เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ใช้โอกาสเยือนสกอตแลนด์ครั้งสุดท้ายเมื่อวันจันทร์(15ก.ย.)ก่อนการลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชครั้งประวัติศาสตร์ในสัปดาห์นี้ ออดอ้อนชาวสกอตเลือกเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักรต่อไป พร้อมเตือนหากโหวตแยกตัวจะย้อนเวลากลับมาอีกไม่ได้แล้ว
ด้วยจากผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลต่างๆบ่งชี้ว่าคะแนนของสองฝ่ายยังคงคู่คี่สูสีจนไม่อาจชี้ชัดได้ หัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวทีฟรายนี้ ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนจากคนอังกฤษส่วนใหญ่ เรียกร้องผู้มีสิทธิ์ออกเสียงอย่าใช้การลงประชามติเป็นการลงคะแนนประท้วงรัฐบาล
"จะไม่มีวันกลับมาจากสิ่งนี้ได้อีกแล้ว ถ้าคนสกอตแลนด์โหวต ใช่ สหราชอาณาจักรจะแตกออกและเราจะแยกกันเดินตลอดกาล" เขาบอกกับเหล่าผู้สนับสนุนพรรคคอนเซอร์เวทีพในอะเบอร์ดีน ศูนย์กลางอุตสาหกรรมน้ำมันของสกอต์แลนด์ "อย่าคิดว่า ฉันผิดหวังกับการเมืองในตอนนี้ ดังนั้นฉันจะเดินออกจากประตูไป ถ้าคุณไม่ชอบผม ผมไม่ได้อยู่ในตำแหน่งไปตลอดกาล ถ้าคุณไม่ชอบรัฐบาลนี้ รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้อยู่ตลอดไป แต่ถ้าคุณออกไปจากสหราชอาณาจักร มันจะเป็นการแยกตัวไปตลอดกาล"
การเดินทางเยือนของคาเมรอน คือความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะโน้มน้าวชาวสกอตแลนด์ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ให้ลงคะแนนปฏฺิเสธแยกตัวเป็นเอกราช หลังคาดหมายกันว่ามีประชาชนมากกว่า 500,000 คนจากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงทั้งหมด 4 ล้านคน ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะโหวตไปในทิศทางไหน
ด้วยจากผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลต่างๆบ่งชี้ว่าคะแนนของสองฝ่ายยังคงคู่คี่สูสีจนไม่อาจชี้ชัดได้ หัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวทีฟรายนี้ ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนจากคนอังกฤษส่วนใหญ่ เรียกร้องผู้มีสิทธิ์ออกเสียงอย่าใช้การลงประชามติเป็นการลงคะแนนประท้วงรัฐบาล
"จะไม่มีวันกลับมาจากสิ่งนี้ได้อีกแล้ว ถ้าคนสกอตแลนด์โหวต ใช่ สหราชอาณาจักรจะแตกออกและเราจะแยกกันเดินตลอดกาล" เขาบอกกับเหล่าผู้สนับสนุนพรรคคอนเซอร์เวทีพในอะเบอร์ดีน ศูนย์กลางอุตสาหกรรมน้ำมันของสกอต์แลนด์ "อย่าคิดว่า ฉันผิดหวังกับการเมืองในตอนนี้ ดังนั้นฉันจะเดินออกจากประตูไป ถ้าคุณไม่ชอบผม ผมไม่ได้อยู่ในตำแหน่งไปตลอดกาล ถ้าคุณไม่ชอบรัฐบาลนี้ รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้อยู่ตลอดไป แต่ถ้าคุณออกไปจากสหราชอาณาจักร มันจะเป็นการแยกตัวไปตลอดกาล"
การเดินทางเยือนของคาเมรอน คือความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะโน้มน้าวชาวสกอตแลนด์ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ให้ลงคะแนนปฏฺิเสธแยกตัวเป็นเอกราช หลังคาดหมายกันว่ามีประชาชนมากกว่า 500,000 คนจากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงทั้งหมด 4 ล้านคน ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะโหวตไปในทิศทางไหน
