สถาบันวิจัยแห่งหนึ่งเตือนเมื่อวันพุธ(24ก.ย.) ว่าชาวต่างชาติในอินโดนีเซีย อาจตกเป็นเป้าหมายโจมตีของพวกนักรบ หลังจากพวกหัวรุนแรงแดนอิเหนาให้สัญญาจะภักดีต่อรัฐอิสลาม(ไอเอส) ที่นานาชาติมองว่ากำลังเป็นภัยคุกคามโลก พร้อมระบุมีความเป็นไปได้ที่นักรบกลุ่มนี้อาจขยายฐานสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต
ในรายงานของสถาบันวิเคราะห์นโยบายความขัดแย้ง(ไอพีเอซี) ซึ่งมีฐานบัญชาการในจาการ์ตา ยังเตือนด้วยว่าเหล่านักรบในอินโดนีเซียและมาเลเซียซึ่งเข้าร่วมกับพวกไอเอสในซีเรีย ดูเหมือนจะได้จัดตั้งหน่วยกองกำลังที่นั่น ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าเครือข่ายพวกนักรบหัวรุนแรงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากก่อเหตุโจมตีชาวต่างชาติหลายต่อหลายครั้งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เมื่อเร็วๆนี้พวกหัวรุนแรงอินโดนีเซีย ปรับเปลี่ยนเล็งเป้าหมายโดยตรงก่อเหตุกับ "เหล่าศัตรูของอิสลาม" ภายในประเทศ ส่วนใหญ่แล้วเป็นตำรวจ ขณะเดียวกันก็ไม่มีการโจมตีเข่นฆ่าชาวต่างชาติมาหลายปีแล้ว นับตั้งแต่เหตุระเบิดโรงแรม 2 แห่งซ้อนๆในกรุงจาการ์ตาเมื่อปี 2009 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คน 7 ศพ
อย่างไรก็ตามรายงานของไอพีเอซีระบุว่าด้วยพวกนักเทศน์หัวรุนแรงทรงอิทธิพลหลายคนและองค์การอิสลามิสต์ต่างๆให้คำมั่นสนับสนุนกลุ่มไอเอส ประกอบกับพวกหัวรุนแรงกำลังแสวงหาความเห็นชอบจากแกนนำในการประกาศจัดตั้งรัฐอิสลามที่ปกครองด้วยระบบคอลีฟะห์ (กาหลิบ) ของตนเอง ชาวตะวันตกจึงอาจกลับมาเป็นเป้าหมายของการโจมตีอีกครั้ง
"โดยรวมแล้วแสนยานุภาพของพวกหัวรุนแรงอินโดนีเซียนั้นค่อนข้างต่ำ แต่คำสัญญาของพวกเขาต่อไอเอสของพวกเขาอาจเป็นอันตรายได้" ซิดนีย์ โจนส์ ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์นโยบายความขัดแย้ง(ไอพีเอซี)กล่าว
ในรายงานของสถาบันวิเคราะห์นโยบายความขัดแย้ง(ไอพีเอซี) ซึ่งมีฐานบัญชาการในจาการ์ตา ยังเตือนด้วยว่าเหล่านักรบในอินโดนีเซียและมาเลเซียซึ่งเข้าร่วมกับพวกไอเอสในซีเรีย ดูเหมือนจะได้จัดตั้งหน่วยกองกำลังที่นั่น ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าเครือข่ายพวกนักรบหัวรุนแรงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากก่อเหตุโจมตีชาวต่างชาติหลายต่อหลายครั้งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เมื่อเร็วๆนี้พวกหัวรุนแรงอินโดนีเซีย ปรับเปลี่ยนเล็งเป้าหมายโดยตรงก่อเหตุกับ "เหล่าศัตรูของอิสลาม" ภายในประเทศ ส่วนใหญ่แล้วเป็นตำรวจ ขณะเดียวกันก็ไม่มีการโจมตีเข่นฆ่าชาวต่างชาติมาหลายปีแล้ว นับตั้งแต่เหตุระเบิดโรงแรม 2 แห่งซ้อนๆในกรุงจาการ์ตาเมื่อปี 2009 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คน 7 ศพ
อย่างไรก็ตามรายงานของไอพีเอซีระบุว่าด้วยพวกนักเทศน์หัวรุนแรงทรงอิทธิพลหลายคนและองค์การอิสลามิสต์ต่างๆให้คำมั่นสนับสนุนกลุ่มไอเอส ประกอบกับพวกหัวรุนแรงกำลังแสวงหาความเห็นชอบจากแกนนำในการประกาศจัดตั้งรัฐอิสลามที่ปกครองด้วยระบบคอลีฟะห์ (กาหลิบ) ของตนเอง ชาวตะวันตกจึงอาจกลับมาเป็นเป้าหมายของการโจมตีอีกครั้ง
"โดยรวมแล้วแสนยานุภาพของพวกหัวรุนแรงอินโดนีเซียนั้นค่อนข้างต่ำ แต่คำสัญญาของพวกเขาต่อไอเอสของพวกเขาอาจเป็นอันตรายได้" ซิดนีย์ โจนส์ ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์นโยบายความขัดแย้ง(ไอพีเอซี)กล่าว