นายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1-3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยนายศรีราชา เจริญพานิช และนายพรเพชร วิชิตชลชัย และคณะ ได้เดินทางไปร่วมประชุมกรรมการบริหารสมาคมผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งเอเชีย ที่ประเทศเกาหลี รวมทั้งเข้าร่วมการประชุมนานาชาติเกี่ยวกับผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ประเทศเกาหลีเป็นเจ้าภาพ โดยที่ประชุมกรรมการบริหารได้มีการหารือในประเด็นต่างๆ ซึ่งรวมถึงข้อเสนอที่ประเทศไทยให้ทำข้อตกลงร่วมกันระหว่างสมาคมผู้ตรวจการแผ่นดินแห่งเอเชีย ที่นางผาณิต เป็นประธานฯ ร่วมกับสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ฝึกอบรม การทำวิจัยร่วมกัน ซึ่งจะช่วยทำให้เกิดการขยายองค์ความรู้ในเรื่องของการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐในมิติต่างๆ ซึ่งสมาชิกเห็นด้วยกับข้อหารือของไทย เพราะเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อวงการผู้ตรวจการแผ่นดินทั่วโลก พร้อมทั้งสนับสนุนให้มีการดำเนินการในรายละเอียดต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้เสนอตัวที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทั่วโลก เมื่อปีที่แล้วก็ได้ดำเนินการมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศร่วมสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้วย ซึ่งครั้งต่อไปก็เป็นเช่นเดียวกัน เพราะเห็นถึงความพร้อมของประเทศไทย และขณะนี้กำลังหารือในรายละเอียด อย่างไรก็ตาม ได้มีการหารือนอกรอบกับนางไดแอน เวลบอร์น รองประธานสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศคนที่สอง และนายกุนเธอร์ กอร์เตอร์ เลขาธิการสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ ที่ได้มีการติดตามความคืบหน้าในการจัดงานของไทยที่ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมระดับโลกเกี่ยวกับผู้ตรวจการแผ่นดิน ครั้งที่ 11 ในปี 2559 ซึ่งฝ่ายไทยได้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมและความคืบหน้าในการดำเนินการ ซึ่งคณะผู้แทนทั้งสองของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ มีความพอใจเป็นอย่างมากที่ประเทศไทยมีความพร้อมในการจัดงาน แม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่มี คสช.ก็ตาม แต่นานาชาติก็ให้ความเชื่อถือประเทศไทยในการจัดประชุม ซึ่งนายกุนเธอร์ได้กล่าวย้ำในที่ประชุมที่ประเทศเกาหลีเกี่ยวกับความพร้อมของไทย ที่จะเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมนานาชาติในปี 2559 และการประชุมครั้งดังกล่าวจะถือเป็นการประชุมระดับโลกในทวีปเอเซียครั้งแรก
สำหรับการจัดประชุมดังกล่าวจะเป็นการแสดงให้นานาชาติเห็นถึงศักยภาพความพร้อมของประเทศไทยในมิติต่างๆ รวมถึงความจริงใจที่จะร่วมมือกับนานาชาติ โดยเฉพาะองค์กรที่เกี่ยวกับการส่งเสริมธรรมาภิบาล ซึ่งจะเป็นผลดีต่อประเทศไทย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว เพราะการประชุมดังกล่าวจะมีผู้แทนจากองค์กรต่างๆ มากกว่า 160 องค์กรทั่วโลกเข้าร่วมประชุม
นอกจากนี้ ยังได้เสนอตัวที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทั่วโลก เมื่อปีที่แล้วก็ได้ดำเนินการมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศร่วมสนับสนุนค่าใช้จ่ายด้วย ซึ่งครั้งต่อไปก็เป็นเช่นเดียวกัน เพราะเห็นถึงความพร้อมของประเทศไทย และขณะนี้กำลังหารือในรายละเอียด อย่างไรก็ตาม ได้มีการหารือนอกรอบกับนางไดแอน เวลบอร์น รองประธานสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศคนที่สอง และนายกุนเธอร์ กอร์เตอร์ เลขาธิการสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ ที่ได้มีการติดตามความคืบหน้าในการจัดงานของไทยที่ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมระดับโลกเกี่ยวกับผู้ตรวจการแผ่นดิน ครั้งที่ 11 ในปี 2559 ซึ่งฝ่ายไทยได้แสดงให้เห็นถึงความพร้อมและความคืบหน้าในการดำเนินการ ซึ่งคณะผู้แทนทั้งสองของสถาบันผู้ตรวจการแผ่นดินระหว่างประเทศ มีความพอใจเป็นอย่างมากที่ประเทศไทยมีความพร้อมในการจัดงาน แม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่มี คสช.ก็ตาม แต่นานาชาติก็ให้ความเชื่อถือประเทศไทยในการจัดประชุม ซึ่งนายกุนเธอร์ได้กล่าวย้ำในที่ประชุมที่ประเทศเกาหลีเกี่ยวกับความพร้อมของไทย ที่จะเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมนานาชาติในปี 2559 และการประชุมครั้งดังกล่าวจะถือเป็นการประชุมระดับโลกในทวีปเอเซียครั้งแรก
สำหรับการจัดประชุมดังกล่าวจะเป็นการแสดงให้นานาชาติเห็นถึงศักยภาพความพร้อมของประเทศไทยในมิติต่างๆ รวมถึงความจริงใจที่จะร่วมมือกับนานาชาติ โดยเฉพาะองค์กรที่เกี่ยวกับการส่งเสริมธรรมาภิบาล ซึ่งจะเป็นผลดีต่อประเทศไทย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว เพราะการประชุมดังกล่าวจะมีผู้แทนจากองค์กรต่างๆ มากกว่า 160 องค์กรทั่วโลกเข้าร่วมประชุม