นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง สั่งสำนักงานเศรษฐกิจการคลังตั้งคณะทำงานศึกษามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ และมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ และการเมืองในช่วงรัฐบาลรักษาการ พร้อมนัดผู้บริหารธนาคารเฉพาะกิจของรัฐเข้าหารือในสัปดาห์หน้า เพื่อขอความร่วมมือด้วย หลังพบธนาคารเฉพาะกิจของรัฐยังมีสภาพคล่องสูง โดยมีเงินฝากรวมกันกว่า 3,600,000 ล้านบาท
ด้าน น.ส.ปาริฉัตร เหล่าธีระศิริวงศ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี แบงก์ กล่าวว่า ธนาคารได้เข้าไปช่วยเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง ซึ่งมีมูลหนี้ไม่เกิน 5 ล้านบาท สามารถพักชำระเงินต้นนาน 6 เดือน พร้อมจัดสรรวงเงินสินเชื่อ 8,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องเอสเอ็มอี แต่ยอมรับว่า ปัญหาการเมืองที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ และการเลือกตั้งอาจล่าช้ากว่าคาดการณ์ ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการช่วยเหลือ
ขณะที่ นายวัลลภ เตชะไพบูลย์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย.เสนอให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. สนับสนุนวงเงิน 300 ล้านบาท เพื่อลดภาระดอกเบี้ยค้ำประกันปีแรกของเอสเอ็มอีในระหว่างนี้ บสย.จะช่วยค้ำประกันเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพ ซึ่งเหลือวงเงินประมาณ 170,000 ล้านบาท
ด้าน น.ส.ปาริฉัตร เหล่าธีระศิริวงศ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี แบงก์ กล่าวว่า ธนาคารได้เข้าไปช่วยเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง ซึ่งมีมูลหนี้ไม่เกิน 5 ล้านบาท สามารถพักชำระเงินต้นนาน 6 เดือน พร้อมจัดสรรวงเงินสินเชื่อ 8,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องเอสเอ็มอี แต่ยอมรับว่า ปัญหาการเมืองที่มีแนวโน้มยืดเยื้อ และการเลือกตั้งอาจล่าช้ากว่าคาดการณ์ ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการช่วยเหลือ
ขณะที่ นายวัลลภ เตชะไพบูลย์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย.เสนอให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. สนับสนุนวงเงิน 300 ล้านบาท เพื่อลดภาระดอกเบี้ยค้ำประกันปีแรกของเอสเอ็มอีในระหว่างนี้ บสย.จะช่วยค้ำประกันเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพ ซึ่งเหลือวงเงินประมาณ 170,000 ล้านบาท