เผยผลสำรวจการต่ออินเตอร์เน็ตในประเทศฟิลิปปินส์ กินเวลานานและแพงที่สุดในประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของอาเซียน ระบุประธานาธิบดีอาควีโน ลงแส้หน่วยงานไอซีทีเร่งพัฒนาเพิ่มแบนด์วิธ ในประเทศ หลังธุรกิจประชุมและเอาต์ซอร์ซซิ่งงานและสำนักงานให้เช่าโวยว่าทำธุรกิจเสียหาย
หนังสือพิมพ์ฟิลิปปินส์เดลี่ อินไควเรอร์รายงานผลสำรวจเวลาในการต่ออินเตอร์เน็ต ประเทศต่างๆ ในเอเชียพบว่าโดยเฉลี่ยแล้วการต่ออินเตอร์เน็ตในประเทศฟิลิปปินส์ช้าที่สุดในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของอาเซียน สร้างผลกระทบต่อธุรกิจของประเทศฟิลิปปินส์อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างธุรกิจเอาต์ซอร์ซซิ่งงานบริการและสำนักงานซึ่งเป็นธุรกิจที่ประเทศฟิลิปปินส์ได้เปรียบเนื่องจากประชาชนมีทักษะภาษาอังกฤษสูงกว่าประเทศอื่นๆ
บริษัท อู๊กลาฯ (Ookla) ที่ทำการทดสอบความเร็วของอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ ในประเทศต่างๆ แถบภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกรายงานว่าประเทศที่อินเตอร์เน็ตเร็วสุดของกลุ่มประเทศชั้นนำของอาเซียนคือสิงคโปร์อยู่ที่ 8.4 เมกะบิตต์ต่อวินาที ตามด้วยประเทศไทยที่ 5.2 เมกะบิตต์ต่อวินาที อันดับ 3 คือมาเลเซีย 3.5 เมกะบิตต์ต่อวินาที อันดับ 4 คืออินโดนีเซียที่ 2.4 เมกะบิตต์ต่อวินาที ในขณะที่ประเทศฟิลิปปินส์และเวียดนามใกล้เคียงกันอยู่ที่ 2.1 และ 2 เมกะบิตต์ต่อวินาที แต่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศฟิลิปปินส์กระจุกตัวมากทำให้เฉลี่ยแล้วช้าสุดทำให้มีราคาแพงที่สุด
ปัญหาที่เน็ตช้า เป็นสิ่งที่รบกวนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศฟิลิปปินส์มาโดยตลอดโดยในเดือนกันยายนปี 2553 ประธานาธิบดีอาควีโน ได้สั่งให้ประธานคณะกรรมาธิการไอซีทีเร่งให้บริษัทที่ให้บริการไอซีทียกระดับเทคโนโลยีไอซีทีของประเทศ และ 10 เดือนต่อมาได้ออกประกาศประธานาธิบดีเพื่อตั้งสำนักงานไอซีที ขึ้นกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและทำแผนยุทธศาสตร์ฟิลิปปินส์ดิจิตอล 5 ปีซึ่งจะเป็นโรดแมปในการพัฒนาไอซีทีของประเทศให้มีประสิทธิภาพเทียบชั้นประเทศชั้นนำอื่นๆ ในอาเซียน
อย่างไรก็ดีปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ประเทศฟิลิปปินส์ยังประสบกับปัญหาเน็ตช้าเหมือนเดิมโดยฟิลิปปินส์เดลี่ อินไควเรอร์ ระบุว่า อุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมอยู่ภายใต้การผูกขาดของ 2 บริษัทใหญ่คือบริษัท ฟิลิปปิน ลองดีสแทนซ์เทเลโฟนคัมพานีกรุ๊ปฯ ซึ่งมีนายมานูเอล ปังกิลินัน มหาเศรษฐีชาวฟิลิปปินส์ผู้ก่อตั้งกลุ่มธุรกิจเฟิร์สแปซิฟิกร่วมกับลูกของนายหลิมซิวเหลียง มหาเศรษฐีของอินโดเซียเป็นเจ้าของ กลุ่มนี้เป็นเจ้าของข่ายโทรศัพท์มือถือ ซันเซลลูลาร์ สมาร์ท คอมมูนิเคชั่นและทีวีดิจิตอลหนึ่งสถานี อีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มโกล์บกรุ๊ป ของตระกูล อะยาล่า ซึ่งเคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทซานมิเกลฯเป็นเจ้าของเครือข่ายบายันเทล
ทางด้านผู้ประกอบการให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงหรือบรอดแบนด์ของฟิลิปปินส์ ระบุว่าการขยายเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในประเทศฟิลิปปินส์ มีข้อจำกัดที่ไม่เหมือนประเทศอื่นคือความที่ประเทศมีเกาะมากกว่า 7,000 เกาะทำให้การลงทุนสร้างเครือข่ายให้บริการในพื้นที่ห่างไกลมีต้นทุนสูงและปัญหาอีกประการหนึ่งคือคนฟิลิปปินส์พูดภาษาอังกฤษได้ดีทำให้บริษัทโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างเช่นเฟซบุ๊กไม่เข้ามาลงทุนตั้งเซิร์ฟเวอร์ให้เป็นเฉพาะภาษาท้องถิ่นทำให้ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ ซึ่งใช้เวลาเชื่อมต่อนานกว่าประเทศอื่นๆ ในแถบนี้
ฟิลิปปินส์เดลี่ อินไควเรอร์ รายงานว่าปัญหาเน็ตช้าทำให้ธุรกิจเอาต์ซอร์ซสำนักงานกระทบอย่างหนัก โดยนางแอนเจลา มาราวิลลาร์ ผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัท วีออฟฟิศ ฟิลิปปินส์ที่ให้บริการสำนักงานให้เช่า ให้สัมภาษณ์ว่า เวลาที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการห้องประชุมครบทุกห้อง มักจะเจอกับปัญหาเน็ตโดนตัดต้องต่อใหม่บ่อยครั้ง และค่าบริการอินเตอร์เน็ตที่แพงทำให้ต้นทุนการให้บริการออฟฟิศเอาต์ซอร์ซของฟิลิปปินส์แพงกว่ามาเลเซีย
บริษัท วีออฟฟิศ ในฟิลิปปินส์เริ่มเปิดบริการเดือนมิถุนายน 2556 ที่ตึก ฟอร์ทลีเจ้นด์ทาวเวอร์ ให้บริการคอลล์เซ็นเตอร์ บริการต้อนรับ ออฟฟิศให้เช่า พร้อมระบบไว-ไฟให้กับบริษัทขนาดกลางและเล็กที่ไม่ต้องการลงทุนมีสำนักงานจริงๆ ของตัวเอง โดยมีระบบไอซีทีเชื่อมต่อกับศูนย์บริการธุรกิจทั่วโลก 25 แห่ง
หนังสือพิมพ์ฟิลิปปินส์เดลี่ อินไควเรอร์รายงานผลสำรวจเวลาในการต่ออินเตอร์เน็ต ประเทศต่างๆ ในเอเชียพบว่าโดยเฉลี่ยแล้วการต่ออินเตอร์เน็ตในประเทศฟิลิปปินส์ช้าที่สุดในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของอาเซียน สร้างผลกระทบต่อธุรกิจของประเทศฟิลิปปินส์อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างธุรกิจเอาต์ซอร์ซซิ่งงานบริการและสำนักงานซึ่งเป็นธุรกิจที่ประเทศฟิลิปปินส์ได้เปรียบเนื่องจากประชาชนมีทักษะภาษาอังกฤษสูงกว่าประเทศอื่นๆ
บริษัท อู๊กลาฯ (Ookla) ที่ทำการทดสอบความเร็วของอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ ในประเทศต่างๆ แถบภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกรายงานว่าประเทศที่อินเตอร์เน็ตเร็วสุดของกลุ่มประเทศชั้นนำของอาเซียนคือสิงคโปร์อยู่ที่ 8.4 เมกะบิตต์ต่อวินาที ตามด้วยประเทศไทยที่ 5.2 เมกะบิตต์ต่อวินาที อันดับ 3 คือมาเลเซีย 3.5 เมกะบิตต์ต่อวินาที อันดับ 4 คืออินโดนีเซียที่ 2.4 เมกะบิตต์ต่อวินาที ในขณะที่ประเทศฟิลิปปินส์และเวียดนามใกล้เคียงกันอยู่ที่ 2.1 และ 2 เมกะบิตต์ต่อวินาที แต่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศฟิลิปปินส์กระจุกตัวมากทำให้เฉลี่ยแล้วช้าสุดทำให้มีราคาแพงที่สุด
ปัญหาที่เน็ตช้า เป็นสิ่งที่รบกวนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศฟิลิปปินส์มาโดยตลอดโดยในเดือนกันยายนปี 2553 ประธานาธิบดีอาควีโน ได้สั่งให้ประธานคณะกรรมาธิการไอซีทีเร่งให้บริษัทที่ให้บริการไอซีทียกระดับเทคโนโลยีไอซีทีของประเทศ และ 10 เดือนต่อมาได้ออกประกาศประธานาธิบดีเพื่อตั้งสำนักงานไอซีที ขึ้นกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและทำแผนยุทธศาสตร์ฟิลิปปินส์ดิจิตอล 5 ปีซึ่งจะเป็นโรดแมปในการพัฒนาไอซีทีของประเทศให้มีประสิทธิภาพเทียบชั้นประเทศชั้นนำอื่นๆ ในอาเซียน
อย่างไรก็ดีปรากฏว่าจนถึงขณะนี้ประเทศฟิลิปปินส์ยังประสบกับปัญหาเน็ตช้าเหมือนเดิมโดยฟิลิปปินส์เดลี่ อินไควเรอร์ ระบุว่า อุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมอยู่ภายใต้การผูกขาดของ 2 บริษัทใหญ่คือบริษัท ฟิลิปปิน ลองดีสแทนซ์เทเลโฟนคัมพานีกรุ๊ปฯ ซึ่งมีนายมานูเอล ปังกิลินัน มหาเศรษฐีชาวฟิลิปปินส์ผู้ก่อตั้งกลุ่มธุรกิจเฟิร์สแปซิฟิกร่วมกับลูกของนายหลิมซิวเหลียง มหาเศรษฐีของอินโดเซียเป็นเจ้าของ กลุ่มนี้เป็นเจ้าของข่ายโทรศัพท์มือถือ ซันเซลลูลาร์ สมาร์ท คอมมูนิเคชั่นและทีวีดิจิตอลหนึ่งสถานี อีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มโกล์บกรุ๊ป ของตระกูล อะยาล่า ซึ่งเคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทซานมิเกลฯเป็นเจ้าของเครือข่ายบายันเทล
ทางด้านผู้ประกอบการให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงหรือบรอดแบนด์ของฟิลิปปินส์ ระบุว่าการขยายเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในประเทศฟิลิปปินส์ มีข้อจำกัดที่ไม่เหมือนประเทศอื่นคือความที่ประเทศมีเกาะมากกว่า 7,000 เกาะทำให้การลงทุนสร้างเครือข่ายให้บริการในพื้นที่ห่างไกลมีต้นทุนสูงและปัญหาอีกประการหนึ่งคือคนฟิลิปปินส์พูดภาษาอังกฤษได้ดีทำให้บริษัทโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างเช่นเฟซบุ๊กไม่เข้ามาลงทุนตั้งเซิร์ฟเวอร์ให้เป็นเฉพาะภาษาท้องถิ่นทำให้ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ ซึ่งใช้เวลาเชื่อมต่อนานกว่าประเทศอื่นๆ ในแถบนี้
ฟิลิปปินส์เดลี่ อินไควเรอร์ รายงานว่าปัญหาเน็ตช้าทำให้ธุรกิจเอาต์ซอร์ซสำนักงานกระทบอย่างหนัก โดยนางแอนเจลา มาราวิลลาร์ ผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าของบริษัท วีออฟฟิศ ฟิลิปปินส์ที่ให้บริการสำนักงานให้เช่า ให้สัมภาษณ์ว่า เวลาที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการห้องประชุมครบทุกห้อง มักจะเจอกับปัญหาเน็ตโดนตัดต้องต่อใหม่บ่อยครั้ง และค่าบริการอินเตอร์เน็ตที่แพงทำให้ต้นทุนการให้บริการออฟฟิศเอาต์ซอร์ซของฟิลิปปินส์แพงกว่ามาเลเซีย
บริษัท วีออฟฟิศ ในฟิลิปปินส์เริ่มเปิดบริการเดือนมิถุนายน 2556 ที่ตึก ฟอร์ทลีเจ้นด์ทาวเวอร์ ให้บริการคอลล์เซ็นเตอร์ บริการต้อนรับ ออฟฟิศให้เช่า พร้อมระบบไว-ไฟให้กับบริษัทขนาดกลางและเล็กที่ไม่ต้องการลงทุนมีสำนักงานจริงๆ ของตัวเอง โดยมีระบบไอซีทีเชื่อมต่อกับศูนย์บริการธุรกิจทั่วโลก 25 แห่ง
