นายธัชพล กาญจนกูล รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินเตรียมวงเงินประมาณ 1พันล้านบาท เพื่อบรรเทาทุกข์สำหรับลูกค้าธนาคารออมสินที่ประสบเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง แพร่ น่าน และพะเยา จนได้รับความเสียหายและ ส่งผลกระทบต่อลูกค้าและประชาชนทั่วไป ธนาคารออมสินจึงมีมาตรการบรรเทาความเดือดร้อน
สำหรับมาตรการบรรเทาภาระลูกค้าสินเชื่อของธนาคารออมสินเป็นกรณีเร่งด่วนนั้น ธนาคารออมสินจะพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับลดเงินงวด หรือขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ออกไปอีกไม่เกิน 1 ปี สามารถยื่นความจำนงได้ที่ธนาคารออมสินสาขาที่ลูกค้ามีบัญชีเงินกู้หรือทุกสาขาในพื้นที่ภาคเหนือ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2557
ขณะเดียวกัน ธนาคารออมสินมีมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือเพิ่มเติมกรณีฉุกเฉินเร่งด่วน สำหรับลูกค้าเดิมทุกประเภทสินเชื่อ ด้วยการให้สินเชื่อเพิ่มเติม โดยสินเชื่อธุรกิจและเอสเอ็มอี ธนาคารให้กู้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MLR ลบร้อยละ 2.00 ต่อปี ชำระเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี ส่วนลูกค้าเดิม สินเชื่อธุรกิจ ห้องแถว สามารถกู้ได้รายละไม่เกินร้อยละ 20 ของจำนวนเงินกู้ตามสัญญาเดิม แต่ไม่เกิน 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MLR ลบร้อยละ 2.00 ต่อปี ชำระเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี
ขณะที่ลูกค้าเดิมสินเชื่อเคหะ ธนาคารให้กู้กรณีฉุกเฉินรายละไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนเงินกู้ตามสัญญาเดิม แต่ไม่เกิน 300,000 บาท ผ่อนชำระภายใน 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ MLR ลบร้อยละ 2.375 ต่อปี ตลอดระยะเวลาผ่อนชำระ 5 ปี โดยไม่ต้องประเมินหลักทรัพย์ และสำหรับลูกค้าเดิม ให้กู้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ได้รายละไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาประเมินหลักทรัพย์เดิม และไม่เกินรายละ 300,000 บาท ผ่อนชำระภายใน 5 ปี อัตราดอกเบี้ย MLR ลบร้อยละ 2.375 ต่อปี ตลอดระยะเวลา 5 ปี ส่วนประชาชนทั่วไป ให้กู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยรายละไม่เกินร้อยละ 95 ของราคาประเมินหลักทรัพย์ และไม่เกินรายละ 300,000 บาท ผ่อนชำระภายใน 5 ปี อัตราดอกเบี้ย MLR ลบร้อยละ 2.375 ต่อปี ตลอดระยะเวลา 5 ปี
ส่วนลูกค้าเดิม สินเชื่อโครงการธนาคารประชาชน สินเชื่อโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ภาคประชาชน (หนี้นอกระบบ) และสินเชื่อองค์กรชุมชน รวมถึงประชาชนทั่วไป สามารถใช้บริการเงินกู้ฉุกเฉิน วงเงินกู้รายละไม่เกิน 30,000 บาท ระยะเวลาชำระเงินกู้ไม่เกิน 2 ปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือ MRR ต่อปี โดยที่ลูกค้าเดิมมีประวัติการออมเงินดี หรือชำระหนี้ดี ไม่ต้องใช้หลักประกัน ในการกู้เงินฉุกเฉินนี้
สำหรับลูกค้าสินเชื่อบุคคลและสินเชื่อเพื่อพัฒนากลุ่มอาชีพธนาคารให้กู้กรณีฉุกเฉิน รายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี ชำระเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี พร้อมผ่อนปรนเงื่อนไขสำคัญ คือ ไม่ต้องใช้บุคคลหรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน ส่วนลูกค้าโครงการบ้านเอื้ออาทร ธนาคารมีมาตรการช่วยเหลือ 3 ทางเลือก คือ พักชำระเงินต้น สูงสุดได้ไม่เกิน 6 เดือน (จ่ายชำระแต่ดอกเบี้ย) พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับลดเงินงวด หรือขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ไม่เกิน 1 ปี แต่ต้องขึ้นอยู่กับสถานะของลูกค้าก่อนเข้ามาตรการ
สำหรับมาตรการบรรเทาภาระลูกค้าสินเชื่อของธนาคารออมสินเป็นกรณีเร่งด่วนนั้น ธนาคารออมสินจะพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับลดเงินงวด หรือขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ออกไปอีกไม่เกิน 1 ปี สามารถยื่นความจำนงได้ที่ธนาคารออมสินสาขาที่ลูกค้ามีบัญชีเงินกู้หรือทุกสาขาในพื้นที่ภาคเหนือ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2557
ขณะเดียวกัน ธนาคารออมสินมีมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือเพิ่มเติมกรณีฉุกเฉินเร่งด่วน สำหรับลูกค้าเดิมทุกประเภทสินเชื่อ ด้วยการให้สินเชื่อเพิ่มเติม โดยสินเชื่อธุรกิจและเอสเอ็มอี ธนาคารให้กู้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MLR ลบร้อยละ 2.00 ต่อปี ชำระเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี ส่วนลูกค้าเดิม สินเชื่อธุรกิจ ห้องแถว สามารถกู้ได้รายละไม่เกินร้อยละ 20 ของจำนวนเงินกู้ตามสัญญาเดิม แต่ไม่เกิน 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MLR ลบร้อยละ 2.00 ต่อปี ชำระเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี
ขณะที่ลูกค้าเดิมสินเชื่อเคหะ ธนาคารให้กู้กรณีฉุกเฉินรายละไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนเงินกู้ตามสัญญาเดิม แต่ไม่เกิน 300,000 บาท ผ่อนชำระภายใน 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ MLR ลบร้อยละ 2.375 ต่อปี ตลอดระยะเวลาผ่อนชำระ 5 ปี โดยไม่ต้องประเมินหลักทรัพย์ และสำหรับลูกค้าเดิม ให้กู้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ได้รายละไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาประเมินหลักทรัพย์เดิม และไม่เกินรายละ 300,000 บาท ผ่อนชำระภายใน 5 ปี อัตราดอกเบี้ย MLR ลบร้อยละ 2.375 ต่อปี ตลอดระยะเวลา 5 ปี ส่วนประชาชนทั่วไป ให้กู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยรายละไม่เกินร้อยละ 95 ของราคาประเมินหลักทรัพย์ และไม่เกินรายละ 300,000 บาท ผ่อนชำระภายใน 5 ปี อัตราดอกเบี้ย MLR ลบร้อยละ 2.375 ต่อปี ตลอดระยะเวลา 5 ปี
ส่วนลูกค้าเดิม สินเชื่อโครงการธนาคารประชาชน สินเชื่อโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ภาคประชาชน (หนี้นอกระบบ) และสินเชื่อองค์กรชุมชน รวมถึงประชาชนทั่วไป สามารถใช้บริการเงินกู้ฉุกเฉิน วงเงินกู้รายละไม่เกิน 30,000 บาท ระยะเวลาชำระเงินกู้ไม่เกิน 2 ปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือ MRR ต่อปี โดยที่ลูกค้าเดิมมีประวัติการออมเงินดี หรือชำระหนี้ดี ไม่ต้องใช้หลักประกัน ในการกู้เงินฉุกเฉินนี้
สำหรับลูกค้าสินเชื่อบุคคลและสินเชื่อเพื่อพัฒนากลุ่มอาชีพธนาคารให้กู้กรณีฉุกเฉิน รายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี ชำระเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี พร้อมผ่อนปรนเงื่อนไขสำคัญ คือ ไม่ต้องใช้บุคคลหรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน ส่วนลูกค้าโครงการบ้านเอื้ออาทร ธนาคารมีมาตรการช่วยเหลือ 3 ทางเลือก คือ พักชำระเงินต้น สูงสุดได้ไม่เกิน 6 เดือน (จ่ายชำระแต่ดอกเบี้ย) พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับลดเงินงวด หรือขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ไม่เกิน 1 ปี แต่ต้องขึ้นอยู่กับสถานะของลูกค้าก่อนเข้ามาตรการ