตร วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ว่า ตนไม่ทราบข้อเท็จจริง และคุณสมบัติของ สนช.ที่กำหนดไว้ในกฎหมายก็ไม่มีข้อใดห้ามนักศึกษาหลักสูตร วปอ.เป็น สปช.
