นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า จีน และอินโดนีเซีย เริ่มกลับมาซื้อข้าวจากไทย จากที่ก่อนหน้านี้หันไปซื้อข้าวจากเวียดนาม เพราะขณะนี้ราคาข้าวไทยไม่ได้ปรับสูงไปกว่าราคาข้าวจากประเทศคู่แข่ง โดยเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 420 ดอลลาร์สหรัฐ ประกอบกับเวียดนาม คู่แข่งสำคัญ ทยอยขายข้าวส่วนใหญ่ออกไปหมดแล้ว ซึ่งต้องรอเดือนมีนาคม ปีหน้า ข้าวล็อตใหม่จึงจะออกผลผลิตใหม่ หลังจากนี้ภาครัฐและเอกชนจะเดินหน้าทวงคืนตลาดข้าวไทยให้กลับคืนมา มีเป้าหมายต่อไปในตลาดฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย
พร้อมยืนยันว่า ปัญหาข้าวเปลือกราคาตกต่ำนั้น ไม่ได้เกิดจากผู้ส่งออกชะลอหยุดซื้อข้าวสาร หรือทำให้โรงสีหยุดซื้อข้าวเปลือก แต่เป็นเพราะข้าวเปลือกมีความชื้นสูง ชาวนาจึงต้องเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตออกมาพร้อมกัน ทำให้ถูกกดราคารับซื้อ และเชื่อว่าระยะต่อไปราคาข้าวเปลือกจะกลับมาดีขึ้น โดยที่ข้าวเปลือกนั้นจะขยับขึ้นมาตันละ 8,500 บาท แต่เห็นว่าชาวนาไม่ควรเก็บเกี่ยวผลผลิตออกมาพร้อมกัน เพื่อไม่ให้ราคาข้าวเปลือกในตลาดตกต่ำ
ด้านกรมการค้าต่างประเทศ มั่นใจว่าปีนี้ไทยมีโอกาสส่งออกข้าวได้ถึง 10 ล้านตัน และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องได้ในปีหน้า ทั้งนี้ เตรียมแผนการเจรจาขายข้าวในหลายช่องทาง โดยเฉพาะที่จีน ซึ่งกลางเดือนกันยายนนี้ จะนำผู้ส่งออกข้าว และคณะผู้แทนการค้า ไปร่วมงานไชน่า อาเซียน เอ็กซ์โป ที่เมืองหนานหนิง เพื่อประชาสัมพันธ์ข้าวไทยให้กับผู้บริโภคที่จีนได้รู้จัก
พร้อมยืนยันว่า ปัญหาข้าวเปลือกราคาตกต่ำนั้น ไม่ได้เกิดจากผู้ส่งออกชะลอหยุดซื้อข้าวสาร หรือทำให้โรงสีหยุดซื้อข้าวเปลือก แต่เป็นเพราะข้าวเปลือกมีความชื้นสูง ชาวนาจึงต้องเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตออกมาพร้อมกัน ทำให้ถูกกดราคารับซื้อ และเชื่อว่าระยะต่อไปราคาข้าวเปลือกจะกลับมาดีขึ้น โดยที่ข้าวเปลือกนั้นจะขยับขึ้นมาตันละ 8,500 บาท แต่เห็นว่าชาวนาไม่ควรเก็บเกี่ยวผลผลิตออกมาพร้อมกัน เพื่อไม่ให้ราคาข้าวเปลือกในตลาดตกต่ำ
ด้านกรมการค้าต่างประเทศ มั่นใจว่าปีนี้ไทยมีโอกาสส่งออกข้าวได้ถึง 10 ล้านตัน และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องได้ในปีหน้า ทั้งนี้ เตรียมแผนการเจรจาขายข้าวในหลายช่องทาง โดยเฉพาะที่จีน ซึ่งกลางเดือนกันยายนนี้ จะนำผู้ส่งออกข้าว และคณะผู้แทนการค้า ไปร่วมงานไชน่า อาเซียน เอ็กซ์โป ที่เมืองหนานหนิง เพื่อประชาสัมพันธ์ข้าวไทยให้กับผู้บริโภคที่จีนได้รู้จัก