องค์การอนามัยโลกเตือนเมื่อวันพฤหัสบดี(26) การแพร่ระบาดของอีโบลาที่เริ่มจากในกินี แล้วลุกลามสู่วิกฤตข้ามพรมแดนในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก อาจแผ่ลามขยายวงกว้างสู่ประเทศอื่นๆอีก พร้อมเรียกร้องดำเนินการอย่างสุดกำลังเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้
แม้มีความพยายามจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับชาติและเหล่าองค์กรความช่วยเหลือระหว่างประเทศ ในความพยายามระงับการแพร่ระบาดของอีโบลา แต่ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบว่ามีผู้ติดเชื้อแล้ว 635 คนในกินี เซียร์ราลีโอน และไลบีเรีย ในนั้นเสียชีวิตแล้ว 399 ราย นับตั้งแต่มันเริ่มต้นระบาดในดือนกุมภาพันธ์
วิกฤตครั้งนี้กลายเป็นการแพร่ระบาดที่คร่าชีวิตผู้คนมาที่สุดนับตั้งแต่ไวรัสอีโบลาปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกในแอฟริกากลางเมื่อปี 1976 และเวลานี้จำนวนผู้ติดเชื้อก็สูงขึ้นเรื่อยๆ
"ตอนนี้มันไม่ใช่การแพร่ระบาดเฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่งแล้ว แต่มันกลายเป็นวิกฤตระดับอนุภูมิภาคที่จำเป็นต้องมีการลงมืออย่างจริงจังจากรัฐบาลและภาคส่วนต่างๆ" หลุยส์ แซมโบ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก(WHO)ภูมิภาคแอฟริการะบุในถ้อยแถลง "WHO มีความกังวลใหญ่หลวงต่อการที่มันกำลังแพร่เชื้อข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่นเดียวกับความเป็นไปได้ที่มันอาจแผ่ลามสู่ระดับนานาชาติเพิ่มเติม"
ในแนวทางจัดการกับวิกฤต องค์การอนามัยโลกบอกว่าจะเรียกประชุมฉุกเฉินเหล่ารัฐมนตรีสาธารณสุขจาก 11 ชาติที่กรุงอักกรา ประเทศกานาในวันที่ 2 และ 3 กรกฎาคม เพื่อริเริ่มแผนตอบสนองระหว่างประเทศที่กว้างขวางและครอบคลุม
แม้มีความพยายามจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับชาติและเหล่าองค์กรความช่วยเหลือระหว่างประเทศ ในความพยายามระงับการแพร่ระบาดของอีโบลา แต่ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบว่ามีผู้ติดเชื้อแล้ว 635 คนในกินี เซียร์ราลีโอน และไลบีเรีย ในนั้นเสียชีวิตแล้ว 399 ราย นับตั้งแต่มันเริ่มต้นระบาดในดือนกุมภาพันธ์
วิกฤตครั้งนี้กลายเป็นการแพร่ระบาดที่คร่าชีวิตผู้คนมาที่สุดนับตั้งแต่ไวรัสอีโบลาปรากฏตัวขึ้นครั้งแรกในแอฟริกากลางเมื่อปี 1976 และเวลานี้จำนวนผู้ติดเชื้อก็สูงขึ้นเรื่อยๆ
"ตอนนี้มันไม่ใช่การแพร่ระบาดเฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่งแล้ว แต่มันกลายเป็นวิกฤตระดับอนุภูมิภาคที่จำเป็นต้องมีการลงมืออย่างจริงจังจากรัฐบาลและภาคส่วนต่างๆ" หลุยส์ แซมโบ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก(WHO)ภูมิภาคแอฟริการะบุในถ้อยแถลง "WHO มีความกังวลใหญ่หลวงต่อการที่มันกำลังแพร่เชื้อข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่นเดียวกับความเป็นไปได้ที่มันอาจแผ่ลามสู่ระดับนานาชาติเพิ่มเติม"
ในแนวทางจัดการกับวิกฤต องค์การอนามัยโลกบอกว่าจะเรียกประชุมฉุกเฉินเหล่ารัฐมนตรีสาธารณสุขจาก 11 ชาติที่กรุงอักกรา ประเทศกานาในวันที่ 2 และ 3 กรกฎาคม เพื่อริเริ่มแผนตอบสนองระหว่างประเทศที่กว้างขวางและครอบคลุม