“กรุงไทย” โต้ข่าวปล่อยสินเชื่ออเนกประสงค์ อุ้มโครงการจำนำข้าว กล่าวหาผู้บริหารเป็นใกล้ชิด “ทักษิณ” ยันข่าวที่แพร่สะพัดในโซเชียลมีเดียไม่เป็นความจริง ถือเป็นเรื่องเท็จสร้างความเสียหายให้แก่ธนาคาร เชื่อมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนขาดความเชื่อถือ และแห่ถอนเงินไปฝากแบงก์อื่นแทน พร้อมย้ำสินเชื่อดังกล่าวจะปล่อยให้ ขรก. ที่มีรายได้ประจำเกิน 10 ปี ลั่นธนาคารมีความเป็นห่วงชาวนา แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบ และไม่ผิดกฎหมาย
นายเวทย์ นุชเจริญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวถึงกระแสข่าวลือที่แพร่สะพัดในโซเชียลมีเดีย โดยระบุว่า ธนาคารกรุงไทย ได้อนุมัติเงินกู้อเนกประสงค์เพื่อใช้ในโครงการจำนำข้าวนั้น ธนาคารขอยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง
นายเวทย์ กล่าวเสริมว่า สินเชื่ออเนกประสงค์เป็นสินเชื่อบุคคล ที่ธนาคารให้บริการแก่กลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และพนักงานบริษัทเอกชน ที่มีรายได้เงินเดือนประจำมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี สำหรับเสริมสภาพคล่อง และใช้จ่ายเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
อย่างไรก็ตาม สำหรับความเดือดร้อนของชาวนานั้น ธนาคารมีความเข้าใจ และห่วงใย แต่การปล่อยกู้ต้องเป็นไปตามระเบียบ คำนึงถึงความเสี่ยงในทุกด้าน รวมทั้งต้องไม่ผิดกฎหมาย ที่สำคัญธนาคารยึดมั่นการดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบ คำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่ม
ทั้งนี้ เนื่องจากธนาคารเป็นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีผู้ถือหุ้นรายย่อย และสถาบันมากกว่า 45% อยู่ภายใต้การดูแลและกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมทั้งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
ส่วนกรณีที่มีการปล่อยข่าวที่ระบุว่า ผู้บริหารของธนาคารเป็นคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถือเป็นเรื่องเท็จสร้างความเสียหายให้แก่ธนาคาร เชื่อว่ามีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนขาดความเชื่อถือ และแห่ถอนเงินฝากออกจากธนาคารแล้วไปฝากธนาคารอื่นแทน
ดังนั้น ธนาคารจึงขอยืนยันว่า สภาพคล่องของธนาคารอยู่ในภาวะปกติ ไม่ได้มีลูกค้าแห่มาถอนเงินฝากออกไปตามที่เป็นข่าว แต่ยอมรับว่า หลังมีข่าวลือเหล่านี้ออกไปมีลูกค้าโทรศัพท์เข้ามาสอบถามเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ของธนาคารก็ได้ชี้แจงให้ลูกค้าเข้าใจแล้ว อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะดำเนินคดีต่อผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ เพราะเรื่องนี้สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียง รวมทั้งสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ และการเงินของประเทศด้วย