นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILLCON กล่าวว่า บริษัทเตรียมออกหุ้นเพิ่มทุนมูลค่า 700 ล้านบาท เพื่อเสนอขายต่อนักลงทุนเฉพาะเจาะจง (PP) เพื่อนำเงินไปลงทุนขยายกิจการบริษัท มิลล์คอน ธิฮา จำกัด (Millcon Thiha Company Limited) ในประเทศพม่า เตรียมรองรับความต้องการ “เหล็กคุณภาพพิเศษ” ที่คาดว่า จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 3/57 เป็นต้นไปและคาดว่า กำลังผลิตปี 2558 จะเพิ่มเป็น 1.7-1.8 ล้านตัน จาก 1.2-1.3 ล้านตัน ทั้งนี้ คาดว่า ในปี 2558 ผลประกอบการจะ Turnaround ทั้งจากการเข้าซื้อกิจการและโครงการลงทุนภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
CEO MILLCON ยอมรับว่า ยอดขายช่วงไตรมาส 1/57-2/57 ลดลงถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 เนื่องจากราคาเหล็กผันผวน ประกอบกับวิกฤตการณ์ทางการเมืองทำให้ลูกค้าชะลอการส่งมอบเหล็กออกไป อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ปรับตัวด้วยการเพิ่มสัดส่วนการผลิต “เหล็กคุณภาพพิเศษ” เพิ่มขึ้น เนื่องจากเริ่มมีความต้องการในตลาดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษารายได้ทั้งปีให้เพิ่มขึ้นได้ 10% ตามเป้า
นายสิทธิชัย ยังได้ชี้แจงกรณีศาลอาญาธนบุรี ออกหมายจับว่า บริษัทได้ทำการซื้อสินทรัพย์จาก บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) มาอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ โดยในปี พ.ศ.2547 บริษัทได้ดำเนินการเพิ่มทุน และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง มาเพื่อขยายกิจการ โดยดำเนินการผลิตเหล็กเส้นกลมและเหล็กเส้นข้ออ้อย ทั้งนี้ บริษัทได้มีการซื้อที่ดิน รวมทั้งหมด 77 ไร่ ซึ่งรวมถึงที่ดินตามโฉนดเลขที่ 129862 ที่ถูกกล่าวถึงในเนื้อหาข่าวดังกล่าวนั้นด้วย โดยบริษัทได้ซื้อทรัพย์สินทั้งหมดผ่านการประมูลทางอินเทอร์เน็ตจาก บริษัท บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ซึ่งเป็นกระบวนการการซื้อทรัพย์สินถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ และในเบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ได้มีคำสั่งไม่ฟ้องบริษัท และนายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ในข้อหาดังกล่าวนี้ไปแล้ว
พร้อมกันนี้ได้ชี้แจงกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. ขึ้นเครื่องหมาย NP (Notice Pending : บริษัทนั้นไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ เรื่องการเปิดเผยข้อมูล) ว่าเกิดจากการที่บริษัทขายเหล็กให้กับบริษัทในเครือญาติ โดยไม่แจ้งต่อ ตลท. ซึ่งไม่มีเจตนาที่จะปกปิด เนื่องจากการซื้อ-ขายเหล็กล็อตดังกล่าว เป็นการซื้อขายในราคาปกติ