นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ประเทศไทยจะมีฝนตกชุกหนาแน่นและฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ราบลุ่มและริมฝั่งแม่น้ำ
ปภ.จึงได้ประสาน 36 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 9 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด นครพนม มุกดาหาร สกลนคร หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี เลย และหนองบัวลำภู ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ นครนายก สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออก 6 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี จันทบุรี ตราด และระยอง ภาคตะวันตก 1 จังหวัด ได้แก่ ตาก และภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา และภูเก็ต
ทั้งนี้ ได้ประสานศูนย์ ปภ.ในเขตพื้นที่ต่างๆ ให้เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 2-6 กันยายนนี้ โดยเฉพาะที่ลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ ที่ลาดเชิงเขา จุดอ่อนน้ำท่วมขัง พร้อมตรวจสอบเขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำ และคันกั้นน้ำ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้อยู่ในสภาพปลอดภัย หากเป็นอันตรายให้พิจารณาสั่งปิด และอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอฝากเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยควรติดตามพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัย จากกรมอุตุนิยมวิทยา อย่างใกล้ชิด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น ระดับน้ำขุ่นข้น หรือสีเดียวกับสีดินภูเขา จะได้เตรียมพร้อมรับมือและอพยพหนีภัยได้อย่างทันท่วงที
ปภ.จึงได้ประสาน 36 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 9 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด นครพนม มุกดาหาร สกลนคร หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี เลย และหนองบัวลำภู ภาคกลาง 4 จังหวัด ได้แก่ นครนายก สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออก 6 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี จันทบุรี ตราด และระยอง ภาคตะวันตก 1 จังหวัด ได้แก่ ตาก และภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา และภูเก็ต
ทั้งนี้ ได้ประสานศูนย์ ปภ.ในเขตพื้นที่ต่างๆ ให้เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 2-6 กันยายนนี้ โดยเฉพาะที่ลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ ที่ลาดเชิงเขา จุดอ่อนน้ำท่วมขัง พร้อมตรวจสอบเขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำ และคันกั้นน้ำ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้อยู่ในสภาพปลอดภัย หากเป็นอันตรายให้พิจารณาสั่งปิด และอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอฝากเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยควรติดตามพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัย จากกรมอุตุนิยมวิทยา อย่างใกล้ชิด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ เช่น ระดับน้ำขุ่นข้น หรือสีเดียวกับสีดินภูเขา จะได้เตรียมพร้อมรับมือและอพยพหนีภัยได้อย่างทันท่วงที
