ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน บอกในวันอังคาร(22) จะทำทุกวิถีทางเพื่อโน้มน้าวพวกแบ่งแยกดินแดนของยูเครน ให้ความร่วมมือกับคณะผู้สืบสวนที่กำลังตรวจสอบเหตุเที่ยวบิน MH17 ตกในดินแดนที่พวกเขายึดครอง แต่ขณะเดียวกันก็เตือนว่าตะวันตกต้องเพิ่มความพยายามชักนำเคียฟหยุดความเป็นปกปักษ์ให้มากกว่านี้
ปูติน ลุกขึ้นมาตอบโต้ด้วยความคิดเห็นที่ให้รายละเอียดมากที่สุดนับตั้งแต่เครื่องบินถูกยิงตกเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว(17) ด้วยปฏิเสธต่อบทบาทของรัสเซียในเหตุการณ์ต่างๆทางภาคตะวันออกของยูเครนที่ฝ่ายกบฏยึดครองอยู่ และให้คำจำกัดความจุดยืนของตะวันตกว่า "แปลกและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้"
ผู้นำรายนี้พูดกล่าวหาสหรัฐฯโดยอ้อมๆว่ากุมบังเหียนเรื่องราวต่างๆในเคียฟ พยายามระรานมอสโกและแทรกแซงกิจการภายในของรัสเซีย "วิธีการแบบนั้น ใช้ไม่ได้ผลกับรัสเซียหรอก"
ความเห็นที่เผยแพร่ผ่านสถานีโทรทัศน์ครั้งนี้ เป็นการอ่านจากสมุดจดบันทึก ณ บริเวณที่นั่งหัวโต๊ะซึ่งขนาบข้างด้วยคณะรัฐบาล สมาชิกรัฐสภาระดับอาวุโส รวมถึงเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและกลาโหมระดับสูง ขณะที่คำพูดของนายปูตินดูมีความหนักแน่นกว่าการให้สัมภาษณ์ผ่านโทรทัศน์สั้นๆต่อกรณีเที่ยวบิน MH17 ซึ่งเผยแพร่ในช่วงเช้าวันจันทร์(21) ซึ่งหนนั้นเขาดูอ่อนล้าและขาดความเชื่อมั่นผิดปกติ
อย่างไรก็ตามคราวนี้ เขาไม่ได้ใส่ใจต่อคำพูดของสหรัฐฯและเหล่าผู้นำฝักใฝ่ยุโรปของยูเครนที่กล่าวหามอสโกให้การสนับสนุนอาวุธแก่ฝ่ายกบฏ ในนั้นรวมถึงระบบขีปนาวุธที่ยิงเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส จนตก ทว่าคำสัญญาที่จะใช้อิทธิพลของรัสเซียต่อฝ่ายกบฏก็ดูจะคลุมเครือ "เราถูกร้องขอให้ใช้อิทธิพลของเรากับพวกแบ่งแยกดินแดนทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน แน่นอนเราจะทำทุกอย่างภายใต้อำนาจของเรา แต่แค่นี้มันยังไม่พอหรอก" ปูตินบอกกับเหล่าสภาความมั่นคง"
ปูติน ลุกขึ้นมาตอบโต้ด้วยความคิดเห็นที่ให้รายละเอียดมากที่สุดนับตั้งแต่เครื่องบินถูกยิงตกเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว(17) ด้วยปฏิเสธต่อบทบาทของรัสเซียในเหตุการณ์ต่างๆทางภาคตะวันออกของยูเครนที่ฝ่ายกบฏยึดครองอยู่ และให้คำจำกัดความจุดยืนของตะวันตกว่า "แปลกและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้"
ผู้นำรายนี้พูดกล่าวหาสหรัฐฯโดยอ้อมๆว่ากุมบังเหียนเรื่องราวต่างๆในเคียฟ พยายามระรานมอสโกและแทรกแซงกิจการภายในของรัสเซีย "วิธีการแบบนั้น ใช้ไม่ได้ผลกับรัสเซียหรอก"
ความเห็นที่เผยแพร่ผ่านสถานีโทรทัศน์ครั้งนี้ เป็นการอ่านจากสมุดจดบันทึก ณ บริเวณที่นั่งหัวโต๊ะซึ่งขนาบข้างด้วยคณะรัฐบาล สมาชิกรัฐสภาระดับอาวุโส รวมถึงเจ้าหน้าที่ความมั่นคงและกลาโหมระดับสูง ขณะที่คำพูดของนายปูตินดูมีความหนักแน่นกว่าการให้สัมภาษณ์ผ่านโทรทัศน์สั้นๆต่อกรณีเที่ยวบิน MH17 ซึ่งเผยแพร่ในช่วงเช้าวันจันทร์(21) ซึ่งหนนั้นเขาดูอ่อนล้าและขาดความเชื่อมั่นผิดปกติ
อย่างไรก็ตามคราวนี้ เขาไม่ได้ใส่ใจต่อคำพูดของสหรัฐฯและเหล่าผู้นำฝักใฝ่ยุโรปของยูเครนที่กล่าวหามอสโกให้การสนับสนุนอาวุธแก่ฝ่ายกบฏ ในนั้นรวมถึงระบบขีปนาวุธที่ยิงเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส จนตก ทว่าคำสัญญาที่จะใช้อิทธิพลของรัสเซียต่อฝ่ายกบฏก็ดูจะคลุมเครือ "เราถูกร้องขอให้ใช้อิทธิพลของเรากับพวกแบ่งแยกดินแดนทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน แน่นอนเราจะทำทุกอย่างภายใต้อำนาจของเรา แต่แค่นี้มันยังไม่พอหรอก" ปูตินบอกกับเหล่าสภาความมั่นคง"