รองโฆษกรัฐบาล ระบุเป็นไปไม่ได้เขมรไฟเขียวให้ไทยล่าตัว “ตั้ง อาชีวะ”

โฆษกรัฐบาล ไม่มีข้อมูลกัมพูชาไฟเขียวให้ไทยล่าตัว “ตั้ง อาชีวะ” ขณะที่ รองโฆษกฯ บอกเป็นไปไม่ได้ในทางกฎหมายไทยต้องให้เกียรติประเทศเพื่อนบ้าน

ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่า รัฐบาลและกองทัพไทยได้รับการประสานจากรัฐบาลกัมพูชาให้เข้าดำเนินการติดตามตัวกลุ่มนายเอกภพ เหลือรา หรือ ตั้ง อาชีวะ ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชนุภาพ และหลบหนีการรายงานตัวตามประกาศคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รวมทั้งกลุ่มคนที่เคลื่อนไหวทางการเมืองในกัมพูชาได้ ว่า ตนยังไม่มีข้อมูลในประเด็นนี้ และต้องมีการตรวจสอบสอบข้อเท็จจริงก่อน หรือต้องสอบถามที่ คสช. อีกทางหนึ่ง

ส่วนที่มีกระแสข่าวผ่านสื่อโซเชียลว่า อาจมีการหารือเรื่องนี้ เมื่อครั้งที่ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ที่เดินทางเยือนกัมพูชา เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น ตนไม่ทราบ คงต้องสอบถามจากกระทรวงการต่างประเทศ

ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ที่ พล.อ.ธนะศักดิ์ เดินทางไปเยือนกัมพูชา ก็มีความชัดเจนในระดับหนึ่งว่า ทางการกัมพูชาระบุว่า จะไม่ยอมให้มีบุคคลกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดมาเคลื่อนไหวในกัมพูชาแล้วส่งผลต่อบูรณภาพเหนือดินแดงของมิตรประเทศ ซึ่งหมายถึงประเทศไทยที่เป็นมิตรประเทศกับกัมพูชาด้วย

ส่วนที่มีข่าวว่าทางการกัมพูชาไฟเขียวให้เจ้าหน้าที่ไทยไปติดตามตัวนั้น เป็นไปไม่ได้ในทางกฎหมายอยู่แล้ว เราจึงต้องให้เกียรติทางการกัมพูชาที่ออกด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลได้ประสานข้อมูลกับ คสช. ที่ดูแลความมั่นคงเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลพูดคุยกับ คสช. เพื่อรับส่งต่อข้อมูลมาดำเนินการบริหารงานต่ออยู่แล้ว และในวันที่ 7 ต.ค. นี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะประชุมร่วมกับคณะ คสช. เป็นครั้งแรก ซึ่งคาดว่าจะมีการหยิบยกหลายประเด็นขึ้นมาหารือ