นางพัฒน์นรี ฐิติอริยกุล กรรมการ บมจ.มิลล์คอน สตีล (MILL) ชี้แจงกรณีที่มีข่าวปรากฎเกี่ยวกับบมจ.มิลล์คอน สตีล และนายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ว่า บริษัทได้ทำการซื้อสินทรัพย์จาก บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) มาอย่างถูกต้องตามกฏหมายทุกประการ ดังนั้นจึงขอยืนยันว่าบริษัท และ นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ทั้งในฐานะประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ หรือแม้กระทั่งในฐานะส่วนตัวนั้นไม่ได้ทำการร่วมกันรับของโจรตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
โดยในปี พ.ศ. 2547 บริษัทได้ดำเนินการเพิ่มทุน และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง มาเพื่อขยายกิจการ โดยดำเนินการผลิตเหล็กเส้นกลมและเหล็กเส้นข้ออ้อย ทั้งนี้บริษัทได้มีการซื้อที่ดินรวมทั้งหมด 77 ไร่ ซึ่งรวมถึงที่ดินตามโฉนดเลขที่ 129862 ที่ถูกกล่าวถึงในเนื้อหาข่าวดังกล่าวนั้นด้วยโดยบริษัทได้ซื้อทรัพย์สินทั้งหมดผ่านการประมูลทางอินเตอร์เน็ตจาก บริษัท บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ซึ่งเป็นกระบวนการการซื้อทรัพย์สินถูกต้องตามกฏหมายทุกประการ และในเบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้ามได้มีคำสั่งไม่ฟ้องบริษัท และนายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ในข้อหาดังกล่าวนี้ไปแล้ว
ซึ่งการที่ปรากฎข่าวออกมาว่า ศาลอาญาธนบุรี ออกหมายจับ นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูลนั้น เกิดจากการที่พนักกงานอัยการได้นัดให้นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูลไปพบ ภายหลังจากที่นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ได้เดินทางไปติดต่อธุรกิจการค้าในต่างประเทศ และเดินทางไปในหลายๆ ประเทศตามแผนงานทางธุรกิจ ที่ได้มีการกำหนดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ในฐานะผู้บริหารของ บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) ทำให้การติดต่อไปยังนายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ไม่สามารถทำได้ ด้วยเหตุดังกล่าวนี้จึงเป็นเหตุให้ไม่ได้รับทราบการนัดหมายของอัยการดังกล่าว เป็นเหตุให้พนักงานอัยการขอให้พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาธนบุรีออกหมายจับนายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2557ตามที่ปรากฏในข่าว
โดยจากข้อเท็จจริงข้างต้น บริษัทขอยืนยันว่า นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ในฐานะประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการของบริษัท มิได้มีเจตนาที่จะหลบเลี่ยงการเข้าพบอัยการตามนัดหมายแต่อย่างใด ซึ่งการที่บริษัท และนายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ที่ถูกฟ้องในฐานะส่วนตัว หรือในฐานะกรรมการของบริษัทก็ตาม เป็นคดีที่ฟ้องร้องจากมูลคดีเดียวกัน ในข้อหารับของโจร โดยทางบริษัทได้มอบหมายให้ทนายและที่ปรึกษาทางกฏหมายของบริษัทเข้าไปดำเนินการเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตั้งแต่เริ่มกระบวนการชั้นสอบสวนในชั้นตำรวจแล้วไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบเลี่ยงแต่อย่างใด
ทั้งนี้บริษัทขอเรียนเน้นย้ำว่าบริษัท และนายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูลในฐานะประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ หรือในฐานะส่วนตัวก็ตาม ได้ดำเนินการบริหารกิจการด้วยความโปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล ซึ่งได้ดำเนินการเข้าซื้อทรัพย์ทุกประเภท รวมถึงที่ดินตามโฉนดเลขที่ 129862 ที่ถูกกล่าวถึงมาอย่างถูกต้อง ตามกระบวนการทางกฏหมายทุกประการ
โดยในปี พ.ศ. 2547 บริษัทได้ดำเนินการเพิ่มทุน และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง มาเพื่อขยายกิจการ โดยดำเนินการผลิตเหล็กเส้นกลมและเหล็กเส้นข้ออ้อย ทั้งนี้บริษัทได้มีการซื้อที่ดินรวมทั้งหมด 77 ไร่ ซึ่งรวมถึงที่ดินตามโฉนดเลขที่ 129862 ที่ถูกกล่าวถึงในเนื้อหาข่าวดังกล่าวนั้นด้วยโดยบริษัทได้ซื้อทรัพย์สินทั้งหมดผ่านการประมูลทางอินเตอร์เน็ตจาก บริษัท บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ซึ่งเป็นกระบวนการการซื้อทรัพย์สินถูกต้องตามกฏหมายทุกประการ และในเบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้ามได้มีคำสั่งไม่ฟ้องบริษัท และนายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ในข้อหาดังกล่าวนี้ไปแล้ว
ซึ่งการที่ปรากฎข่าวออกมาว่า ศาลอาญาธนบุรี ออกหมายจับ นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูลนั้น เกิดจากการที่พนักกงานอัยการได้นัดให้นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูลไปพบ ภายหลังจากที่นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ได้เดินทางไปติดต่อธุรกิจการค้าในต่างประเทศ และเดินทางไปในหลายๆ ประเทศตามแผนงานทางธุรกิจ ที่ได้มีการกำหนดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ในฐานะผู้บริหารของ บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) ทำให้การติดต่อไปยังนายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ไม่สามารถทำได้ ด้วยเหตุดังกล่าวนี้จึงเป็นเหตุให้ไม่ได้รับทราบการนัดหมายของอัยการดังกล่าว เป็นเหตุให้พนักงานอัยการขอให้พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาธนบุรีออกหมายจับนายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2557ตามที่ปรากฏในข่าว
โดยจากข้อเท็จจริงข้างต้น บริษัทขอยืนยันว่า นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ในฐานะประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการของบริษัท มิได้มีเจตนาที่จะหลบเลี่ยงการเข้าพบอัยการตามนัดหมายแต่อย่างใด ซึ่งการที่บริษัท และนายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ที่ถูกฟ้องในฐานะส่วนตัว หรือในฐานะกรรมการของบริษัทก็ตาม เป็นคดีที่ฟ้องร้องจากมูลคดีเดียวกัน ในข้อหารับของโจร โดยทางบริษัทได้มอบหมายให้ทนายและที่ปรึกษาทางกฏหมายของบริษัทเข้าไปดำเนินการเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตั้งแต่เริ่มกระบวนการชั้นสอบสวนในชั้นตำรวจแล้วไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบเลี่ยงแต่อย่างใด
ทั้งนี้บริษัทขอเรียนเน้นย้ำว่าบริษัท และนายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูลในฐานะประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ หรือในฐานะส่วนตัวก็ตาม ได้ดำเนินการบริหารกิจการด้วยความโปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล ซึ่งได้ดำเนินการเข้าซื้อทรัพย์ทุกประเภท รวมถึงที่ดินตามโฉนดเลขที่ 129862 ที่ถูกกล่าวถึงมาอย่างถูกต้อง ตามกระบวนการทางกฏหมายทุกประการ
