กองกำลังอาวุธซึ่งนำโดยนักรบญิฮัดจากกลุ่มISIL เข้าโจมตีโรงกลั่นน้ำมันแห่งใหญ่ที่สุดของอิรักเมื่อวันพุธ (18 มิ.ย.) ขณะที่นายกรัฐมนตรีนูรี อัล-มาลิกี พยายามแก้สถานการณ์ด้วยการปลดผู้บัญชาการความมั่นคง พร้อมจับมือศัตรูทางการเมืองโชว์ความเป็นเอกภาพ
เจ้าหน้าที่อาวุโสและลูกจ้างนิคมกลั่นน้ำมันไบจี ในจังหวัดซาลาเฮดดิน ทางตอนเหนือของกรุงแบกแดด ซึ่งถือเป็นโรงกลั่นน้ำมันใหญ่ที่สุดของอิรัก เปิดเผยว่า นิคมแห่งนี้ถูกบุกโจมตี และเกิดการปะทะสู้รบกันตั้งแต่เวลาประมาณ 4.00 น. (8.00 น. ตามเวลาไทย) ของวันพุธ
ทางด้าน พลโทกัสเซม อัตตา โฆษกด้านความมั่นคงของนายกรัฐมนตรีมาลิกี ได้แถลงในเวลาต่อมาว่า กองกำลังของรัฐบาลสามารถขับไล่ผู้โจมตีนิคมน้ำมันไบจีออกไป โดยมีนักรบสุหนี่เสียชีวิต 40 คน แต่เขาไม่ได้กล่าวถึงความสูญเสียของฝ่ายรัฐบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสและลูกจ้างนิคมระบุว่า มีถังขนาดใหญ่ที่บรรจุผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นแล้วบางส่วนเกิดไฟลุกไหม้ และเจ้าหน้าที่กองกำลังความมั่นคงของอิรักจำนวนหนึ่งก็ได้รับบาดเจ็บ
โรงกลั่นแห่งนี้ได้ปิดดำเนินการและอพยพพนักงานเกือบทั้งหมดไปตั้งแต่วันอังคาร (17) เนื่องจากดีมานด์ลดลง อันเป็นผลต่อเนื่องจากสถานการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น นับตั้งแต่ที่กองกำลังอาวุธฝ่ายสุหนี่ ที่นำโดย กลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและเลแวนต์ (Islamic State in Iraq and the Levant หรือ ISIL ทั้งนี้ยังมีผู้เรียกกลุ่มนี้ว่า Islamic State in Iraq and al-Sham หรือ ISIS) เปิดการรุกใหญ่ยึดเมืองสำคัญทางภาคเหนือของอิรักในสัปดาห์ที่แล้ว
บรรดาผู้ผลิตน้ำมันทั่วโลกจับตาสถานการณ์ในอิรักอย่างใกล้ชิด เนื่องจากประเทศนี้ส่งออกน้ำมัน 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ทางการแบกแดดยืนยันว่า ซัปพลายน้ำมันดิบยังคงปลอดภัย อย่างน้อยในเวลานี้
รีเบ็กกา โอคีฟฟี หัวหน้าแผนกลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์ อินเตอร์แอกทีฟ อินเวสเตอร์ ขานรับว่า การโจมตีโรงกลั่นน้ำมันไบจี มีผลเพียงจำกัดต่อประเทศอื่นๆ เนื่องจากโรงกลั่นดังกล่าวป้อนน้ำมันสำหรับใช้ภายในอิรักเท่านั้น
อย่างไรก็ดี หากกองกำลังที่นำโดย ISIL ยังคงรุกคืบเข้าสู่แบกแดดและแหล่งน้ำมันสำคัญทางใต้ของอิรัก เสถียรภาพราคาน้ำมันในปัจจุบันอาจสั่นคลอน อันจะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นรุนแรง
เจ้าหน้าที่อาวุโสและลูกจ้างนิคมกลั่นน้ำมันไบจี ในจังหวัดซาลาเฮดดิน ทางตอนเหนือของกรุงแบกแดด ซึ่งถือเป็นโรงกลั่นน้ำมันใหญ่ที่สุดของอิรัก เปิดเผยว่า นิคมแห่งนี้ถูกบุกโจมตี และเกิดการปะทะสู้รบกันตั้งแต่เวลาประมาณ 4.00 น. (8.00 น. ตามเวลาไทย) ของวันพุธ
ทางด้าน พลโทกัสเซม อัตตา โฆษกด้านความมั่นคงของนายกรัฐมนตรีมาลิกี ได้แถลงในเวลาต่อมาว่า กองกำลังของรัฐบาลสามารถขับไล่ผู้โจมตีนิคมน้ำมันไบจีออกไป โดยมีนักรบสุหนี่เสียชีวิต 40 คน แต่เขาไม่ได้กล่าวถึงความสูญเสียของฝ่ายรัฐบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสและลูกจ้างนิคมระบุว่า มีถังขนาดใหญ่ที่บรรจุผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นแล้วบางส่วนเกิดไฟลุกไหม้ และเจ้าหน้าที่กองกำลังความมั่นคงของอิรักจำนวนหนึ่งก็ได้รับบาดเจ็บ
โรงกลั่นแห่งนี้ได้ปิดดำเนินการและอพยพพนักงานเกือบทั้งหมดไปตั้งแต่วันอังคาร (17) เนื่องจากดีมานด์ลดลง อันเป็นผลต่อเนื่องจากสถานการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น นับตั้งแต่ที่กองกำลังอาวุธฝ่ายสุหนี่ ที่นำโดย กลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและเลแวนต์ (Islamic State in Iraq and the Levant หรือ ISIL ทั้งนี้ยังมีผู้เรียกกลุ่มนี้ว่า Islamic State in Iraq and al-Sham หรือ ISIS) เปิดการรุกใหญ่ยึดเมืองสำคัญทางภาคเหนือของอิรักในสัปดาห์ที่แล้ว
บรรดาผู้ผลิตน้ำมันทั่วโลกจับตาสถานการณ์ในอิรักอย่างใกล้ชิด เนื่องจากประเทศนี้ส่งออกน้ำมัน 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ทางการแบกแดดยืนยันว่า ซัปพลายน้ำมันดิบยังคงปลอดภัย อย่างน้อยในเวลานี้
รีเบ็กกา โอคีฟฟี หัวหน้าแผนกลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์ อินเตอร์แอกทีฟ อินเวสเตอร์ ขานรับว่า การโจมตีโรงกลั่นน้ำมันไบจี มีผลเพียงจำกัดต่อประเทศอื่นๆ เนื่องจากโรงกลั่นดังกล่าวป้อนน้ำมันสำหรับใช้ภายในอิรักเท่านั้น
อย่างไรก็ดี หากกองกำลังที่นำโดย ISIL ยังคงรุกคืบเข้าสู่แบกแดดและแหล่งน้ำมันสำคัญทางใต้ของอิรัก เสถียรภาพราคาน้ำมันในปัจจุบันอาจสั่นคลอน อันจะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นรุนแรง