พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า หลังจาก ปปง.ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า ถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้โอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม หรือตู้รับฝากเงินผ่านทางสายด่วน ปปง. 1710 ตั้งแต่ 4 เมษายน 2556 จนถึงปัจจุบัน มีผู้เสียหายเกือบ 200 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท โดยเหล่ามิจฉาชีพนั้นจะใช้บัญชีของผู้รับจ้างเปิดบัญชีในการหลอกให้เหยื่อโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม โดยคนร้ายจะออกไปตามอำเภอในจังหวัดต่าง ๆ ติดต่อผู้ที่ต้องการขายสมุดบัญชีธนาคาร พร้อมบัตรเอทีเอ็ม โดยจะตอบแทนเป็นเงิน 2,000-3,000 บาทต่อบัญชี ซึ่งบางคนเปิดขายบัญชีให้คนร้าย 10-20 บัญชี
ส่วนประชาชนที่ขายบัญชีให้คนร้ายมักไม่ทราบว่าจะถูกนำไปใช้กระทำผิดกฎหมาย พบว่าในภาคเหนือมีผู้รับจ้างเปิดบัญชีให้คนร้ายมากที่สุดถึงร้อยละ 69 รองลงมาคือ ภาคกลาง ร้อยละ 24 จังหวัดที่พบมากที่สุดคือเชียงใหม่ 111 รายชื่อ โดยทาง ปปง.ได้ตรวจสอบบัญชีที่พบว่าเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงกับคนร้ายแก๊ง คอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติด การพนันฟุตบอล รวมไปถึงการค้ามนุษย์ด้วย ทาง ปปง.ได้ประกาศรายชื่อผู้ถูกใช้บัญชีในการกระทำผิดให้แก่คนร้ายมีจำนวน 203 ราย ตรวจสอบรายชื่อได้ที่เว็บไซต์ ปปง.ที่ www.amlo.go.th และขอให้รีบไปปิดบัญชีที่ได้เปิดให้กลุ่มคนร้ายภายในเวลา 1 เดือน หากไม่ปิดในระยะเวลาที่กำหนด ปปง. จะใช้มาตรการทางกฎหมายปราบปรามฟอกเงินอย่างเด็ดขาด ซึ่งได้ประสานกับทางธนาคารต่างให้ร่วมตรวจสอบรายชื่อผู้ต้องสงสัยแล้วด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ปปง.ได้ออกหมายจับกับผู้รับจ้างเปิดบัญชีไปแล้ว 170 คน และในจำนวนนี้ถูกจับไปแล้ว 8 คน และ 1 ใน 8 คนถูกพิพากษาจำคุก 3 ปีทันทีไม่รอลงอาญา จึงขอเตือนให้ประชาชนที่หลงผิดรีบปิดบัญชีกับธนาคารต่างๆ โดยเร็ว เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ให้ความร่วมมือกับมิจฉาชีพ เข้าข่ายเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งความผิดดังกล่าวมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนประชาชนที่ขายบัญชีให้คนร้ายมักไม่ทราบว่าจะถูกนำไปใช้กระทำผิดกฎหมาย พบว่าในภาคเหนือมีผู้รับจ้างเปิดบัญชีให้คนร้ายมากที่สุดถึงร้อยละ 69 รองลงมาคือ ภาคกลาง ร้อยละ 24 จังหวัดที่พบมากที่สุดคือเชียงใหม่ 111 รายชื่อ โดยทาง ปปง.ได้ตรวจสอบบัญชีที่พบว่าเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงกับคนร้ายแก๊ง คอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติด การพนันฟุตบอล รวมไปถึงการค้ามนุษย์ด้วย ทาง ปปง.ได้ประกาศรายชื่อผู้ถูกใช้บัญชีในการกระทำผิดให้แก่คนร้ายมีจำนวน 203 ราย ตรวจสอบรายชื่อได้ที่เว็บไซต์ ปปง.ที่ www.amlo.go.th และขอให้รีบไปปิดบัญชีที่ได้เปิดให้กลุ่มคนร้ายภายในเวลา 1 เดือน หากไม่ปิดในระยะเวลาที่กำหนด ปปง. จะใช้มาตรการทางกฎหมายปราบปรามฟอกเงินอย่างเด็ดขาด ซึ่งได้ประสานกับทางธนาคารต่างให้ร่วมตรวจสอบรายชื่อผู้ต้องสงสัยแล้วด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ปปง.ได้ออกหมายจับกับผู้รับจ้างเปิดบัญชีไปแล้ว 170 คน และในจำนวนนี้ถูกจับไปแล้ว 8 คน และ 1 ใน 8 คนถูกพิพากษาจำคุก 3 ปีทันทีไม่รอลงอาญา จึงขอเตือนให้ประชาชนที่หลงผิดรีบปิดบัญชีกับธนาคารต่างๆ โดยเร็ว เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่ให้ความร่วมมือกับมิจฉาชีพ เข้าข่ายเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งความผิดดังกล่าวมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ