สมาคมต่อต้านโลกร้อนเสนอ คสช.สั่ง กท.อุตฯสั่งปิดไออาร์พีซีเป็นการถาวร หลังก่อเหตุระเบิดแพร่กระจายมลพิษกระทบชุมชนและสิ่งแวดล้อมเผยเคยก่อเหตุซ้ำซากหลายครั้งจนชาวบ้านนอนผวา ชี้ กท.อุตสาหกรรมต้องใช้มาตรา 39 พรบ.โรงงาน 35 สั่งปิดโรงงานทันที
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นภายในโรงงานไออาร์พีซี (IRPC) ตำบลบ้านแลง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เมื่อค่ำวันที่ 9 มิถุนายน ( 18.05 น.) ที่ผ่านมาจนทำให้ชาวบ้านและชุมชนโดยรอบโรงงานดังกล่าว ตกใจหวาดผวากันเป็นจำนวนมากเพราะมีเสียงระเบิดเกิดขึ้นหลายครั้งและมีกลุ่มควันมลพิษสีดำทะมึนโพยพุ่งออกมาจำนวนมากนั้น ทราบว่าเป็นการระเบิดและลุกไหม้ของหน่วยกำจัดกำมะถันและไนโตรเจน หรือ Vacuum Gas Oil Hydrotreating : VGOHT ของกระบวนการผลิตปิโตรเคมี ซึ่งล้วนเป็นสารอันตราย หรือสารก่อมะเร็ง ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของชาวบ้าน หากสูดดมเอามลพิษเหล่านี้เข้าไปในร่างกาย และมีผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมโดยรวมของจังหวัดระยองด้วย
ทั้งนี้ในอดีตที่ผ่านมาโรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุในทำนองนี้แล้วหลายต่อหลายครั้ง รวมทั้งการเกิดแฟลร์ (Flare) เป็นกลุ่มควันดำโพยพุ่งออกมาบริเวณหอเผาของปล่องไฟโรงงานอยู่บ่อยครั้ง เป็นที่หวาดผวาของชาวตำบลบ้านแลงที่อยู่ใกล้โรงงานดังกล่าวตลอดมา แต่หน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กลับมิได้เสนอสั่งการหรือใช้อำนาจตาม พรบ.โรงงาน 2535 มาตรา 37 ประกอบมาตรา 39 เพื่อสั่งปิดโรงงานดังกล่าว หรือเพิกถอนใบอนุญาตโรงงานดังกล่าวเลย ทั้ง ๆ ที่มีรูปธรรมความผิดอย่างซ้ำซากหลายครั้งมาแล้ว ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ หากรอให้ระบบราชการทำหน้าที่ไปตามปกติ คงไม่เกิดมรรคผลในการแก้ไขปัญหาระยะยาวได้ เห็นว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ควรที่จะใช้อำนาจที่เด็ดขาดเพื่อสร้างความสุขให้กับคนระยอง โดยเร่งสั่งการให้รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม/ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ใช้อำนาจตามมาตรา 39 วรรคสาม ของ พรบ.โรงงาน 2535 เพื่อสั่งปิดโรงงานดังกล่าวเป็นการถาวรต่อไป และต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชาวบ้าน สิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมด้วยและหากเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังเพิกเฉย ไม่แก้ไขปัญหาตามที่กฎหมายบัญญัติ สมาคมฯจำต้องใช้สิทธิทางกฎหมายในการฟ้องร้องต่อศาลแทนชาวบ้านต่อไปแน่นอน
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นภายในโรงงานไออาร์พีซี (IRPC) ตำบลบ้านแลง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เมื่อค่ำวันที่ 9 มิถุนายน ( 18.05 น.) ที่ผ่านมาจนทำให้ชาวบ้านและชุมชนโดยรอบโรงงานดังกล่าว ตกใจหวาดผวากันเป็นจำนวนมากเพราะมีเสียงระเบิดเกิดขึ้นหลายครั้งและมีกลุ่มควันมลพิษสีดำทะมึนโพยพุ่งออกมาจำนวนมากนั้น ทราบว่าเป็นการระเบิดและลุกไหม้ของหน่วยกำจัดกำมะถันและไนโตรเจน หรือ Vacuum Gas Oil Hydrotreating : VGOHT ของกระบวนการผลิตปิโตรเคมี ซึ่งล้วนเป็นสารอันตราย หรือสารก่อมะเร็ง ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของชาวบ้าน หากสูดดมเอามลพิษเหล่านี้เข้าไปในร่างกาย และมีผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมโดยรวมของจังหวัดระยองด้วย
ทั้งนี้ในอดีตที่ผ่านมาโรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุในทำนองนี้แล้วหลายต่อหลายครั้ง รวมทั้งการเกิดแฟลร์ (Flare) เป็นกลุ่มควันดำโพยพุ่งออกมาบริเวณหอเผาของปล่องไฟโรงงานอยู่บ่อยครั้ง เป็นที่หวาดผวาของชาวตำบลบ้านแลงที่อยู่ใกล้โรงงานดังกล่าวตลอดมา แต่หน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กลับมิได้เสนอสั่งการหรือใช้อำนาจตาม พรบ.โรงงาน 2535 มาตรา 37 ประกอบมาตรา 39 เพื่อสั่งปิดโรงงานดังกล่าว หรือเพิกถอนใบอนุญาตโรงงานดังกล่าวเลย ทั้ง ๆ ที่มีรูปธรรมความผิดอย่างซ้ำซากหลายครั้งมาแล้ว ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้ หากรอให้ระบบราชการทำหน้าที่ไปตามปกติ คงไม่เกิดมรรคผลในการแก้ไขปัญหาระยะยาวได้ เห็นว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ควรที่จะใช้อำนาจที่เด็ดขาดเพื่อสร้างความสุขให้กับคนระยอง โดยเร่งสั่งการให้รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม/ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ใช้อำนาจตามมาตรา 39 วรรคสาม ของ พรบ.โรงงาน 2535 เพื่อสั่งปิดโรงงานดังกล่าวเป็นการถาวรต่อไป และต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชาวบ้าน สิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมด้วยและหากเรื่องนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังเพิกเฉย ไม่แก้ไขปัญหาตามที่กฎหมายบัญญัติ สมาคมฯจำต้องใช้สิทธิทางกฎหมายในการฟ้องร้องต่อศาลแทนชาวบ้านต่อไปแน่นอน