ระยอง - ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลพนานิคม อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง ร้องนายทุนนำแบ็กโฮขุดทราย และตั้งเครื่องล้างทรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ว่าฯ ระยอง สั่งอุตสาหกรรมตรวจสอบด่วน
วันนี้ (22 ก.ค.) นายวิเชียร เอี่ยมสะอาด อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 345 หมู่ 6 ต.พนานิคม อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ได้นำข้อมูลเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนกรณีกลุ่มนายทุนนำเครื่องจักร รถแบ็กโฮ 6 คัน เข้าทำการขุดทราย พร้อมติดตั้งเครื่องล้างทราย ติดสนามกอล์ฟระยองคันทรีคลับ (เกรดเลค) ขนใส่รถบรรทุกสิบล้อวิ่งจำนวนหลายเที่ยว ส่งผลกระทบทำให้ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อพังเสียหาย ในพื้นที่หมู่ 5 ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง โดยไม่ได้รับอนุญาต
หลังจากเคยนำเรื่องนี้เข้าร้องเรียนต่อหลายหน่วยงานมาแล้ว จนผู้ตรวจการแผ่นดินโดย ดร.ศรีราชา เจริญพานิช พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางมาดูข้อเท็จจริง พร้อมสั่งให้ตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว และให้ตรวจสอบมีการขออนุญาตขุดทรายจากอุตสาหกรรมจังหวัดระยองหรือไม่ และสั่งให้หยุดดำเนินการไว้ก่อน แต่พอเจ้าหน้าที่เดินทางกลับก็ดำเนินการขุดทรายต่อมาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ เคยร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ อุตสาหกรรมจังหวัดระยองมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปลวกแดง ศูนย์ดำรงธรรม และผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง แต่เรื่องก็เงียบหายไป และยังมีการขุดทรายอย่างต่อเนื่อง
“เมื่อร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ แล้วก็ยังไม่สามารถหยุดการกระทำของกลุ่มนายทุนลอบขุดทรายโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ วันนี้ผมจึงอยากขอร้องให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่มีอำนาจควบคุมดูแลกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดระยอง เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว”
วันเดียวกัน นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และคณะ ได้เดินทางไปที่ที่ว่าการอำเภอปลวกแดง จ.ระยอง พร้อมกับมอบนโยบายให้นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องถิ่น และได้กำชับให้นายอำเภอกรณีมีการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ หรือบุกรุกที่สาธารณะต้องลงไปดูด้วยตนเอง และรายงานให้ทราบทันที
“ส่วนกรณีการร้องเรียนเรื่องขุดทรายโดยไม่ได้รับอนุญาตในพื้นที่หมู่ 5 ต.มาบยางพร ว่ามีการใช้เครื่องจักร ตั้งเครื่องร่อนทราย เป็นพื้นที่นับ 100 ไร่ ทราบว่าเรื่องนี้มีการร้องเรียนมานานแล้ว ขณะนี้ได้สั่งการให้อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการขออนุญาตขุดทรายหรือไม่ แล้วรายงานให้ทราบภายใน 5 วัน หลังจากนั้นจะนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง” ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าว